หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

  บทเทศน์ พระคุณเจ้าพิบูลย์ วิสิฐนนทชัย 56 K | dsl

  ผู้อำนวยการสภาอภิบาลกล่าวร่วมแสดงความยินดี  56 K | dsl

  พระคุณเจ้ากล่าวปราศรัย   56 K | dsl

ประมวลภาพสัตบุรุษวัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ ร่วมแสดงความยินดีกับพระสังฆราชยอแซฟ พิบูลย์ วิสิฐนนทชัย

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2009 คุณพ่อชัชวาลย์ ศุภลักษณ์ เจ้าอวาสวัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ สภาอภิบาล และคริสตขนชุมชนวัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์  ให้การต้อนรับ พระคุณเจ้าพิบูลย์ วิสิฐนนทชัย พระสังฆราชสังฆมณฑลนครสวรรค์ เพื่อร่วมใจกันโมนทนาขอบพระคุณเจ้าพระเป็นเจ้า ในโอกาสที่พระคุณเจ้าพิบูลย์ วิสิฐนนทชัย ได้รับการเลือกสรรให้ทำหน้าที่นายชุมพาบาล ปกครองดูแล สังฆมณฑลนครสวรรค์ และส่วนหนึ่งในน้ำใจดีที่ทุกคนอยากจะมีส่วนร่วมถวายปัจจัย เพื่อใช้ในการอภิบาล และการแพร่ธรรมในเขตสังฆมณฑลนครสวรรค์ด้วย

เวลา 09.00 น. พระคุณเจ้าพิบูลย์ วิสิฐนนทชัย เป็นประธานในมิสซาบูชาขอบพระคุณ ร่วมกับ คุณพ่อเอกพร นิตโย คุณพ่อประทีป กีรติพงศ์  คุณพ่อชัชวาลย์ ศุภลักษณ์  และ คุณพ่อสุทธิ ปุคละนันท์  รวมทั้งบรรดาสัตบุรุษที่วันนี้ตั้งใจมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก  พร้อมใจกันสรรเสริญ ขอบพระคุณพระเจ้า ณ วัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ ท่ามกลางบรรยากาศของความปลื้มปิติ อีกทั้งยังระลึกถึงภาพควาทรงจำในอดีตที่ครั้งหนึ่ง พระคุณเจ้าเคยมีส่วนผลักดันให้เกิดวัดแห่งนี้

ในบทเทศน์พระคุณเจ้าได้ข้อคิดไว้อย่างประทับใจว่า
พ่อมีทั้งความภาคภูมิใจ สิ่งที่พ่อได้ทำผิดไป

ความภาคภูมิใจ คือ
ที่ดินแถบนี้ในสมัยที่พ่ออยู่ คือ พ่อมาปลูกต้นไม้  หน้าฝนจะมาหว่าน ข้าวโพด และต้นไม้ชนิดอื่น เพื่อไม่ให้หญ้าขึ้น พอถึงหน้าแล้งก็มาเก็บเกี่ยวไปใช้ในบ้านเณร และทุกครั้งที่พ่อเดินมา ได้ถวายสิ่งที่งามที่สุด แด่พระเป็นเจ้า และพ่อคิดว่า เมื่อพ่อขอสิ่งใด ก็จะได้รับจากพระเจ้า และเมื่อพ่อเห็นสิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้น พ่อก็ขอบพระคุณพระเจ้า สถานที่แห่งนี้ เจริญเติบโตขึ้น

ส่วนที่พ่อรู้สึกเสียใจ คือ สมัยก่อนตรงใกล้ ๆ บ้านผู้หว่านเป็นที่ทิ้งขยะ  สมัยนั้นมีวัฒนธรรมขวดน้ำ พ่อมีขวดน้ำเพียงพออยู่แล้ว พ่อเห็นเด็กชาวนาคนหนึ่งมาเดินเก็บขยะ พ่อถามว่า เธอเก็บได้วันละเท่าไหร่ เขาตอบว่า วันละ 50 บาท พ่อจึงให้คนงาน เก็บขยะแข่งกับเขา วันหนึ่งพ่อเดินไปริมขอบสระ ด้านหลังเห็นบ้านเก่า ๆ น่าสงสาร เขาก็พูดกับพ่อว่า “คุณพ่อแย่งขยะของผม” นี่เป็นส่วนหนึ่งที่พ่อรู้สึกเสียใจ

อีกข้อที่พ่อรู้สึกเสียใจ คือ เรามีสถาบันที่ใหญ่ ล้อมรั้ว สนามที่ใหญ่โต  แต่เด็ก ๆ โดยรอบ ไม่มีสิทธิ์เขามาเล่น เขาถึงถามพ่อว่า “ทำไมเขาไม่มีสิทธิ์เข้ามาเล่นในวัดของเขาหรือ”

