รายงานข่าวโดย...แผนกคริสตศาสนธรรม
ภาพข่าวโดย...แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ

แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จัดหลักสูตรการอบรมพระคัมภีร์สำหรับผู้ใหญ่ ในวันเสาร์ภาคเช้า ซึ่งทางแผนกฯได้จัดการอบรมเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1990 – ปัจจุบัน เป็นปีที่ 20 แล้ว  และในการจัดการอบรมแต่ละครั้ง ก็ได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่ที่เข้ารับการอบรมอย่างสม่ำเสมอตลอดมา เพื่อส่งเสริมให้คริสตชนผู้ใหญ่         มีความเข้าใจเนื้อหาพระคัมภีร์  สามารถฟังและอ่าน พระคัมภีร์   อีกทั้งนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น

ในปีนี้ทางแผนกฯ จัดอบรมหัวข้อ พันธสัญญาเดิม “ปัญจบรรพ” โดยมี คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม เป็นวิทยากร (ปีที่ 14)  ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม - 7 พฤศจิกายน 2552 จำนวน 10 ครั้ง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารคาทอลิกแพร่ธรรม ฝ่ายงานอภิบาล ฯ  มีผู้สมัครมารับการอบรมประมาณ 94 คน เป็นผู้ที่สมัครเรียนใหม่ในปีนี้ 50 คน (ผู้ใหญ่ 46 คน เด็ก 4 คน)   มีผู้มาเรียนในแต่ละครั้งประมาณ 55 – 70  คน  และ มีผู้มาเรียนสม่ำเสมออย่างน้อย 7 ครั้ง (ร้อยละ 70 ขึ้นไป) จะได้รับวุฒิบัตร

อนึ่ง ในวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552 เวลา 11.30 น. คุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม ผู้จัดการแผนกคริสตศาสนธรรม  ได้จัดพิธีมอบวุฒิบัตรแก่ผู้สมัครเรียนพระคัมภีร์ จำนวน 66 คน โดยพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช   เป็นประธาน โอกาสนี้ คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้อำนวยการ ฝ่ายธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เข้าร่วมงานพร้อมกล่าวรายงาน ร่วมกับคุณพ่อประจักษ์ บุญเผ่า ผู้อำนวยการสำนักงานวินิจฉัยคดี ดูแลเรื่องการแต่งงานต่งคนต่างถือ และดูแลงานอบรมเพื่อเตรียมชีวิตแต่งงาน พักประจำที่สำนักมิสซัง  เข้าร่วมแสดงความยินดีกับผู้รับวุฒิบัตรในวันนี้ด้วย

คำสอนผู้ใหญ่ เราเริ่มเห็นความต่อเนื่อง พ่อดีใจที่ได้เห็น ว่าสัตบุรุษมีความสนใจ น่าส่งเสริมสนับสนุนต่อไป ขอขอบคุณคุณพ่อ และวิทยากรที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง เห็นถึงความสำคัญกับพี่น้องคริสตชน ได้มีความเข้าใจถึงความเชื่อในชีวิตคริสตชน และหลังจากที่เราเรียนรู้พระคัมภีร์ ซึ่งเป็นพระวาจาของพระเจ้า ต่อจากนี้พ่ออยากให้ข้อแนะนำบางประการ

เพราะพระวาจาของพระเจ้าเป็นพระวาจาทรงชีวิต เพื่อจะได้เข้าใจ เราก็ต้องมาเรียน ตามโอกาสและความเป็นไปได้ แต่คงไม่พอ และพ่อคิดว่า คงไม่หยุดแค่สิ่งที่เราได้เรียนรู้ในวันนี้ เพียงแต่รู้ยังไม่พอ หลังจากนั้นปีพระวาจา ถึง ปี 2010 พระศาสนจักรได้เน้นถึงความสำคัญของพระวาจา และต้องนำไปรำพึงไตร่ตรองจะใช้ไบเบิ้นไดอารี่ได้ไหม ได้ในฉบับย่อ ๆ  ก็ได้และดูในโอกาสต่าง ๆ เราต้องหล่อเลี้ยงชีวิตด้วยพระวาจา

