หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ประมวลภาพวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ ( ภาคเช้า )

วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์พิธีล้างเท้าอาสนวิหารอัสสัมชัญ ภาพโดยนายมงคล มโนลม้าย

เวลา 9.30 น. พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธานในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ โอกาสวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2008  อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก ร่วมกับพระอัครสังฆราชซัลวาตอเร เปนนักคีโอ ฯพณฯ เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย มงซินญอร์เดนนิส คูรัปปัสเซรี เลขานุการสถานเอกอัครสมณฑูตวาติกันประจำประเทศไทย  คณะสงฆ์ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ นักบวชชาย - หญิง สภาอภิบาลจากวัดในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ และวัดน้อยประจำโรงเรียน ร่วมพิธีกรรม รื้อฟื้นคำสัญญาของการเป็นพระสงฆ์ เสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ และรับเทียนปัสกา เพื่อนำกลับไปยังวัดของตนเอง

เทียนปัสกาที่พระคาร์ดินัลได้มอบให้กับตัวแทนของวัดแต่ละวัดนั้น เปรียบเสมือนนำแสงสว่างของพระคริสตเจ้า ที่พระองค์ทรงเป็นแสงสว่างส่องโลก ไปส่องสว่างท่ามกลางชีวิตและประกาศให้ทุกคนได้รู้จักกับองค์พระเยซูเจ้า องค์แสงสว่างนำทางชีวิต

ข้อคิดดี ๆ บทเทศน์วันพฤหัสฯศักดิ์ิสิทธิ์ของพระคาร์ดินัล
 
“ไม่มีใครจุดเทียนแล้วไว้ใต้ตู้ แต่จะนำมาวางไว้เพื่อให้ทุกคนได้รับแสงสว่าง”

“สงฆ์ของพระเจ้าจะรับใช้ใครอื่นไม่ได้นอกจากพระเจ้าเท่านั้น”

“จะเป็นประโยชน์อันใดถ้าท่านได้กรรมสิทธิ์ในโลกนี้ แต่ต้องสูญเสียดวงวิญญาณไป”

สำหรับความหมายของน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้  พระศาสนจักรกล่าวถึงน้ำมัน 3  ชนิด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ดังนี้

1) น้ำมันสำหรับผู้เตรียมเป็นคริสตชน ให้พลังแห่งพระจิตแก่ผู้ที่จะรับศีลล้างบาปและกลายเป็นนักสู้ของพระคริสตเจ้าในการต่อต้านความชั่ว

2) น้ำมันสำหรับเจิมคนไข้ คือเครื่องหมายแสดงภายนอก (สาร) ที่ใช้สำหรับศีลเจิมคนป่วย โดยเจิมคนป่วยเหมือนเป็นขี้ผึ้ง ที่หน้าผากและที่ฝ่ามือ เพื่อบรรเทาความเจ็บป่วยด้วยการประทับอยู่ของพระจิต

3) น้ำมันคริสมา คือ น้ำมันหอมที่ใช้สำหรับเจิมเพื่อทำให้ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากรับศีลล้างบาป มีการเจิมน้ำมันที่ศีรษะของบุตรคนใหม่ของพระเจ้า   ระหว่างพิธีศีลกำลัง  มีการทำเครื่องหมายกางเขนที่หน้าผากระหว่างการบวชพระสังฆราช  มีการเจิมน้ำมันที่ศีรษะของพระสังฆราชใหม่ เช่นเดียวกัน มีการเจิมน้ำมันที่มือของพระสงฆ์บวชใหม่ ระหว่างการอภิเษกวัดและพระแท่น มีการเจิมน้ำมันที่กางเขนและโต๊ะที่จะใช้เป็นพระแท่น ในโอกาสเ หล่านี้ การเจิมด้วยน้ำมันคริสมา หมายถึง  กิจการของพระจิตเพื่อครอบครองสิ่งของตามพันธกิจหรือหน้าที่ของสิ่งนั้น ๆ