พ่อจึงมาคิดว่า กับสองเรื่องที่พ่อเล่ามานี้ พ่อยังไม่ได้ดูแลคนจนเท่าที่ควร ถึงกระทั่ง โดนเหน็บแหนมเสมอ เพราะเมื่อก่อนด้านหลังของซอยหมอศรีแห่งนี้ มีคนยากจนอยู่เป็นจำนวนมาก เขาบอกว่า คณะคามิลเลียน เอาอาหารไปแจกจ่าย แต่ บ้านเณรเอาหารที่เหลือไปเลี้ยงปลา ในที่สุดแล้ว เมื่อจะทำให้กลุ่มคริสตชนได้ดูแลซึ่งกันและกัน และดูแลคนยากจน เราจึงให้คณะซาเลเซียน ร่วมกับ คณะ OMI  มีคริสตชนใจร้อนรน ที่อยากจะทำ พ่อจึงได้จัดให้มีการสวดภาวนาและเสนอความช่วยเหลือไปยังผู้อื่นในซอยหมอศรีแห่งนี้

วันนี้พ่อเองทั้งประทับใจ และแปลกใจ วันนี้มีคริสตชน ศูนย์รวมแห่งความเชื่อ ณ สถานที่แห่งนี้ยังมีสุสานพ่ออยากจะบอกกับผู้สูงอายุ และมีเวลาว่าง เวลามีคนตาย จะมีความเศร้า หลายคนที่ผ่านมาสวด เพื่อนในยามทุกข์ยาก คือ เพื่อนแท้ของเขา เราในฐานะที่เป็นเจ้าภาพ คนที่มีเวลาว่าง มาสวดกับเขา มาเป็นกำลังใจกับเขา เพราะคนที่ตายไป อาจเป็นเสาหลักของเขา เขาต้องการคนมาเป็นเพื่อน มาเป็นกำลังใจแก่เขา

ในงานศพเราจะพูดถึงเรื่องอะไร เราจะพูดถึงชีวิตนิรันดร วัดพระเยซูเจ้าเป็นวัดที่มีความเชื่อ เราจะเป็นพี่เป็นน้องกัน กับคนบนโลกนี้ กับคนในสวรรค์  วัดแห่งนี้เป็นวัดที่เชื่อมโยงสวรรค์และแผ่นดิน เป็นสิ่งที่น่าดีใจ ที่ทุกคนมาร่วมกัน และคิดเสมอว่า บ้านแท้คือเมืองสวรรค์

เมื่อมองกลับมา เหมือนสิ่งที่พ่อได้ทำผิดพลาดไป  ควรคิดต่อไปว่า เราควรให้เวลากับคนที่อยู่ข้าง ๆ เรา ให้มาเป็นเพื่อน เป็นกำลังใจกับเขา  พระเป็นเจ้าจะเป็นผู้ช่วยเหลือ พระเจ้าให้สติปัญญา ให้กำลังใจ ให้ดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง และพระเจ้าจะอยู่่ท่ามกลางเรา

เราทุกคนต้องเป็นประกาศกในบทบาทของตน  เหมือนในสมัยโมเสส บทบาทธรรมดา เช่น ให้น้ำแก่เขา พูดเรื่องสิ่งที่ดี เงินที่มีก็อย่าไปคิดโกงเขา อย่ากินเลี้ยงอย่างสนุนสนานมากเกินไป เหมือนที่พระวรสารบอกว่า เราอาจจะเลยกระทำดีต่อคนยากจน

วัดของเราสร้างไม่นาน แต่เป็นศูนย์รวมความเชื่อ ขอให้การรวมกันทุกวันอาทิตย์ เป็นสิ่งที่กระตุ้นเตือน เราจะทำดี ต่อคนอื่น เป็นประจักษ์พยานต่อพระวรสาร พ่อจึงขอเชิญชวนพวกเราให้ยืนยันความเชื่อที่ประกาศตั้งแต่สมัยโบราณ


หลังมิสซาบูชาขอบพระคุณ   คุณวรวุฒิ ศิริวรศิลป์ ผู้อำนวยการสภาอภิบาล กล่าวขอบคุณ และร่วมแสดงความยินดีกับพระคุณเจ้า ก่อนที่พระคุณเจ้าจะกล่าวความในใจเพื่อขอบคุณ หลังจากนั้น เป็นการขอรับพร จากพระคุณเจ้า ก่อนจะร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน ณ บริเวณโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ แผนกหญิง