หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ประมวลภาพพิธีปลงศพ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์

วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 2008  เวลา 15.00 น . ได้มีพิธีปลงศพ ยวง บัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ บิดาของคุณพ่อวีระ และ คุณพ่อ เดชา อาภรณ์รัตน์  ณ วัดนักบุญฟรังซิสเซเีวียร์ สามเสน โดยมีคุณพ่อเดชา อาภรณ์รัตน์ บุตรชายคนที่ 3 เป็นประธาน ร่วมกับคุณพ่อวีระ อาภรณ์รัตน์ ( บุตรชายคนโต ) คณะสงฆ์ที่มาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 100 องค์ ท่ามกลางความอาลัยรักของลุก ๆ และหลาน ๆ ตระกูลอาภรณ์รัตน์ รวมถึงญาิติสนิท มีสมาชิกในวัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์  และบุคคลที่รู้จักเดินทางมาร่วมจำนวนมาก เพื่อร่วมใจกัน ภาวนาอุทิศแด่ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ บุรุษผู้น้ำใจดีผู้นี้ ด้วยความซาบซึ้ง และ อยากจะสดุดีในความดี ที่ท่านได้กระทำ อันเป็นแบบอย่างคริสตชนที่ดีท่ามกลางชุมชุนวัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ สามเสน แห่งนี้

ชีวิตของยวง บัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ ที่หลายคนรู้จัก เป็นบุคคลที่พร้อมจะเสียสละชีวิต จากผลงานกิจกรรมดีเด่นที่ประจักษ์ในปัจจุบัน  “คริสตชนส่วนมากในหมู่บ้านจะรู้จักนายหวลเป็นอย่างดี เพราะเวลามีใครเจ็บไข้ได้ป่วย ถึงแก่กรรม ก็จะมาขอความช่วยเหลือในเรื่องโลงศพ และพิธีบรรจุ นายหวลจะบริการทุกท่าน ทุกฐานะ อย่างเต็มใจ และด้วยความรัก จึงเป็นบุคคลที่ชาวสามเสนรักและนับถือ” นี่เป็นคำบอกกล่าวจากสัตบุรุษวัดนักบุญฟรังซิสสามเสนที่รู้จักลุงหวลเป็นอย่างดี

ประวัติของยวง บัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์
เกิดวันที่ 18 พ.ค. 1931 (พ.ศ. 2474) จังหวัดจันทบุรี
บิดา ชื่อ อันตน ผาง
มารดา ชื่อ อันนา แลน
มีพี่น้องรวม 5 คน คือ
1. อันตน สน    มรณะ 25 ธ.ค. 1974
2. ยออันนา หอม
3. ยวงบัปติสตา หวล
4. อันตน กับ     มรณะ 9 ก.ย. 1999
5. ยอแซฟ โตมา    มรณะ 11 มี.ค. 1979

รับศีลล้างบาปที่วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล จันทบุรี วันที่ 19 พ.ค. 1931
รับศีลกำลัง 5 เม.ย. 1942

รับศีลแต่งงาน กับ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์ วันที่ 24 ต.ค. 1954 (พ.ศ. 2497) ณ วัดเซนต์ฟรังซิสเซเวียร์ สามเสน มีบุตร 12 คน หลาน 20 คน

เซซีลีอา แน่งน้อย ( ภรรยา ) ได้สิ้นใจเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 1986 (พ.ศ. 2529)

สภาอภิบาลวัดเซนต์ฟรังซิสเซเวียร์ กรุงเทพฯ ได้เสนอชื่อ “ลุงหวล” ให้สมาคมคาทอลิกแห่งประเทศไทยในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ และจัดพิธีมิสซาในวันที่ 16 ธันวาคม 2006 ณ วัดเซนต์หลุยส์ สาทร

การศึกษาประถมศึกษาปีที่ 4
อาชีพขับรถรับจ้าง
ครอบครัว สมรส มีบุตร 12 คน

ลูก  ๆ ของยวงบัปติตา หวล และ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์
1.บาทหลวง ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์
2.ยอแซฟ วิชัย อาภรณ์รัตน์
3.บาทหลวง ฟรังซิสเซเวียร์ เดชา อาภรณ์รัตน์
4.มารีอา วิภา อาภรณ์รัตน์
5.เปาลีนา ลาวัณย์ (เก็งทอง)
6.มารีอา วิไล (ชัยวัฒนไชย)
7.วินเซนต์ ชัยรัตน์ อาภรณ์รัตน์
8.เซซีลีอา พัชรา (เนื่องกัลยา)
9.ฟรังซิส สามารถ อาภรณ์รัตน์
10.ยวงบัปติสตา เมธี อาภรณ์รัตน์
11.ยวงบัปติสตา พินิจ อาภรณ์รัตน์
12.เปาลีนา ปณิชา อาภรณ์รัตน์

