หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

โดย...ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2009(2552) เวลา18.30น. คุณพ่อธีรพล กอบวิทยากุล เจ้าอาวาสวัดนักบุญอันนา ท่าจีน เชิญคุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุงอดีตเจ้าอาวาสวัด ซึ่งปัจจุบันคุณพ่อเป็นผู้อำนวยการสื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย   มาเป็นประธานในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณฉลองภายในวัดนักบุญอันนา ท่าจีน ร่วมกับคุณพ่อยอดชาย เล็กประเสริฐ     มีบรรดาสัตบุรุษมาร่วมพิธีฉลองภายในวันนี้เป็นจำนวนมาก โดยหลังจากพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณแล้ว มีการแห่รอบๆหมู่บ้านโดยรถของสัตบุรุษลูกวัดนักบุญอันนา ท่าจีน ร่วมขบวนแห่ในวันนี้กว่า 50 คัน  บรรยากาศในเย็นวันนี้อากาศดีฝนไม่ตก   และเด็กๆนักขับร้องตัวน้อยๆก็ขับร้องได้อย่าง   ไพเราะและพร้อมเพรียงกัน จนคุณพ่อวรยุทธเอ่ยปากชมเด็กๆที่ขับร้องในวันนี้อย่างดี

โดยหลังจากแห่เสร็จแล้วบรรดาสัตบุรุษได้มาร่วมใจกันอีกครั้งหนึ่ง   โดยจะเชิญพระรูปนักบุญยายอันนา องค์ที่เคยอยู่บริเวณด้านหน้าวัดนั้น ตอนนี้ทำสีใหม่เสร็จแล้ว และจะอัญเชิญไว้ในศาลาก่อนที่จะทำพิธีเสกศาลาวันฉลองวัดในวันพรุ่งนี้

คุณพ่อวรยุทธเทศน์ให้ข้อคิดในวันนี้ว่าพ่อรู้สึกว่าวันนี้วัดของเราดูเล็กลงไปมากได้ยินเสียงนักร้องเด็กๆที่ร้องเพลงด้วยความมั่นใจและเสียงดัง ไพเราะมากๆ ทำให้การมาร่วมมิสซาในวันนี้ของเรามีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ ก็ได้เห็นพี่น้องได้ร่วมร้องเพลง และพิธีกรรมทำให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่เรามีส่วนร่วมในพิธีมิสซาในค่ำคืนนี้ ทางวัดเราก็ ได้จัดฉลอง 25 ปีของวัดหลังนี้ พ่อเชื่อว่าพี่น้องหลายคนที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น

เมื่อ25ปีที่แล้ว และก็มีบางส่วนที่ร้องเพลงนี้ที่ยังไม่เกิด คิดว่าเป้นความภาคภูมิใจของพี่น้องที่เฝ้ารอคอยมานานที่เราได้มีวัดหลังนี้ที่สวยงามกระทัดรัด

ในหนังสืออนุสรณ์ในการเสกวัดได้มีบันทึกไว้สั้นๆว่าในวันที่ 25 กรกฎาคม 2525(1982) ปีนั้นเป็นปีที่เราฉลองนักบุญอันนา ที่วัดหลังเก่าเป็นปีสุดท้ายและหลังจากนั้นก็เริ้มรื้อวัดหลังเก่า ในวันที่รื้อนั้นมีหลายคนที่เป็นคนเฒ่า คนแก่ๆ ก็มาดูการรื้อวัด บางคนก็น้ำตาไหล เสียดายและคิดถึงวัดที่เคยใช้มาถึง 90 กว่าปีต้องถูกรื้อไป  แม้จะทราบดีว่าเมื่อรื้อไปจะได้มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นแต่ความผูกพันอันยาวนานก็ทำให้หลายคนเสียดาย   พ่อได้เปิดหนังสืออนุสรณ์แล้วก็ยังเสียดายว่าน่าจะเก็บป้ายชื่อวัดนักบุญอันนาไว้เป็นอนุสรณ์ของวัดเหมือนกัน ไม่รู้ว่าตอนนั้นเก็บกันไปเก็บกันมาหายไปไหน และหลังจากนั้นปีต่อมาก็เริ่มโครงการสร้างวัด ใน2-3ปี หลังจากนั้นก็ได้สร้างวัดหลังนี้ในปี 2527 (1984) ปีนั้นเราฉลองวัดนักบุญอันนา เลื่อนไปเดือนพฤศจิกายน   ตลอด3ปีมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ตั้งแต่วัดหลังเก่า ปรับปรุง รื้อบ้านพ่อ บ้านซิสเตอร์ สร้างเขื่อน และที่สุดก็สร้างวัดขึ้นมา อย่างสวยงาม

วันเวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกินพี่น้อง   และหลายคนที่ได้ร่วมฉลองวัดในวันนั้น ผ่านมา 25 ก็ไม่ได้มาฉลองอีกแล้ว  เขาอาจจะรู้สึกและพูดเหมือนในพระคัมภีร์ในวันนี้ว่า บัดนี้ตาของเขามีบุญที่ได้เห็นวัดใหม่ หูของเขาได้ยินเรื่องราวต่างๆมากมายเกี่ยวกับวัด ได้เห็นสิ่งที่เขารอคอยมาเป็นเวลานาน บางคนก็บอกว่าตายได้แล้ว  ได้เห็นวัดใหม่ที่รอคอยมานาน และเขาก็จากไปอย่างสงบสุข พ่อเชื่อว่า ปู่ ย่า ตา ยาย ของเราหลายคนที่ล่วงลับไป หลังจากที่สร้างวัดใหม่ เขาคงรู้สึกเหมือนในวันนี้ที่พระคัมภีร์พูดถึง

หลังจากที่เรารอคอยมานาน มันเป็นความภาคภูมิใจของพี่น้องวัดท่าจีน เมื่อ 25 ปีที่แล้วที่เรามีวัดหลังใหม่   และวันนี้พี่น้องที่มาอยู่ที่นี่ มีบุญมากขึ้นกว่าอีกที่เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ปีนี่เรามีโอกาสเสกพระรูปหรือว่าศาลาที่ใหญ่ ที่ผ่านไปและตั้ง

สวยตระหง่าน อยู่ที่ศาลาริมแม่น้ำ พี่น้องก็คงจะรู้สึกดีใจภูมิใจที่วัดของเรามีการเปลี่ยนแปลง มากมายภายนอก ก็สมควรที่เราจะภูมิใจดีใจกับการที่เราได้มีโอกาสเห็นการเปลี่ยนแปลงของวัดของเราเอง และพ่อก็เชื่อว่าพี่น้องหลายคนก็มีส่วนร่วม บริจาคเงินเข้ามาช่วยเหลือ กิจการต่างๆของวัด ทำให้พระคาร์ดินัลหรือพระคุณเจ้าพร้อมจะช่วยเหลือ เพราะว่าพี่น้องได้แสดงน้ำใจมากมาย

พ่อจำได้ว่าตอนที่สร้างวัดหลังนี้ ก็ได้รับความช่วยเหลือจากพี่น้อง บริจาค กันมามากมาย บางคนคุณพ่อเจ้าวัดเก็บสะสมไว้หลายปีล่วงหน้า บางคนสัญญาว่าจะให้เดือนละ 100-200บาท สะสมกันมาและเมื่อใกล้ๆ พระคุณเจ้าเริ่มเอาจริงแล้วบางคนก็บริจาคเป็นแสนเป็นล้านก็มี

พระคาร์ดินัลได้เคยพาแขกต่างประเทศมาในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงวัดมากมายตอนนั้น และกำลังสร้างวัด พ่อก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เดินมากับพระคาร์ดินัลและก็แยกตัวออกมานิดนึงแล้วก็มาถามพ่อว่า วัดหลังนี้สร้างเป็นเงินประมาณเท่าไร และสัตบุรุษมีส่วนร่วมเท่าไร พอพ่อบอกไปว่ามีส่วนร่วมสักประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เขาก็ดีใจ เขาคนคิดว่าถ้าพระคาร์ดินัลมาลงมือสร้างโดยที่สัตบุรุษไม่มีส่วนร่วมก็คงจะค่อยภาคภูมิใจ เหมือนกับว่าผู้ใหญ่จัดให้ แต่นี่พี่น้องหลายคนมีน้ำใจและมีส่วนร่วมบริจาคกันจนเรียกได้ว่าเป็นวัดของพี่น้อง พ่อคิดว่านี่เป็นความภาคภูมิใจและเราได้มีส่วนร่วมจริงๆ เพราะเราได้มีส่วนร่วมในการก่อสร้างนั้น

พี่น้องลองมองดูรูปนักบุญอันนา มีมากมาย ศาลาก็มี ในวัดก็มี หลายคนบอกว่ายิ้มไม่เท่ารูปใหญ่ก็เป็นความจริง พ่อเชื่อว่าหลายคนยิ้มเหมือนนักบุญอันนา เพราะเห็นหลายสิ่งหลายอย่าง พี่น้องลองมองดูรูปนักบุญอันนา จะเห็นข้อคิดหลายสิ่งหลายจากจากรูปนี้ชีวิตของนักบุญอันนา และแม่พระ ที่ได้แสดงออกต่อลูกของท่าน พ่ออยากจะพูดถึง 2-3 ข้อ นักบุญอันนา มีตัวนำหน้า อ อ่าง อยากจะพูด อ อ่าง ตัวแรก เวลาเห็นรูปนักบุญอันนา โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกอบอุ่นที่เห็นนักบุญอันนา กำลังชี้มือมายังแม่พระ เป็นความผูกพันระหว่างแม่ลูก รู้สึกอบอุ่น รู้สึกใกล้ชิดกัน ถ้าพ่อแม่ลูกมีความผูกพันใกล้ชิดกัน ก็คงรู้สึกอบอุ่นและมีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างที่แสดงออก โดยที่บางทีไม่รู้แต่การกระทำต่างเหล่านั้นเป็นเป็นสื่อที่แสดงให้เห็นถึงว่านักบุญอันนากับแม่พระเองมีความรัก มีความใกล้ชิด   มีความสนิทสัมพันธ์ ดูรูปแล้วรู้สึกอบอุ่น อ อ่างที่ 2 นักบุญอันนาชี้สอนแม่พระให้ อ่านหนังสือ สอนให้มีความรู้และคงไม่ใช่มีความรู้เรื่องภายนอก   แต่คงสอนความรู้เรื่องทั่วไป ความศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อในพระเป็นเจ้า คนที่เป็นพ่อแม่ควรที่จะเลียนแบบอย่างนักบุญอันนาที่จะอบรมดูแลสั่งสอนลูกๆให้มีความรู้ความศรัทธาต่อพระเป็นเจ้า เหมือนอย่างรูนักบุญอันนาได้กระทำ

