หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

รายงานโดย...ชมรมฆราวาสคาทอลิก อัครสังฆมณฑลฯ

เมื่อวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2008 ชมรมฆราวาสคาทอลิก อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้จัด การเข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจคริสตชน ชมรมฆราวาสคาทอลิก  อัครสังฆมณฑล ฯ ประจำปีขึ้น ณ บ้านผู้หว่าน โดยมีฆราวาสมาร่วมงานจำนวน 102 คน แม้ว่าสาม เขตจะมีการเคารพศีลประจำปีก็ตาม

คุณพ่อไพฑูรย์ หอมจินดา ผู้ช่วยพระสังฆราช  ฝ่ายการปกครองวัดผู้เป็นจิตตาธิการ ของชมรม ฯ เริ่มเปิด วจนพิธีกรรม โดยใช้บทอ่านจากจดหมายของนักบุญเปา โลถึงชาวกาลาเทีย บทที่ 6 ตอนที่ 1-10 โดยให้เราเอื้อเฟื้อ แบ่งปัน และทำความดี

  คุณพ่อท่านกล่าวถึงหัวข้อของการเข้าเงียบ    โดยให้ชาวชมรมฯ   ทุกคนลองพิจารณาหัวข้อคือ “การเข้าเงียบ” “ฟื้นฟูจิตใจ” ให้เราหยุดจากภาระทุกชนิดแล้วหันมาดูตัวเองให้มากแนะนำต่อไปว่าการเข้าเงียบนั้นถ้าแต่ละคนอยากจะเข้าเงียบด้วยตนเอง แต่ละคนก็ย่อมทำได้ ให้เปิดใจรับพระเป็นเจ้าเข้ามาในจิตใจของเรา โดยการ “ปิด”ทุกชนิด และทำจิตใจให้เงียบ และบอกว่า ท่านนักบุญเปาโลนั้น “เปลี่ยนชีวิต” ตนเอง จากที่เป็นอยู่ และเสริมว่าหลายคนมองหาอาหารที่จะบำรุงร่างกาย แต่จะมีสักกี่คนที่มองหาอาหารสำหรับวิญญาณตนเอง การที่เรามาเข้าเงียบ ปีละครั้ง  แล้วเราคิดว่าพอเพียงกับการเลี้ยงชีวิตวิญญาณของเราหรือไม่    จึงขอแนะนำให้เราหาอาหารที่จะหล่อเลี้ยงวิญญาณของเรามากกว่าที่เป็น

วิทยากรที่ชมรมฆราวาส ฯ ได้เชิญมาครั้งนี้ คือ  คุณพ่อธีรพล กอบวิทยากุล เจ้าอาวาสวัดนักบุญอันนา ท่าจีน ซึ่งท่านได้เชื้อเชิญเราให้  นึกถึงกระบวนการถ่ายทอดความ เชื่อ ที่เราเคยได้รับจาก พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเรา   และสิ่งที่เราในฐานะผู้ปกครองที่เราอบรมสั่งสอนบุตรหลานของเรา และท่านได้เล่าถึงกระบวนการแพร่ธรรมที่เข้ามาในประ เทศไทยซึ่งนานถึง 400 ปีแล้ว    และกระตุ้นให้เราคิดถึงพิจารณา ศีลอภัยบาปโดยชี้แนะสิ่งต่างๆให้

เวลาวิ่งไปอย่างรวดเร็ว หลังจาก 7 ชัวโมง  ทุกคนได้รวมตัวในวัดร่วมมิสซาขอบพระ คุณพระเป็นเจ้า โดยมีคุณพ่อ ชุมพา คูรัตน์ มาฟังแก้บาป ซึ่งมีหลายท่าน  ได้ยืนรอรับศีลอภัยบาป

 เท่าที่ผู้เขียนเคยไปร่วมงานที่บ้านผู้หว่าน ก็ได้เห็นเป็นครั้ง แรกที่มีคนยืนรอรับศีลอภัยบาปมากเช่นนี้ 

ผู้ที่เป็นคาทอลิกมีความเชื่อว่า  หลังจากได้เข้ารับการเข้าเงียบและฟื้นฟูจิตใจตนเองแล้วสิ่งเดียวที่ต้องทำคือการขอโทษพระเป็นเจ้าที่เขารัก เป็นแน่แท้