ประมวลภาพบรรยากาศฉลองครบรอบ 150 ปี แห่งการประจักษ์ของแม่พระที่เมืองลูร์ด

กิจกรรมเสริมสร้างความรักและความศรัทธา และฉลองแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด ครบรอบ 150 ปีนั้น เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 08.00 น. โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ณ หอประชุมบุญราศี นิโคลัส บุญเกิด กฤษบำรุง


ซ.มารีอา ศรีรัตน์ หงษาภรณีบตุร ประธานการจัดงานฉลองครบรอบ 150 ปี แห่งการประจักษ์ของพระนางพรหมจารีย์มารีย์ที่ลูร์ด ได้กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า  คณะพลมารี ในฐานะของพลทหารของแม่พระในกิจการแพร่ธรรมพลมารี จึงได้ตั้งคณะกรรมการในการจัดเตรียมงานฉลองในประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ เลียนแบบให้สอดคล้องกับการจัดฉลองที่ลูร์ด


การจัดกิจกรรมเสริมความศรัทธาในวันนี้ ประกอบด้วยการเดินตามรอยพระผู้ไถ่ ในการเดินรูป 14 ภาค และการไถ่กู้ของพระคริสตเจ้าในมิสซารวมถึงการเฝ้าศีลมหาสนิท การสวดสายประคำ พร้อมกับการโปรดศีลเจิมแก่ผู้ป่วยและผู้สูงอายุ การติดตามความเป็นมาของการประจักษ์ที่ลูร์ด การจัดซุ้มความรู้ในเรื่องการประจักษ์ของพระแม่ พระคัมภีร์ ประวัติผู้ก่อตั้งคณะพลมารี คู่มือของพลมารี และแบบอย่างของอิเดล ควิน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานฉลองได้แลเห็นแผนการของพระเจ้า สำหรับเราแต่ละคนที่ปรากฎอยู่ในชีวิตของพระแม่ และผู้แพร่ธรรมแต่ละคน


การจัดงานฉลองในวันนี้สำเร็จลงได้เพราะได้รับความอนุเคราะห์สถานที่และอาหาร พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง จากคุณพ่อเจ้าอาวาสวัดนักบุญเปโตร และสภาอภิบาล ความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่และสมาชิกทุกคูเรียและเปรสิเดียมในสังกัด ในการจัดเตรียมงานต่าง ๆให้สำเร็จด้วยดีในวันนี้

เวลา 12.00 น. เฝ้าศีลรอบ 4 เขต 2 บริเวณสักการสถาน สวดสายประคำรอบ 2 ศีลเจิมผู้ป่วย โดย คูเรียเยาวชน บริเวณถ้ำแม่พระ

เวลา 13.00 น. สวดสายประคำรอบ 3 ศีลเจิมผู้ป่วย ผู้สูงอายุ เขต 4

เวลา 13.30 น. ช่วงนี้ นับเป็นการเฝ้าศีล ที่สำคัญ ก่อนจะอวยพรศีล คุณพ่อชวลิต กิจเจริญ จิตตาธิการเซนาตุส นำสวดสายประคำอย่างสง่า บริเวณ สักการสถานบุญราศี คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง

ช่วงนี้เป็นช่วงที่กลุ่มพลมารีรวมตัวสวดสายประคำและร้องเพลงสรรเสริญแม่พระ เป็นบรรยากาศที่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกผูกพัน ระหว่างกองพลเสื้อฟ้า พลมารีกับแม่พระ  ผ่านสายประคำศักดิ์สิทธิ์  ที่นั่งทุกทีและแทบจะทุกซอกมุมของสักการสถาน ต่างเต็มล้นด้วยผู้คน ที่พยายามจะเข้ามาเพื่อร่วมสวดสายประคำ เป็นภาพที่ประทับใจ เมื่อได้เห็น และสัมผัสได้ถึงความเชื่อ ที่ผ่านทางคำภาวนา “บทวันทามารีอา”  ที่กลั่นมาจากใจ อาจเป็นหนึ่งบทที่ทำให้บางคนได้กลับใจ และพบหนทางความรอดพ้นในคำภาวนานี้ก็อาจเป็นไปได้ จากนั้นคุณพ่อได้อวยพระศีลมหาสนิท ก่อนที่ทุกคน จะเตรียมตัวไปยังวัดนักบุญเปโตร เพื่อร่วมการเดินรูป 14 ภาคในลำดับต่อไป

เวลา 14.30 น. คุณพ่อสมชาย อัญชลีพรสรรค์ นำเดินรูป 14 ภาค บริเวณรอบวัดนักบุญเปโตร บรรยากาศการเดินรูปในรอบบ่าย เป็นไปด้วยความศรัทธาอย่างแท้จริง  แม้ส่วนมากจะเป็นพลมารีผู้สูงอายุ  แต่ก็มิได้เป็นอุปสรรคอันใด แม้จะคุกเข่าลำบากบ้่าง แต่สุดท้าย ทุกคนก็ร่วมเดินตามมรรคาศักดิ์สิทธิ์ เหมือนครั้งหนึ่งที่แม่พระได้ร่วมเดินทางกับพระเยซูเจ้า และลูก ๆ ของแม่พระ ก็เดินตามทางของแม่พระเสมอเช่นเดียวกัน

ซ.มารีอา ศรีรัตน์ หงษาภรณีบตุร ในฐานะผู้แทนของพลมารี กล่าวขอบคุณคุณพ่อจำเนียร กิจเจริญ อุปสังฆราช ที่กรุณามาเป็นประธานในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ และแห่แม่พระในวันนี้ “นับตั้งแต่พลมารี ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นเซนาตุสในประเทศไทย คุณพ่อก็ได้รับหน้าที่เป็นจิตตาธิการเซนาตุสในวาระหนึ่ง และเมื่อคุณพ่อมีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติอีกมากมายในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯคุณพ่อก็ยังให้การสนับสนุนพลมารีเสมอมามิได้ขาด