บางทีพระวาจาอาจจะเป็นสั้น  ๆ ได้ไหม บางคนอาจจะมีแบบนั้นแบบนี้ อะไรก็แล้วแต่ที่สำคัญเป็นพระวาจาของพระเจ้า นำมารำพึงได้ เรานำพระวาจามาปฏิบัติในชีวิตประจำวันการเรียนก็ยาก แต่การนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันยากกว่า แต่อย่าบอกว่า ทำไม่ได้ ทำได้ วิธีคิดความรู้สึก การตัดสินใจ จะเปลี่ยนไป โดยมีพระเจ้ามาเกี่ยวข้อง ขีวิตของเราจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้ามากยิ่งขึ้น เราต้องหาทางออก เปลี่ยนควาามคิด ให้เป็นความรัก พระเจ้าอนุญาติให้ความทุกข์เข้ามาในชีวิตเราตอบรับด้วยยินดี ทีละเล็กละน้อยก็ปรับชีวิตได้ขึ้น

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เมื่อเราทำได้จะดีขึ้น ทำอย่างไรจะทำให้พระวาจาของพระเจ้าลงสู่มิติทางสังคม  เราต้องมีการร่วมกลุ่มกันในสังคม บางทีเรามีบ้านคริสตังอยู่ใกล้ ๆ จะใช้วิธีการใด ๆ ก็ตาม และให้นำไปปฏิบัติ  เราก็มาเล่าให้ฟัง ประสบการณ์ชีวิตตามพระวาจา ในการตัดสินใจ การกระทำ มีพระเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับการกระทำที่พระเจ้าทรงอยู่ในชีวิต ทำให้เรามีพลังเปลี่ยนแปลงจิตใจของผู้ที่ได้ดำเนินชีวิตตามพระวาจา เราจะมีพลังเปลี่ยนแปลง เมื่อนำประสบการณ์ที่มีพระวาจาของพระเจ้า จะช่วยเสริมสร้างกันและกันและกลุ่มย่อย  ๆ นี้ จะกลายเป็นชุมชนความเชื่อ เพื่อหล่อเลี้ยงกันและกัน

บางทีเราอาจจะตามกระแสของโลกไปอย่างง่าย ๆ เราต้องหาเวลาสวดภาวนาด้วยกัน แบ่งปันพระวาจาร่วมกัน จะได้เป็นเกราะกำบังในชีวิต และทำให้เราเป็นพยานและแสงสว่างให้กับคนรอบข้าง พฤติกรรมของเราจะเปลี่ยนไปจะทำให้หลายคนถามว่า คนนี้ทำไมถีงแตกต่างจากคนอื่น เมื่อเราพูด ก็เพราะเราดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า  ความสุขที่เราได้รับ จะเกิดเป็นปิติสุข เราจะไม่ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน แต่เราจะถามว่า มีอีกกี่คนที่รอคอยความรักของพระเจ้าจากเรา  ต่อจากนี้จะเป็นเวลาที่เราจะไปดำเนินชีวิตตามพระวาจาของพระเจ้า และดีใจที่พวกเรา ให้พวกเราได้บอกต่อ ๆ กัน จะมีหลายอย่าางที่ดีเกิดขึ้นในชีวิตของเรา และชีวิตจะกลายเป็นธรรมทูตโดยไม่รู้ตัว และประกาศด้วยแบบอย่างชีวิต ขอพระอวยพรทุกคน

ทางแผนกคริสตศาสนธรรม ขอขอบคุณ คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม ที่สละเวลาและรับเป็นวิทยากร ให้การอบรมพระคัมภีร์เป็นเวลา 10 ครั้ง         (10 เสาร์ภาคเช้า) ขอพระเป็นเจ้าโปรดตอบแทนน้ำใจดีของคุณพ่อเสมอ