ระหว่างมิสซาเพื่อประกอบพิธีเสกน้ำมันในเช้าวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ พระสังฆราชจะเสกน้ำมันสำหรับผู้เตรียมเป็นคริสตชนและน้ำมันสำหรับเจิมคนไข้ ก่อนเสกน้ำมันคริสมา พระสงฆ์ที่ร่วมพิธีมิสซาจะกางมือออกระหว่างการเสกน้ำมันคริสมา จะเก็บน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ในโถเงินหรือโถทอง  หรือขวดสำหรับวางบนพระแท่นที่มีฝารูปกางเขนเล็ก ๆ ปิดอยู่

บทเทศน์ ของพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู โอกาสวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์  เน้นย้ำว่า “สงฆ์ของพระเจ้า สงฆ์ผู้รับใช้ จะรับใช้ใครคนอื่นไม่ได้ นอกจากรับใช้พระเจ้าเท่านั้น ” 

ในทุก ๆ ปี อาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่อาทิตย์ใบลาน พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มอย่างวีรบุรุษ วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ได้ทำให้พระศาสนจักรรำลึกถึงเหตุการณ์ศักดิ์สิทธิ์ พระศาสนจักรเชิญชวนพระสงฆ์ทั้งหลาย ให้มาร่วมในพิธีรื้อฟื้นคำสัญญา และเสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์  ไม่ใช่เฉพาะพระสงฆ์เท่านั้น แต่บ่งบอกถึงหน้าที่สำคัญของทุกคนในพระศาสนจักรด้วย สำหรับพระสงฆ์การมารื้่อฟื้นคำสัญญานี้ เป็นการมาร่วมในสังฆภาพหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า ประทานให้กับพระสงฆ์ ดังเช่นในอดีต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ร่วมกับพี่น้องทุกท่านในบทเพลง “ขอสรรเสริญเยินยอพระองค์ ราชาธิราชผู้ทรงเกียรตินิรันดร” นี่คือจุดประสงค์ของพระสงฆ์และของเราทุกคนที่จะต้องสรรเสริญ ราชาธิราช ผู้ทรงเกียรตินิรันดร

พระศาสนจักรได้รวบรวมคำอธิษฐานสำหรับพระสงฆ์ ในบทภาวนาของพิธีมิสซาในวันนี้ พระศาสนจักรได้อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเจิมพระบุตรของพระเจ้าให้มาเป็นบุตรของพระองค์ และพระองค์ได้บำเพ็ญตนเป็นพยานในโลกนี้” พระเยซูเจ้าได้รับการเจิมโดยองค์พระจิตเจ้า มีสังฆภาพจากองค์พระจิตเจ้า และเราภาวนาสำหรับทุกคนที่พระเจ้าโปรดให้มีการอภิเษก นั่นหมายถึง พระสงฆ์นั่นเอง พระสงฆ์มีสถานภาพเป็นคริสตชนได้รับการเจิม ได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่ มีวินัยที่จะรับใช้พระเจ้าและมนุษย์ และร่วมงานกับพระองค์อย่างซื่อสัีตย์

วันนั้นเป็นเกียรติอันสูงส่งได้ให้เข้ามารับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เป็นผู้ร่วมงานในการประกาศข่าวดี มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของพระเจ้า พระองค์โปรดให้ผู้ได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์บำเพ็ญตนเ็ป็นพยานถึงการกอบกู้ในโลกนี้ พระสงฆ์ต่างรู้ดีว่า “หน้าที่ในชีวิตของตนคืออะไร ?” การบำเพ็ญตนเป็นพยานถึงการกอบกู้ในโลกนี้ การกอบกู้จะเกิดขึ้นได้ก็โดยอาศัยพระเยซูเจ้าเท่านั้น พระสงฆ์มิได้สามารถช่วยกอบกู้ในโลก โดยปราศจากองค์พระเจ้า์ได้