และในวันนี้ อันเป็นวันแห่งความชื่นชมยินดีอีกวันหนึ่ง ที่พลมารีในประเทศไทย โดยการสนับสนุนของอัครสัีงฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้จัดงานฉลองครบรอบ 150 ปี แ่ห่งการประจักษ์ของพระนางมารีย์ที่เมืองลูร์ด ได้รับความสำเร็จอย่างดี ก็ด้วยจิตตาธิการของคูเรีย และจิตตาธิการของทุกเปรสิเดียมในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่ได้ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือในทุกกิจกรรมจนสำเร็จลุล่วงเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกท่านในวันนี้

และที่พลมารีขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งก็คือ คุณพ่อสานิจ สถะวีระวงศ์ เจ้าอาวาสวัดนักบุญเปโตร ที่กรุณาอำนวยความสะดวกในเรื่องสถานที่ การบริการอาหาร และอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ขอบคุณทุกท่าน ขอพระแม่อยู่เคียงข้างท่านตลอดไป

โอกาสที่วันนี้ ฉลอง 150 ปี การประจักษ์แม่พระเมืองลูร์ด คุณพ่อชวลิต กิจเจริญ จิตตาธิการเซนาตุส ได้ฝากถ้อยแถลง เกี่ยวกับสารของแม่พระ ที่มีความหมายสำหรับเราลูก ๆ เสมอก็คือ สารที่พระแม่เจ้าได้มอบให้เมื่อคราวที่ประจักษ์ที่ลูร์ด มีความหมายเหนือกว่าคำพูดใด ๆ การประจักษ์ก็ดี การมองเห็นพระพักตร์พระแม่ก็ดี อิริยาบถทั้งการเคลื่อนไหว และท่าทางต่าง ๆก็ดี ล้วนมีอิทธิพลต่อชีวิตของแบร์นาแดตและสภาพแวดล้อมดังนี้

1. ความยากจน แบร์นาแดตได้รับเลือกสรรจากพระเป็นเจ้า ท่านเองได้ชี้ให้เราเห็นความสุขของการมีจิตใจยากจน ท่านได้กล่าวว่า “ดิฉันเป็นคนยากจนเหมือนเดิม “ขณะที่ทรัพย์สมบัติกำลังถูกนำเสนอแก่ท่าน
2. การสวดภาวนาและการใช้โทษบาป ทั้งสองสิ่งนี้ ผูกไว้ด้วยกัน เพราะนำเราไปหาพระเป็นเจ้า ซึ่งหมายถึงการกลับใจ
3. การประทับอยู่ของพระแม่ พระแม่เป็นแม่ของดิฉัน แบร์นาแดตได้ขอให้คนอื่นสวดสายประคำ “จงไปนอนสวดสายประคำ..คล้ายกับลูก ๆ ที่กำลังนอนและกล่าวว่า คุณแม่”
4. ไม่มีความสุขในโลกนี้ ท่านได้มีประสบการณ์การเจ็บป่วย หิวกระหาย ความวิตกกังวลของครอบครัว ความสุภาพถ่อมตน
5. ...แต่ในโลกหน้า แบร์นาแดตพยายามมองดูความทุกข์ทรมานของท่าน เป็นเหมือนหลักประกันและคำสัญญาว่า “วันหนึ่งเราจะเดินทางไปสวรรค์”
6. ความรัก ที่แสดงต่อคนเจ็บและคนยากจน
7. พระเป็นเจ้าแต่ผู้เดียว ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ แบร์นาแดตเจริญชีวิตด้วยความรัก พระเป็นเจ้าแต่ผุ้เดียว ท่านหวังทุกสิ่งจากพระองค์
“ข้าพเจ้าขอมอบทุกสิ่งแก่พระองคื ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์”

ในช่วงสุดท้่ายของชีวิต แบร์นาแดตได้สมัครบวช ในคณะซิสเตอร์แห่งความเมตตาที่เมืองเนเวอร์ส ท่านได้ถูกรบกวนจากสัตบุรุษและนักบวชจำนวนมาก ได้ใช้ชีวิตบั้นปลายในคอนแวนต์ โดยบอกว่าตนเองต้องการจะซ่อนตัวเงียบ ๆ ได้สัมผัสกับพระเป็นเจ้าอย่างเงียบ ๆ ในอาราม รับใช้พระองค์ด้วยความสุภาพ ได้ใช้ชีวิตในคอนแวนต์นาน 13 ปี ใช้ชีวิตส่วนใหญ่คล้ายคนป่วยในโรงพยาบาล เมื่อท่านถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเกียจคร้าน ท่านได้ตอบว่า “งานของดิฉัน คือการเป็นคนป่วย” แบร์นาแดตได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1897 พระแม่เจ้าแห่งลูร์ด ได้รักษาคำสัญญาที่ให้แก่แบร์นาแดตในปี ค.ศ. 1858 ว่า “ฉันไม่สัญญาจะให้ความสุขแก่เธอในโลกนี้ แต่ในโลกหน้า” แม้การประจักษ์ของพระแม่แก่แบร์นาแดตได้จบลง แต่สารและพันธกิจนั้นจะไม่มีลันถูกลืม แบร์นาแดตได้ถวายความทุกข์ทรมานทั้งกายและจิตใจ และภายนอก เพื่อความดีของคนบาปทุกคน พระแม่เจ้าแห่งลูร์ด ช่วยวิงวอนเทอญ นักบุญแบร์นาแดต ช่วยวิงวอนเทอญ