หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

Don Daniele    เขียน
Tartaruga    ภาพ

วันศุกร์ที่ 25 เมษายน ของทุกปีที่อิตาลีเป็นวันหยุดประจำชาติที่เรียกว่า “วันปลดปล่อย” ซึ่งเป็นวันที่สำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอิตาลี  คือเป็นวันระลึกถึงการต่อสู้ของกองกำลังผู้รักชาติกับกองทัพนาซีเยอรมันและฝ่ายสนับสนุนพรรคฟาสซิสต์ในปี ค.ศ. 1945  ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง

แต่สำหรับคนไทยในโรมวันที่ 25 เมษายนปีนี้เป็นวันพิเศษกว่าทุกวัน เนื่องจากเป็นวันที่พวกเราพระสงฆ์และฆราวาสรวม   49   ชีวิตโดยการนำของคุณพ่อ  เอกมัย เหลือหลาย คณะภราดาน้อยกาปูชิน ได้เดินทางไปแสวงบุญที่อาสนวิหารแม่พระแห่งโลเรโต  ถือเป็นการเดินทางไปแสวงบุญด้วยกันเป็นครั้งแรก     (หลังจาก ไม่ได้ไปมาหลายปี)  นอกเหนือจากการพบปะกันและร่วมมิสซาด้วยกันเป็นประจำทุกเดือน

การเดินทางครั้งนี้ กำหนดเวลานัดหมายรวมตัวกันที่สถานีรถไฟแตร์มินี (Termini) ใจกลางกรุงโรม  เวลา 06.00 น. แต่กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยและออกเดินทางได้ก็เกือบเจ็ดโมงเช้า เรียกได้ว่าทุกคนยังคงรักษาเอกลักษณ์แบบไทยๆ ไว้อย่างเหนียวแน่น ที่อิตาลีตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศกำลังดีประมาณ 15-20 องศา    แต่อาจจะค่อนข้างหนาวสำหรับผู้มาใหม่อย่างคุณพ่อสันติ  ปิตินิตย์นิรันดร์ จากสังฆมณฑลนครสวรรค์ ทำให้ไม่ค่อยสบาย  แต่คนที่สบายใจที่สุดคือคุณพ่อเอกสิทธิ์  ทัฬหะกุลธร คณะซาเล  เซียน เพราะเรียนจบแล้วและจะกำลังจะกลับเมืองไทยในปลายเดือนเมษายนนี้

รถบัสขนาด    50  ที่นั่งได้นำคณะของพวกเรามุ่งหน้าสู่โลเรโตไปตามทางด่วนสาย    E 45 ด้านตะวันออกของประเทศอิตาลี   ด้วยภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นภูเขา    ทำให้พวกเราได้ตื่นตาตื่นใจกับทะเลหมอกสองข้างทางที่สวยงามใต้ขุนเขาที่สูงต่ำสลับกันไป  บนยอดสุดของภูเขาที่ไกลออกไปยังคงมีหิมะปกคลุมให้ได้เห็นแม้จะไม่มากเหมือนช่วงฤดูหนาวก็ตาม

คณะของพวกเราไปถึงโลเรโต เวลา11.00น.สามารถมองเห็นหอระฆัง ยอดโดมและอาสนวิหารได้จากระยะไกล  ก่อนจะได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศ   แบบใกล้ชิดท่ามกลางผู้แสวงบุญที่มาถึงก่อนเป็นจำนวนมาก   โดยคณะของพวกเราได้รับสิทธิพิเศษสามารถถวายมิสซาที่วัดน้อยใต้อาสนวิหารเป็นการ   เฉพาะ    โดยคุณพ่อเอกมัย   เหลือหลาย   เป็นประธานในพิธีและรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันหลังจากนั้น โลเรโต       เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ทะเลอาเดรียติกในแคว้นอันโคนา อยู่ห่างจากเมืองอันโคนาไปทางใต้ประมาณ20กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 11,000 คน  ตามตำนานเล่าว่า   บ้านของแม่พระที่นาซาเร็ธได้รับการรักษาไว้ที่อาสนวิหารแห่งโลเรโตนี่เอง  

ความเป็นมาของบ้านแม่พระที่โลเรโต

หนังสือพระธรรมใหม่บอกให้เราทราบว่า พระเยซูได้รับการเลี้ยงดูโดย แม่พระและนักบุญยอแซฟ ณ เมืองเล็กๆ   แห่งหนึ่งชื่อ นาซาเร็ธ ใกล้กับกรุง เยรูซาเล็ม ในบ้านหลังเล็กๆ ที่เรียบง่าย โดยนักบุญยอแซฟมีอาชีพเป็นช่าง ไม้ 

