หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ประมวลภาพฉลอง 25 ปีอารามกลาริสกาปูชิน สามพราน
และปฎิญาณตนตลอดชีพของซิสเตอร์ มารีอา เอเลนา แห่งความรัก

ภาพ : ธนาคาร กิจบำรุง

เมื่อวันพุธที่ 12 สิงหาคม 2009 (2552) คุณพ่ออนุสรณ์  แก้วขจร จิตตาภิบาล ได้เชิญ พระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ เป็นประธานในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณโอกาส ฉลอง 25 ปี อารามกลาริส กาปูชิน สามพราน และปฏิญาณตนตลอดชีพของซิสเตอร์ มารีอา เอเลนาแห่งความรักนิรันดร์ (จันทร์เพ็ญ สร้างกุศลในพสุธา) เวลา 10.00 น. ร่วมกับพระอัครสังฆราชซัลวาตอเร เปนนักคีโอ ฯพณฯ เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย พระสังฆราชยอแซฟสังวาลย์ ศุระศรางค์   คุณพ่ออันตน คณะกาปูชิน พร้อมด้วยพระสงฆ์กว่า 12 องค์ และบรรดานักบวช ชายหญิง  บรรดาญาติพี่น้องของซิสเตอร์ และสัตบุรุษจำนวนมาก

หลังจากพิธีปฏิญาณตนแล้วได้เชิญสมณทูตกล่าวแสดงความยินดีโดยมีคุณพ่อ  อันตนเป็นผู้แปลให้ จากนั้นซิสเตอร์ เกียรา อธิการ ได้กล่าวขอบคุณประธานในพิธีเป็นภาษาอิตาเลียน และเป็นภาษาไทย และเชิญพระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์ กล่าวอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเชิญพระคุณเจ้าสังวาลย์ ศุระศรางค์ กล่าวปราศรัย

ในประเทศไทยมีอารามกลาริส กาปูชิน จำนวน 7 แห่ง    และมีสมาชิกในคณะประมาณ 130 คน และอารามกลาริส กาปูชิน สามพรานนี้มีซิสเตอร์ จำนวน 18 คน

พระคุณเจ้าวีระเทศน์ในโอกาสนี้ว่า เวลาที่พ่อเดินทางมาพ่อก็เห็นโบชัวร์และก็วันนี้เป็นวันแม่แห่งชาติ มีกิจกรรมหลายอย่างที่จะทำในวันแม่ เช่นพาแม่ไปวัด พ่อก็ประทับใจแม่ของซิสเตอร์มารีอาเอเลนา ได้มาร่วมพิธีในวันนี้กับครอบครัวจากเชียงใหม่ วันนี้เราฟังพระวาจาของพระเจ้าในโอกาสพิเศษก็อยากจะเชิญชวนพี่น้องได้ข้อคิด2-3 อย่าง ว่าวันนี้พระเจ้าได้ตรัสอะไรกับเรา

ในบทอ่านที่1 จากหนังสือประกาศกโฮเชยา พ่อก็ประทับใจ พื้นฐานของประกาศกโฮเชยาคือเป็นคนที่ภรรยาทิ้งไป    และก็พระ  เป็นเจ้าได้เรียกและได้ให้แบ่งปันประสบการณ์จากที่ภรรยาทิ้งไป ก็เป็นเหมือนกับพระเจ้า ที่ถูกประชากรของพระองค์อาจจะเป็นชาติยิง หรืออาจจะเป็นพวกเราแต่ละคนในสมัยปัจจุบันนี้ก็เป็นได้ จึงสอนเราว่าอย่านอกใจพระเป็นเจ้าเมื่อเรารู้จักพระเป็นเจ้า