ส่วน อ อ่างตัวอื่นๆ พ่อคิดว่าพี่น้องลองดูและอาจจะได้บทสอนต่อไป คงมีอีกหลายแง่มุมที่อาจจะได้บทเรียนสอนใจ พ่ออยากจะพูดแค่เพียง 2 อย่างเท่านั้น เมื่อเห็นพระรูปนักบุญอันนากับแม่พระแล้วอบอุ่นใจ  ถ้าเราเป็นลูกเป็นหลานเราก็คงจะดีใจที่มียายที่ใกล้ชิดกับเรา เวลาเราเรียนนักบุญอันนา เราก็เอ่ยชื่อนักบุญยาย     มันก็สะท้อนให้เห็นถึงความใกล้ชิดความผูกพันที่เรามีต่อท่านนักบุญอันนา และอย่างที่ 2 ก็คือเรื่อง หน้าที่ที่สำคัญก็คือการอบรม ให้ความรู้ความศรัทธา ความเชื่อที่เราต้องมีต่อลูกหลานของเรา   คนที่   เป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นยายเป็นย่า เป็นปู่เป็นก๋ง เราทุกคนที่หน้าที่ดูแลลูกหลานของเรา เราต้องรับผิดชอบเขาเหมือนนักบุญอันนา ที่ดูแลแม่พระอย่างดี ชีวิตของนักบุญอันนาในพระคัมภีร์หรือในประวัติ ไม่ได้มีอะไรมากมายคงจะเป็นชีวิตที่เรียบ ง่าย ธรรมดาๆ    ทำหน้าที่แม่บ้านอย่างดี แต่ในความรับผิดชอบความธรรมดาๆสม่ำเสมอนี่แหละพ่อถือว่าเป็นความยิ่งใหญ่และสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นผู้ที่ให้การอบรม

ในบทอ่านจากหนังสือพระคัมภีร์บทแรกเหมือนกับเป็นคำอวยพรให้กับผู้ที่มีความเชื่อ คนเฒ่าคนแก่ พระเจ้าจะอวยพรให้รุ่งเรือง ให้คนที่ประพฤติดี มีชีวิตที่ซื่อสัตย์ มรดกของเขาที่ได้สะสมมาก็ยังจะคงอยู่ ตกไปสู่ลูก สู่หลานต่อไป ความซื่อสัตย์  ความดีงามที่พ่อแม่ ได้กระทำก็จะกลายเป็นมรดกไปสู่ลูกหลานต่อๆไป แม้กระทั่งศพก็ยังมีคนเคารพนับถือ เพราะฉะนั้นนี่เหมือนเป็นคำอวยพร  คนที่ประพฤติดี พระเจ้าจะอวยพร เขาจะมีทรัพย์สมบัติที่จะถ่ายทอด มอบให้กับลูกหลานต่อๆไป แม้ชีวิตเขาจะจากโลกนี้ไป  แต่ชื่อเสียงความดีงามที่เขากระทำยังยังคงอยู่ตลอดไป

ขอให้คำอวยพรจากพระคัมภีร์ในวันนี้ได้มายังพี่น้อง ครอบครัว และให้เราแต่ละคนได้สะสม    ทรัพย์สมบัติทางด้านฝ่ายจิตใจ ทรัพย์สมบัติทางด้านความเชื่อความดีงามในชีวิต และมอบให้กับลูกหลานต่อๆไป เงินทองภายนอกใช้ไม่กี่ทีก็หมด ถ้าลูกหลานเราไม่รู้จักใช้ ไม่ได้เป็นคนดี เงินทองเราทำเท่าไรทั้งชีวิต ก็ใช้เพียงแค่วัน สองวันก็หมด แต่ถ้าเราไม่มอบทรัพย์สมบัติทางด้านฝ่ายวิญญาณ ทางด้านความเชื่อ ด้วยแบบอย่างที่ดีในชีวิตของเรา  พ่อก็เชื่อว่านี่แหละจะเป็นมรดกชิ้นที่มีค่าที่สุดที่เราจะมอบให้กับลูกหลานของเราต่อไป เราจะฉลองวัดอีก 25 ปีในภายหน้า เมื่อครบ 50 ปีหรือ 75 ปีมรดกชิ้นนี้พ่อคิดว่ามันจะยิ่งมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น    สืบทอดไปยังลูกหลานเหลนของเรา อีกมากมายที่เราจะได้รับมรดกจากเราในวันนี้ที่เรามอบให้กับเขา