สามศตวรรษหลังพระเยซูเจ้า     จักรพรรดิคอนสแตนตินได้สร้างวิหารครอบบ้านหินหลังดังกล่าวที่เชื่อว่าเป็นบ้านของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีลักษณะ เป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็นถ้ำเจาะเข้าไปในหิน (ยังคงอยู่ในวิหารที่นาซาแร็ธ)   และส่วนที่สร้างด้วยหินด้านหน้า และอยู่เหนือส่วนที่เป็นถ้ำ 

เชื่อกันว่า ในปี ค.ศ. 1291 ก่อนที่สงครามครูเสดจะสิ้นสุดลงและปาเลสไตน์จะถูกมุสลิมยึดครอง เทวดาได้ยกบ้านของแม่พระส่วนที่สร้างด้วยหินที่นาซาเร็ธไปที่อิลลิเรีย (Illyria) ปัจจุบันอยู่ในประเทศโครเอเชีย และในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1294 เทวดาได้ย้ายไปไว้ในป่าที่เรกันติ (Recanti) ประเทศอิตาลีเนื่องจากมุสลิมรุกรานอัลเบเนีย  ไม่นานหลังจากนั้นได้ย้ายไปตั้งที่โลเรโตอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

จากหลักฐานทางโบราณคดี  และการศึกษาลักษณะของหินและภาพไอคอนที่ปรากฏในผนัง ยืนยันว่าหินที่โลเรโต รูปแบบและวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง    เป็นหินและวัสดุลักษณะเดียวกันกับที่นาซาเร็ธ    ไม่ปรากฏหินและวัสดุชนิดนี้ในเขตมาร์ เคของอิตาลี  ซึ่งสอดรับส่วนที่เป็นถ้ำที่เคยเป็นตั้งบ้านของแม่พระที่นาซาเร็ธทั้งรูป แบบและขนาด อีกทั้งการตรวจสอบอายุของหินทั้งสองแห่งยืนยันว่าอยู่ในยุคเดียวกัน

ปัจจุบัน ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์เชื่อกันว่า   บ้านของแม่พระถูกขนส่งจากนาซาเร็ธมาที่โลเรโตทางเรือด้วยความช่วยเหลือของครอบครัวสูงศักดิ์ที่ชื่อว่า อันเจลี (Angeli) ขณะที่ปกครอง เอปิรุส (Epirus) ในศตวรรษที่ 13   ก่อนที่จะถูกมุสลิมทำลาย  

ในปี ค.ศ. 1469 ได้มีการก่อสร้างอาสนวิหารครอบบ้านของแม่พระที่โลเร โต   ส่วนการสร้างหินอ่อนล้อมรอบบ้านของแม่พระที่เห็นในปัจจุบันเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1507    ตามคำสั่งของพระสันตะปาปา    จูเลียสที่ 2  โดยการออกแบบของบรามันเตและได้รับการตกแต่งโดยศิลปินเอกชาวอิตาเลียนยุคเรเนสซองหลายคน 

คุณค่าและความหมายในปัจจุบัน

บ้านแม่พระที่โลเรโต ในอิตาลีได้กลายเป็นที่เคารพศรัทธาของผู้จาริกแสวงบุญมากมาย หลายคนได้รับการรักษาและได้รับอัศจรรย์  พระสันตะปาปาหลายองค์ได้ไปที่นั่น รวมถึงบรรดานักบุญเป็นจำนวนมาก ได้ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจและ เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตในการทำงานรับใช้พระเจ้าและพระศาสนจักรจนกลาย เป็นนักบุญ  

ในปี ค.ศ.1910 แม่พระแห่งโลเรโตได้กลายเป็นองค์อุปถัมภ์ของนักบินและหน่วยงานที่เกี่ยวกับอวกาศและการบิน เพราะตำนานที่เชื่อกันว่า เทวดาได้ยกบ้านที่นาซาเร็ธบินมาที่โลเรโต  ดังนั้นในวันที่ 8 กันยายนของทุกปีซึ่งเป็นวันฉลองแม่พระบังเกิด บรรดานักบินจะไปรวมตัวกันที่นั่นเพื่อภาวนาและร่วมขบวนหลากสีสัน เพื่อเฉลิมฉลอง

บ้านแม่พระที่โลเรโต เป็นสักการสถานนานาชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกที่อุทิศให้กับแม่พระ ตั้งแต่สมัยกลางที่เชื่อกันว่าเป็นบ้านที่แม่พระอาศัยอยู่และเลี้ยงดูพระกุมารเยซู  สักการสถานแห่งนี้จึงเป็นศูนย์กลางที่แท้จริงของคริสตศาสนาเกี่ยวกับแม่พระ เป็นสถานที่สำหรับภาวนาและดึงดูดใจผู้คนมากกว่า 4 ล้านคนให้มาแสวงบุญในแต่ละปี