พ่อประทับใจในบทอ่านที่ ที่บอกว่า “เราจะเกลี้ยกล่อมเธอ พาเธอเข้าไปในถิ่นทุรกันดา และปลอบใจเธอ เราคือพระเป็นเจ้า เธอคือชนชาติอิสราเอล และประโยคสุดท้ายคือเธอจะรู้จักพระเจ้า เราแต่ละคนรู้จักพระเจ้าโดยทางครูคำสอน โดยพ่อแม่หรือพระสงฆ์ที่พี่น้องมาฉลองวัด ฉลองเหตุการณ์ต่างๆในชีวิต อย่างเช่นวันเสาร์นี้ก็จะมีโอกาสพิเศษที่วิทยาลัยแสงธรรม แต่ละโอกาสเป็นโอกาสที่เราจะได้รู้จักพระเจ้า ความรู้จะทำให้เราเกิดผลอยู่ 2 อย่าง จะทำให้เรารักคนๆนั้น หรือจะทำให้เราเกลียดคนๆนั้นก็เป็นได้ แต่ความรู้เกี่ยวกับพระเจ้าทำให้เรารักพระองค์

ประการที่ สอง คือพระเยซูเจ้าจากพระวรสารนักบุญยอห์น บทที่15พูดถึงความสัมพันธ์ของพระองค์กับเราโดยเปรียบเทียบกับแขนงองุ่น พ่อประทับใจคำว่า บังเกิดผลมาก เพราะว่ามีกล่าวไว้ถึง 2 ครั้ง คือผู้ที่อยู่ในเรา และเราอยู่ในผู้นั้นก็จะบังเกิดผลมาก ตรงกันข้ามถ้าแขนงที่ไม่ติดกับลำต้น ก็ไม่อาจเกิดผล พ่ออยากให้พี่น้องทุกคนที่มาในวันนี้ให้เป็นคนที่ประทับใจในความรักของพระเป็นเจ้าที่มีมาตลอดกระแสประวัติศาสตร์ และก็ตลอดชีวิตของเราอยากให้พี่น้องทุกคนได้บังเกิดผลมาก ไม่อยากให้เราไม่บังเกิดผล

คำถามต่อไปก็คือ ถ้าเราสัมผัสความรักของพระแล้วเราน่าจะทำอย่างไรให้บังเกิดผลมาก ในพระคัมภีร์พระวรสารนักบุญยอห์นก็มีคำตอบ คือ ถ้าท่านถือตามพระบัญญัติของเรา ทำตามพระบัญญัติของพระบิดาของเรา พระองค์ก็ดำรงอยู่ในเราและเราก็จะบังเกิดผลมาก ประการที่ 3 นักบุญเปาโลก็ให้ข้อคิดที่ดีมากๆมีความหมายทุกคน แต่เวลาที่พ่อฟังในวันนี้ก็มีความหมายพิเศษว่าเราจนปัญญาแต่เราก็ไม่หมดหวังเราถูกเบียดเบียน แต่เราก็ไม่ถูกทอดทิ้ง เราหกล้มแต่ก็ไม่ตาย เราแบกความตายของพระเยซูเจ้าไว้ในร่างกายของเราเสมอ เพื่อว่าชีวิตของพระเยซูเจ้าจะปรากฏอยู่ในร่างกายของเรา

อันที่จริงชีวิตของพวกเราส่วนใหญ่ที่พ่อเห็นที่นี่ การเป็นเณร เป็นผู้ฝึกหัด ที่พวก เราไม่เคยพบกับความยากลำบาก เหมือนกับท่านนักบุญเปาโล    เราคงไม่เคยประกาศข่าวดี ประกาศพระวรสาร คงไม่ลำบากเหมือนกับคนที่เชียงใหม่ หรือประเทศลาว เขมร หรือประเทศเวียดนาม

พ่อพูดเช่นนี้ เพราะว่าเมื่อ  2 อาทิตย์ก่อนพ่อได้มีโอกาสไปประชุมกับหน่วยงานของ FABC ทางสภาพระสังฆราชแห่งเอเชีย ประชุมกันที่พัทยา  การประชุมได้พูดถึง เรื่องการประกาศข่าวดี เป็นเรื่องจริงที่พี่น้องชนเผ่า และในประเทศที่มีความยากลำบากที่พ่อได้กล่าวมาแล้ว และอีกประเทศหนึ่งคือประเทศอินเดีย รัฐโอริสาที่มีการเบียดเบียน แต่ปรากฏว่าที่ๆมีความยากลำบาก ชีวิตคริสตชนที่นั่นกลับเติบโตขึ้น และก็มีคนเลื่อมใสศรัทธามากขึ้น พ่อประทับใจในสิ่งที่นักบุญเปาโลบอกว่า เหตุนี้แหละเราจึงไม่ท้อถอย พี่น้องครับเรารู้จักพระเยซูเจ้าของเรา     เครื่องหมายที่ซิสเตอร์จะรับเป็นเครื่องหมายไม้กางเขน เครื่องหมายแหวน เป็นตะเกียง และก็หนังสือทำวัตร