ที่อยู่ปัจจุบัน34/5 แขวงวชิระ เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300

ประวัติการทำงานของท่าน
เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม/องค์กรชุมชน
1. สภาอภิบาลวัดเซนต์ฟรังซิสเซเวียร์ ตำแหน่งฝ่ายสังคมพัฒนา
2. พิธีกรรมทางศาสนา ตำแหน่งงานสุสาน ช่วยรับส่งผู้ถึงแก่กรรม
3. วินเซนต์เดอปอล ตำแหน่งช่วยเหลือในเรื่องบรรเทาทุกข์ อุทกภัย และอื่นๆ

ชีวิตของยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ผู้นี้ ยังคงทำหน้าที่ บิดาที่ดีที่เลี้ยงดูบุตร เอาใจใส่ต่อบุตร  ท่านมีอุดมการณ์/แนวคิดในการอบรมเลี้ยงดูบุตร  เป็นแบบอย่างที่ดี ท่านเป็นที่เคารพรักของบุตรหลาน จะให้คำแนะนำช่วยเหลือลูกเมื่อเดือดร้อน ไม่เคยดุว่าหรือเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่เคยทำโทษ หรือติเตียน แต่จะเตือนและทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี สวดร่วมกับลูกทุกคืน

ยวงบัปติสตา ได้รับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลวชิระ ในเย็นวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม และสิ้นใจด้วยโรคติดเชื้อในกระแสโลหิต ตอนเช้าของวันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2008

ขอนำคำสัมภาษณ์ ยวงบปัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ ที่ลงสารสังฆมณฑล ฉบับที่ 6 ประจำเดือนธันวาคม 2003
มาบอกเล่า เรื่องราว  คุณลุงบุคคลผู้มีน้ำใจดี ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยามที่เขาต้องการความช่วยเหลือ และร่วมมือกับกิจกรรมของวัดทุกอย่าง โดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน หวังแค่ได้ยื่นมือเข้าไปมีส่วนร่วมให้งานนั้นผ่านพ้นไปด้วยดี

ชีวิตของคุณลุงสมัยตั้งแต่เด็ก ๆ จนถึงปัจจุบันมีความเป็นมาอย่างไรบ้างคะ
ลุงหวล : ชีวิตลุงลำบากมาตั้งแต่เด็ก ๆ ใช้ชีวิตอยู่กับยายที่จันทบุรีเพราะพ่อแม่ของลุงเสียชีวิตทั้งคู่ จนอายุได้ 16 ปี ก็ย้ายมาทำงานที่กรุงเทพฯ จนอายุ 21 ปี เกณฑ์ทหารก็มาอยู่ที่จันทบุรีแล้วก็ย้ายมาอยู่กับพี่สาวที่ระยองอีกปีกว่าทำเรือประมงจับปลาที่อ่าวระยอง ต่อมาเห็นเขาต่อเรือใหญ่ก็เลยได้กลับมาที่กรุงเทพฯ มาอยู่กับญาติทางพ่อแล้วก็ทำเรือ ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยจะดีเลยเปลี่ยนอาชีพจากอยู่เรือมาขับรถตุ๊กตุ๊ก แทน มาขับอยู่หลายปีอีกเหมือนกัน รับคนโดยสารเวลาไปไหนมาไหนคนที่เขาเคยเห็นเราอยู่เรือแล้วมาขับรถก็ยังไม่เชื่อเลย จากรถตุ๊กตุ๊ก ก็เปลี่ยนมาเป็นรถซูบารุ รับจ้างวิ่งตลาดไปเรื่อยๆ

แล้วมีเวลาดูแลลูก ๆ  อย่างไรบ้างคะ
ลุงหวล : ลูก ๆ จะอยู่กับพ่อตาและแม่ยาย เขาจะช่วยเลี้ยงดูให้ พ่อตาจะเป็นคนไกวเปล เราไม่ได้เลี้ยงเพราะเราต้องทำมาหากิน