จากหนังสือประกาศกอิสยาห์ ด้วยคำสองคำนี้ “ส่วนพวกท่านได้ชื่อว่า “สงฆ์ของพระเจ้า” ฐานะที่สูงส่งและมีเกียรติ ต้องรับผิดชอบ “สงฆ์ของพระเจ้า” และจะตั้งชื่อว่า “เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า” มีสถานภาพที่พระเจ้ายกขึ้นจากมนุษย์ธรรมดาให้เป็นพระสงฆ์ เพราะฉะนั้น พระสงฆ์ มีหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้า ร่วมกับพระศาสนจักร เป็นหน้าที่เดียวกับองค์พระเยซูคริสตเจ้าเช่้นเดียวกัน

ในฐานะพระสงฆ์  ผู้รับใช้ของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้ “สงฆ์ของพระเจ้าจะรับใช้ใครอื่นไม่ได้นอกจากพระเจ้าเท่านั้น” พระเยซูเจ้าทรงรับมอบฉันทานุมัติจากพระเจ้าให้กอบกู้โลก บรรดาพระสงฆ์ก็เช่นกันมีหน้าที่ต้องช่วยมนุษย์ ช่วยสังคม ให้ทุกคนได้มารู้จักกับพระเจ้า ได้มารับใช้ปีโปรดปรานของพระเจ้า

ในพระวรสารท่านนักบุญลูกา มีข้อความที่เขียนไว้่า “พระจิตเจ้าของพระเจ้าอยู่เหนือข้าพเจ้า ทรงเจิมข้าพเจ้าให้รับใช้ ปลดปล่อยทุกคนให้เป็นอิสระ ช่างเป็นแผนงานที่ใหญ่โต สงฆ์ผู้รับใช้ของพระเจ้าต้องนำไปปฏิบัติในปีแห่งพระวาจานี้ นำพระวาจาทรงชีวิตไปมอบกับประชาชนของเรา ข่าวดีของคนยากจน มิใช่ยากจนฝ่ายทรัพย์สมบัติเท่านั้น การยากจนฝ่ายจิตใจและดวงวิญญาณของมนุษย์ ที่ขาดการรู้จักกับพระเจ้า ขาดความรักต่อพระเจ้า นี่เป็นความยากจนที่แท้จริง แต่ประการแรกเราต้องช่วยขจัดคนยากจนฝ่ายจิตใจให้ลดน้อยลงไป “จะเป็นประโยชน์อันใดถ้าท่านได้กรรมสิทธิ์ในโลกนี้ แต่ต้องสูญเสียดวงวิญญาณไป” ตามประสามนุษย์ภายนอกอาจจะถูกจองจำ ด้วยกิเลส ตัณหาต่าง ๆ พระสงฆ์ต้องนำแสงสว่างของพระเยซูเจ้า ปลดปล่อยให้ทุกคนได้รับอิสรภาพ และไม่ใช่หน้าที่พระสงฆ์เท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของเราทุกคนด้วย อาศัยศีลศักดิ์สิทธิ์ช่วย ปีแห่งการโปรดปรานของพระเจ้าจะเกิดขึ้นได้

โอกาสที่เรามาร่วมเป็นสงฆ์ของพระเป็นเจ้า สงฆ์ผู้รับใช้ของพระเจ้า จงขอบคุณพระเจ้า ด้วยคำภาวนา พระศาสนจักรจะช่วยให้สงฆ์ทั่วโลก และสงฆ์ในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ให้สมชื่อ “สงฆ์ผู้รับใช้ของพระเจ้า”


โอกาสนี้หลังบทภาวนาหลังรับศีล พระคาร์ดิันัล ได้มอบเทียนปัสกา กับวัดต่าง ในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และ อวยพรให้พี่น้องทุกท่าน ได้รับแสงสว่างเที่ยงแท้ “ขอให้ชีวิตของพี่น้องได้รับแสงสว่าง และช่วยให้พี่น้องอื่นได้รับแสงสว่างของพระคริสตเจ้า และขอให้พี่น้องได้รับสันติสุขในพระเจ้าตลอดไป”

ความหมายของน้ำมันศักดิืสิทธิ์ความหมายของการล้างเท้าความหมายของการตั้งศีลมหาสนิท