พ่อว่าเป็นเครื่องหมายพิเศษที่มีความหมายดีสำหรับซิสเตอร์ที่จะถวายตนตลอดชีวิตในวันนี้  แต่เครื่องหมายกางเขน แหวน ตะเกียง และทำวัตร พ่อว่าน่าจะเป็นเครื่องหมายพิเศษสำหรับสามเณรและนักศึกษาแสงธรรมทุกคน ที่มีความหมายอยู่ในตัวเอง พ่อจึงขอให้กิจการในวันนี้ที่เราได้มาชุมนุมกัน ทำให้เราได้ประทับใจความรักที่พระมีต่อเราจริงๆ

พ่อได้อ่านในชีวิตของนักบุญคลารา พ่อก็มักจะถามตัวเองว่านักบุญเกิดในสมัยไหน อายุเท่าไร ท่านก็เกิดในสมัยค.ศ. 1193 หรือ 94 มีชีวิตอยู่ 59ปี ที่อัสซีซี  ได้พบปะกับนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี ก็ประทับใจเพราะเป็นชาวเมืองเดียวกัน    จึงดำรงชีวิตอย่างยากจน และก็เป็นผู้ตั้งคณะกลาริส กาปูชิน ท่านคงไม่ได้เอาชื่อตัวเองมาตั้งชื่อคณะ เพราะคงมากล้าขนาดนั้น   แต่ว่าเป็นคณะที่ถือความยากจนเหมือนกับชาวบามีอาโรนที่นั่น ที่สุดแล้วก็เปลี่ยนชื่อมาเป็นกลาริส 

ข้อเขียนในหนังสือทำวัตรของพระสงฆ์เป็นข้อเขียนของนักบุญคลาราเอง เขียนถึงบุญราศี อักแนส แห่งปราก พูดไว้พ่อขออ่านข้อความหนึ่งให้ฟัง  วิญญาณที่พบความสุขคือวิญญาณที่เต็มเปี่ยมด้วยพระคริสตเจ้าในชีวิตนี้  และยึดพระองค์ผู้ซึ่งชาวสวรรค์ชมความงามอยู่เป็นนิตย์ ไว้อย่างสุดหัวใจ  ความรักของพระองค์ทำให้เราเกิดความรักที่กระตือรือร้น การรำพึงถึงพระองค์ทำให้เราสดชื่น   พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์นำความปิติมาสู่เราความสุภาพอ่อนโยนมาสู่เราอย่างไม่หยุดหย่อน

การระลึกถึงพระองค์ทำให้เรามีความสุข  ความหอมชื่นของพระองค์ช่วยให้ผู้ตายกลับคืนชีพพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ ทำให้ชาวสวรรค์พบกับความสุขพระองค์ทรงเป็น แสงสว่างและทรงพระสิริรุ่งโรจน์นิรันดรและกระจกเงาที่ปราศจากตำหนิ

จงมองกระจกเงา นี้ทุกวันเถิด ราชินีและเจ้าสาวของพระคริสตเจ้า  จงสำรวจหน้าตาของเธออย่างพินิจควรให้ทั้งภายในและภายนอกกอปรด้วยคุณธรรมประดับด้วยอาภรณ์ และดอกไม้ให้สมกับเป็นธิดาและเจ้าสาวของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ 

ขอให้กิจการในวันนี้ที่เราจะร่วมกัน   และเป็นพยานถึงการอุทิศตนของซิสเตอร์มารีอาเอเลนา แห่งความรักนิรันดร์ ช่วยให้เราได้สัมผัสว่าความรักที่เรามีต่อพระเป็นเจ้าทำ ให้เราเกิดผลมากมาย ให้ความรักที่เรามีต่อพระเป็นเจ้า  ช่วยให้เรารักญาติพี่น้องเพื่อนบ้านของเราให้บังเกิดผลมากเช่นเดียวกัน