หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ภาพ / ข่าว : แผนกศาสนสัมพันธ์

บรรยายให้ความรู้เรื่องศาสนสัมพันธ์และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์
ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

คณะกรรมการคริสตศาสนจักรสัมพันธ์และศาสนสัมพันธ์อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก นำโดยอาจารย์จูลี่ มนต์ชุลี นิติพน ประธานคณะกรรมการฯ ประสานงานกับ   คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้จัดการแผนกศาสนสัมพันธ์ และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์  มาบรรยายและ ให้ความรู้กับสัตบุรุษของอาสนวิหารอัสสัมชัญใน เรื่องงานศาสนสัมพันธ์และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ณ ห้องประชุมโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เวลา 10.00 – 13.00 น.

คุณพ่อได้พูดถึงสิ่งแรกคือเรื่องของมโนธรรม  ซึ่งเป็นเสียงที่ดังอยู่ภายในจิตใจของมนุษย์มีอยู่สองอย่างคือดีและไม่ดี นั่นคือเป็นเรื่องกฎเกณฑ์ของจิตใจ เป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและเป็นความรู้สึกว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ดังนั้นมโนธรรมจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับมนุษย์ในการไตร่ตรองก่อนที่จะตัดสินใจกระทำการ ใดๆ เพราะมโนธรรมจะเป็นตัวชี้นำการกระทำของมนุษย์ว่าดีหรือไม่ดี ควรทำหรือไม่ควรทำอย่างไร หลังจากนั้นได้ให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการเข้าร่วมพิธีกรรมกับศาสนาอื่นตามแนวทางจดหมายของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย และเรื่องคริสตศาสนจักรสัมพันธ์

การจัดบรรยายให้ความรู้เรื่องศาสนสัมพันธ์และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ในครั้งนี้ มีสัตบุรุษให้ความสนใจและเข้ารับฟังการบรรยายประมาณ 50 คน คุณพ่อได้ริเริ่ม  โครงการให้ความรู้ด้านศาสนสัมพันธ์นี้โดยเริ่มต้นจากวัดต่างๆ ในเขต 1 ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เช่น วัดแม่พระปฏิสนธินิรมลแห่งเหรียญอัศจรรย์ (วัดท่าเรือคลอง เตย), วัดราชินีแห่งสันติสุข ซ. 101,วัดอัครเทวดาราฟาแอล (ปากน้ำ),   วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์)และอาสนวิหารอัสสัมชัญ นอกจากนี้คุณพ่อยังได้พยายามก่อตั้งกลุ่มคณะกรรมการด้านศาสนสัมพันธ์และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ให้มีตามวัดต่างๆด้วย

ดังจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ของสังคมในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก ศาสนาได้เข้ามามีบทบาทต่อวิถีชุมชม การดำเนินชีวิตประจำวัน ฯลฯ   ซึ่งคริสตชนคาทอลิกหลายๆ ท่านได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมพิธีกรรมในศาสนาอื่น ดังนั้นการมีความเข้าใจที่ดีและมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อศาสนาต่างๆหรือต่องานคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ ในการร่วมมือกันเสริมสร้างให้เกิดเอกภาพระหว่างพี่น้องคริสตชนนิกายต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นในการให้ความรู้ และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่คาทอลิก  ในการร่วมศาสนพิธีของคริสตชนต่างนิกายและศาสนาอื่น