แผนกเยาวชนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพได้จัดทำโครงการดีๆสำหรับเยาวชน ค่ายปัสกา 2009 ระหว่างวันที่ 19 - 22 มีนาคม 2009 ในหัวข้อ “จงเปิดใจต้อนรับอานุภาพจากพระจิตเจ้า จงอย่ากลัวที่จะตอบเยส(YES)กับพระเยซู” โดยใช้รูปแบบของค่ายเป็น “โรงเรียนปัสกาวิทยาลัย” นำโดย คุณพ่อสราวุธ อมรดิษฐ์  เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
มีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

19 มีนาคม 2009ลงทะเบียนเวลา 13.00 น. มีนักเรียนมาเข้าเรียนทั้งสิ้น107คน เริ่มพิธีมิสซาเปิดการศึกษาโดยคุณพ่อ วิทยา แก้วแหวน ผู้อำนวยการฝ่ายงานอภิบาลและธรรมทูต จากนั้นในตอนเย็นน้องๆ นักเรียนก็ได้พบกับกิจกรรมสุดแสนจะท้าทายความอดทนและความสามารถของน้องๆ จากบรรดาคณาจารย์(STAFF)  สุดโหด  ซึ่งกิจกรรมนี้ถือได้ว่าสามารถละลายพฤติกรรมของๆน้องๆได้อย่างดี เพราะน้องๆสามารถสนิทสนมกับเพื่อนๆที่เจอกันเพียงวันแรกและทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนาน

20 มีนาคม 2009 รับอรุณยามเช้าด้วยวิชาพละ คือการออกกำลังกายตอนเช้านั่นเอง หลังจากนั้น 8.00 น. มีการเข้าแถว  เคารพธงชาติเพื่อเตรียมตัวเรียนวิชาแรกของวันคือวิชาคำสอน โดยคุณพ่อ อนุชา ไชยเดช ในหัวข้อ “จงอย่ากลัวที่จะตอบเยส(yes)กับพระเยซู”

21 มีนาคม 2009 หลังจากเคารพธงชาติแล้ว น้องๆนักเรียนได้เข้าเรียนวิชาคำสอนในหัวข้อ “การเป็นประจักษ์พยานต่อผู้อื่น ในเทศกาลมหาพรต” โดยคุณพ่อ เดชา อาภรณ์รัตน์ และคุณพ่อยังได้ทำพิธิมิสซาให้กับน้องๆนักเรียนได้เข้าร่วมในวันนี้อีกด้วย

ช่วงบ่ายน้องๆนักเรียนได้เรียนวิชาศิลปะนั่นคือการหัดพับใบลาน น้องๆได้รับรู้ความหมายและสำคัญของใบลาน (ทีนี้ก็กลับไปทำกันเองได้แล้ว^_^)  อีกทั้งยังมีกีฬาสีและกิจกรรมรอบกองไฟ  ซึ่งน้องๆได้ร่วมกันแสดงละครที่แสดงให้เห็นถึงการวางตัวเป็นคริสตนชนที่ดีในสังคม ปิดท้ายในค่ำคืนนี้ด้วยการปัจฉิมนิเทศ มีการประมวลภาพตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้ทำให้หลายๆคนถึงกับน้ำตาไหลไปตามๆกัน (โดยเฉพาะบรรดาคุณครูstaff)

22 มีนาคม 2552 วันสุดท้ายของการใช้ชีวิตในโรงเรียนปัสกาวิทยาลัยแห่งนี้ บรรยากาศ   ในโรงเรียนยังคงเป็นการล่ำลาของบรรดานักเรียนและคุณครูstaff พิธีมิสซาปิดการศึกษาโดยคุณพ่อ สุทธิ ปุคลนันท์ ณ วัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ ร่วมกับคุณพ่อชูศักดิ์ บุญอนันตบุตร เจ้าอาวาส คุณพ่ออนุสรณ์ แก้วขจร คุณพ่อยอดชาย เล็กประเสริฐ คุณพ่อประจักษ์ บุญเผ่า งานนนี้คุณพ่อลัดฟ้ามาจากต่างประเทศและได้มาร่วมพิธีมิสซาวันนี้เป็นที่แรก

ค่ายปัสกาครั้งนี้จะพบกับประสบการณ์ดี ๆ เหล่านี้ไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รับความสนับสนุนจากอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และคุณพ่อเจ้าวัดทุกวัดที่เห็นความสำคัญของเยาวชน ให้ได้มาสัมผัสชีวิตในโรงเรียนปัสกาแห่งนี้ และ รับรางวัลคือพระพรของพระเจ้า จากการที่มาช่วยร้องเพลง เล่นดนตรี ช่วยมิสซา  การส่งน้องๆมาร่วมค่าย ถือเป็นรางวัลที่ให้กำลังใจน้องๆเยาวชนป็นอย่างยิ่ง

หลายๆคนยังอาจไม่เข้าใจและคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ กับการรวมกลุ่มของยาวชน แต่ในทางกลับกันในช่วงปิดเทอมใหญ่ หาก เยาวชน หรือ เด็กๆทั่วไปหาเวลาไปเที่ยวกับเพื่อน ไปปาร์ตี้ในที่ต่างๆ น่าจะเป็นเรื่องที่ดูไร้สาระยิ่งกว่า  หากแต่ว่ายังมีเยาวชน แม้จะดูเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ที่รวมตัวกันเพื่อจะหาช่วงเวลา เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตที่จะได้สัมผัสและรู้จักกับพระเยซูให้มากขึ้น จะดีกว่าไหมครับ   แค่พวกเขาตัดสินใจที่จะมาค่ายก็ถือว่าเขาได้ตอบเยส(yes) กับพระเยซูแล้ว น่าจะกลับมาคิดว่า โอกาสนับเป็นสิ่งสำคัญ    ที่ไม่ควรละเลย และมองข้ามไป ปีแล้วปีเล่า

         พบกันใหม่ปีหน้า