อะไรเป็นแรงจูงใจให้คุณลุงส่งลูกไปบวชเป็นพระสงฆ์คะ
ลุงหวล : พอจบ ป.2 เขาก็ขอเข้าบ้านเณรเอง เพราะยายปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ๆ ให้ไปเป็นเด็กช่วยมิสซา พาไปเข้าวัดเช้าทุกวัน พอกลับมาก็ค่อยแต่งตัวไปโรงเรียนอีก เป็นอย่างนี้อยู่ทุกวัน เมือก่อนตอนแม่เขาอยู่ก็สวดพร้อมกันทั้งครอบครัว และตอนนี้เวลาพ่อวีระมาที่บ้านก็ต้องสวดพร้อมกันทุกครั้ง แต่ลุงก็สวดของลุงอยู่ทุกวันนะ

ลุงเคยดำรงตำแหน่งและทำกิจกรรมอะไรที่วัดบ้างคะ
ลุงหวล : เคยเป็นสภาอภิบาล เป็นอยู่สมัยเดียว 4 ปี สมัยคุณพ่อประวิทย์ เป็นเจ้าอาวาส แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว ไม่ไหวล่ะ แต่เราก็ยังช่วยงานวัดอยู่ทุกอย่างนะ มีอะไรก็ต้องเรียกใช้เราตลอด เวลาตรุษจีน เสกป่าช้า ไปขนโต๊ะ ขนเก้าอี้ไปวางสุสาน ถ้าลุงไม่ได้ขับก็จะให้ลุกชายไปแทน



กิจกรรมของคุณลุงที่ได้ยินมา เรื่องานศพ อย่างเช่น เวลาไม่มีรถขนศพ หรือไม่มีเงินจัดงานศพ ฯลฯ ก็สามารถมาหาลุ งหวลได้เลย
ลุงหวล : อย่างที่วัดเนี๊ยะ ถ้าใครตาย เป็นเรื่องเกี่ยวกับงานศพนะ ลุงจะรู้เป็นคนแรก เพราะพ่อที่วัดเขาจะบอกให้มาหาลุง เดี๊ยวลุงจัดการให้เรียบร้อย ก็ถือว่าเป็นที่รู้จักกันว่าเราจัดการเรื่องนี้ให้ทุกอย่างแต่ก็ไม่ใช่แต่ที่วัดนะ ก็รับใช้ทุก ๆ วัดนั่นหล่ะ

จุดเริ่มต้นให้คุณลุงทำงานตรงนี้คืออะไรคะ
ลุงหวล : จุดเริ่มต้นคือ รถที่วัดเขาไม่มี เราก็ได้ทำก่อนเป็นคนแรก แต่ส่วนใหญ่ตอนนี้เขาก็ใช้รถตู้กันแล้วนะ

แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายล่ะคะ คุณลุงทำอย่างไรคะ
ลุงหวล : เงินถุงทานที่ทางวัดเขาเก็บในมิสซาฝังศพนั่นหล่ะ มาช่วยค่าโลงช่วยศพคนจนไม่มีเงินซื้อโลง


( รูปลุงหวล ด้านขวาเป็นภรรยาของท่านครับ )

สิ่งที่ลุงลำบากใจในความเป็นพ่อมากที่สุดคืออะไรคะ
ลุงหวล : ไม่ลำบากใจ ลูกเชื่อฟัง ไม่ลำบากตรงนี้บอกได้เลย และรู้สึกภฺมิใจซะด้วยซ้ำว่า “เออ นี่เราเลี้ยงลูกให้เป็นพระสงฆ์และก็รักเท่ากันทุกคน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีแม่แล้ว แล้วเราก็ไม่รู้ว่า เราจะอยู่กับเขาได้นานถึงไหน แต่จริงนะแม่เขาก็ไปสบายแล้ว เพราะว่า มีคุณพ่อเขาถวายมิสซาให้ทุกวัน

นี่เป็นคำให้สัมภาษณ์ของยวลบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ หรือลุงหวล  5 ปีที่ผ่านมา เวลาไปวัดฟรังซิสเซเวียร์สามเสน ทีีไร ก็ยังคงรอยยิ้มที่ใจดี บนใบหน้าของลุงหวลผู้นี้เสมอ

ขอฝากคำภาวนาของลุงหวล อาภรณ์รัตน์ ไว้ในคำภาวนาของพี่น้องทุกท่าน เสมอ เมื่อใดที่ท่านสวดภาวนา ร่วมมิสซา และ กระทำดีใด ๅ อย่าลืมคิดถึง ยวงบัปติสตา หวล ผู้นี้ สิ่งดี ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ท่านได้รับรางวัลสวรรค์ ยิ่งวัน ยิ่งมากขึ้นครับ

ขอคำภาวนาแด่ยวง บัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์