การมาบอกเล่าข่าวดีในวันนี้ปิดท้ายด้วยพิธีมิสซาขอบพระคุณ โดย คุณพ่อวัชศิลป์ และคุณพ่อวิทยา ได้ให้พวกเขาบอกเล่าถึงข่าวดี ว่า ใครบอกเล่าเรื่องพระเยซูเจ้า กับใคร จนทำให้กลายเป็นกลุ่มคริสตชนวัดฟาติมา ที่เข้มแข็ง จากปี 2002 - 2008 ซึ่งเป็นเวลาเข้า ปีที่ 6 แล้ว
จากสายตาและความสนใจของเพื่อนๆ พวกเขายังได้มีโอกาสสัมผัสถึงบรรยากาศความอบอุ่น จากการร่วมกลุ่ม แบ่งปันข่าวดีนี้ ที่หลายครั้งสังคมปิดโอกาสและถือว่าพวกเขาเป็นชนชั้นสอง จนหลายคนปิดตัวเองอยู่กับบ้าน ไม่มีเพื่อน มาร่วมพิธีมิสซาอย่างไม่เข้าใจ จนกลายเป็นคามน้อยเนื้อต่ำใจ และทำตนเพื่อประชดสังคม เหมือนในอดีตที่พวกเขาหลายคนทำมา นี่เป็นคำบอกเล่า จากพี่น้องหูหนวกท่านหนึ่งในการร่วมบทเทศน์ในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
คุณสินชาย คนหูหนวก ที่มีความสนใจ อยากจะเป็นคริสตชน แบ่งปันประสบการณ์การบอกเล่าข่าวดีที่เขาได้รับว่า ในชีวิตของเขาเป็นเด็กกำพร้า เขามีความปรารถนาหลายสิ่งหลายอย่างในขีวิต แต่ด้วยการเป็นคนหูหนวก ทำให้ถูกสังคมปิดกั้น และขาดโอกาสไป จนทำให้เขาคิดประชดชีวิต มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาทำตัวเสเพล และตกอยู่ในอันตราย ที่ก่อให้เกิดการทำบาป เขาดื่มเหล้า และเที่ยวเตร่
การประชดชีวิต ทำให้เขารู้สึกว่า ปีศาจตัวนี้ทำให้ชีวิตของเขาต้องตกต่ำ จนวันหนึ่งเขาได้รับข่าวดี บอกว่า มีคนแปลภาษามือในมิสซา ที่วัดฟาติมาดินแดง เขาไม่เชื่อในสิ่งที่มีคนมาบอก เขาจึงเดินทางมาร่วมมิสซาด้วยตนเอง และมาพร้อมกับภรรยาของเขา ในครั้งแรก เขาก็ฟังอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ต่อมา เขาก็มาร่วมอีก จาก 1 เป็น 2 และ มาเรื่อย ๆ เขาเริ่มรู้ว่า
พระเจ้าทรงรักเขา และพระองค์มีวิธีการมากมายที่จะสอนเขาใ้ห้ใช้ชีวิตอย่างไรให้ถูกต้อง เขาเริ่มเรียนรู้แล้วว่า พระเจ้าทรงรักเขา และ ทำงานอยู่ในตัวเขา ปัจจุบันนี้ ปีศาจจะไม่สามารถชนะเขาได้เลย เพราะพระเจ้าอยู่กับเขา เขาบอกข่าวดีกับพวกเรา ปิดท้ายด้วยว่า ผมจะได้รับศีลล้างบาปใน คืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ในปีนี้ ขอพี่น้องสวดภาวนาให้ผมด้วย
คุณเกยูน สัตบุรุษวัดนักบุญเปโตร สามพราน เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ตลอดชีวิตปิดตัวเองอยู่กับเพียงครอบครัว และ กลัวการไปอยู่ร่วมกับสังคมเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ เขาเป็นคนหนึ่งที่ได้รับข่าวดีผ่านทางพี่น้องคริสตชนให้มาร่วมงานชุมนุมในวันนี้
วันแรกที่เขามา เขานั่งเงียบ ไม่ทำภาษามือกับใคร เพราะว่า เขาไม่ได้เรียนภาษามือ จึงไม่สามารถสื่อสารภาษามือกับเพื่อน ๆที่มาได้ ใช้เพียงภาษามือที่ เข้าใจอย่างง่าย ๆ
ใบหน้าที่ปราศจากรอยยิ้มในวันแรก กลับกลายเป็นรอยยิ้มที่สดใส เมื่อวันต่อๆ มา เพื่อนๆ คนหูหนวก เข้ามาพูดคุย สอนเขาให้ใช้ภาษามือ และ พูดคุยอย่างคนหัวใจเดียวกัน เข้าอกเข้าใจ วันนี้ เขามีรอยยิ้่มที่สดใส และหัวใจที่เป็นสุข สีหน้าและแววตา เหมือนมีความหวังและพลังในชีวิต เหมือนได้รับพลังจากการบอกเล่าข่าวดี ดังที่พระเยซูเจ้า เคยตรัสไว้ในพระวรสารที่ว่า คนสบายดีไม่ต้องการหมอ และคนเจ็บป่วยที่ต้องการ หลังจากนี้ได้ถ่ายภาพ และรับประทานอาหารร่วมกัน
การร่วมฟื้นฟูครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกว่า 60 ท่าน จากสังฆมณฑลต่าง ๆ อาทิ สังฆมณฑลกรุงเทพฯ สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งนี้จัดขึ้น เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างดี และคาดว่าจะมีการฟื้นฟูจิตใจ เป็นประจำทุกปี หรือหากใครมีเวลา ก็ไปร่วมิสซา กับกลุ่มคริสตชนที่วัดฟาติมา ดินแดง หรือ บางครั้งจะมาร่วมพิธีมิสซาที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ ในวันอาทิตย์ต้นเดือน ใครว่างก็ขอเชิญนะครับ |