หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

กลุ่มคนหูหนวกคาทอลิกประเทศไทยเข้าพบพระคาร์ดินัลประมวลภาพกิจกรรม

จากวันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2008 ที่ผ่านมา คุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ และคุณพ่อวิทยา แก้วแหวน ได้นำกลุ่มคนหูหนวกคาทอลิกประเทศ ไทย และ Mr.Patrick ประธานกลุ่มคนหูหนวกจากประเทศสิงคโปร์   เข้าพบพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู การพบปะดังกล่าว มีจุดประสงค์ เพื่อพูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งชมรมคนหูหนวกคาทอลิกประเทศไทย ที่ได้มีกลุ่ม และกิจกรรมที่ได้ดำเนินการมาถึง 6 ปีแล้ว”   และได้พูดถึงงาน“บอกเล่าข่าวดีให้ เพื่อนฟัง”

ในวันที่ 29 - 2 มีนาคม ค.ศ. 2008  กลุ่มคนหูหนวกคาทอลิกประเทศไทยร่วมกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อการธรรมทูต รวมกลุ่ม ร่วมฟื้นฟูจิตใจประจำปี 2008 ในหัวข้อ  “บอกเล่าข่าวดีให้เพื่อนฟัง” มีคริสตชน และไม่ใช่คริสตชน ให้ความสนใจเข้าร่วม ทั้งคนหูหนวก และ ผู้สนใจทั่วไป  ที่มีหัวใจอยากช่วยงานแพร่ธรรมกับคนหูหนวก อาสาสมัคร  เข้าเงียบ และฟังแนวทางของงานอภิบาล  แบ่งปัน “บอกเล่าข่าวดีของพระเยซูเจ้า ให้เพื่อน ๆ ได้ฟัง ร่วมสัมผัสกับความรักของพระเจ้า นำประสบการณ์ข่าวดีในความรักของพระเจ้า ผ่านทางภาษามือ ของแต่ละบุคคล”

ในงานฟื้นฟูจิตใจ “พี่น้องคนหูหนวก”  นำโดย  คุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อธรรมทูต  คุณพ่อวิทยา แก้วแหวน  ผู้จัดการแผนกฝ่ายงานอภิบาลและธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ  ร่วมกับประธานกลุ่มคนหูหนวกจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีคุณณรงค์ ถนอมเล็ก ผู้ประสานงาน และล่ามภาษามือ  ที่ทุกคนยกนิ้วให้กับเขา  เขาเหมือนวีรบุรุษในหัวใจของคนหูหนวก ที่ทำให้พวกเขาได้พบกับพระเจ้า และ มีศักดิ์ศรีเท่าเทียม กับทุกคน ในการเป็นบุตรของพระเจ้าอย่างแท้จริง

ฟัง ( ดู ) การบรรยาย อย่างตั้งใจ

เดินรูป 14 ภาค ร่วมกัน

แสวงบุญร่วมกันที่สักการสถานบุญราศี คพ.นิโคลาสบุญเกิด กฤษบำรุง

ในกิจกรรมตลอด 3 วัน  ที่ผ่านมา คนหูหนวกใช้เวลา เพื่อในฟื้นฟูจิตใจตนเอง  “เข้าเงียบ” หลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่า “คนหูหนวก ชีวิตทั้งชีวิตก็เงียบอยู่แล้ว แต่ทำไม ต้องมาเข้าเงียบอีก” คำตอบก็คือ “พวกเขาต้องการ ฟื้นฟูด้านจิตใจ เพื่อให้จิตใจได้สงบเงียบ เหมือนร่างกาย และค้นพบพระเจ้า ในชีวิต ”

การฟื้นฟูจิตใจครั้งนี้ มีจุดประสงค์ เพื่อ แบ่งปัน บอกเล่าประสบการณ์ข่าวดีของพระเยซูเจ้าในตัวพวกเขา และนำข่าวดีนี้ มาเล่าให้กับพี่น้องคนหูหนวก ผ่านภาษามือที่สวยงามของพวกเขา กับเพื่อน ๆ ของเขาได้รับรู้ และสรรเสริญพระเจ้าไปพร้อมกับเขา

พวกเขาได้มีโอกาส ไปแสวงบุญที่สักการสถานบุญราศี คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง  เดินรูป 14 ภาคในเทศกาลมหาพรต  ได้แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตเป็นกลุ่มๆ  

ในวันชุมนุมวันสุดท้าย มีการแบ่งปันจากผู้เข้าร่วมอีกหลายท่าน และหนึ่งในนี้คือ
Mr.Patrick ประธานกลุ่มคนหูหนวกจากประเทศสิงค์โปร์ ได้เล่าให้ฟังว่า  เมื่อก่อนนี้เขาก็เป็นคนปกติ ฟังได้อย่างปกติ แต่ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ไม่ได้ยิน แต่เขาก็ขอบคุณพระเจ้า เพราะไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิต เขาก็คิดเสมอว่า “พระเจ้ามีแผนการในชีวิตของเขา”  เขาแบ่งปันว่า “ในประเทศของเขา ก็มีการรวมกลุ่มคนหูหนวกเช่นเดียวกัน พวกเขามีพระสงฆ์ที่หูหนวกด้วยเช่นกัน และ มีการอภิบาลคนหูหนวก พวกเขามีกิจกรรมร่วมกันในพิธีมิสซาบูชา พวกเขาขอบคุณพระเจ้า เขามีโอกาสรู้จักกับฮูโก้ ณรงค์ เขารู้สึกประทับใจที่เห็นว่า ณรงค์ ทำงานอย่างจริงจังกับคนหูหนวก และรู้ว่าณรงค์ ได้เรียนที่บ้านเณรใหญ่แสงธรรม เพื่อให้เข้าใจเรื่องพระวาจาของพระเจ้า ใ่ช่แล้วเขาต้อง เรียนและศึกษาอย่างถูกต้องเพื่อใช้ในงานแพร่ธรรมอย่างถูกต้อง” เขาเชิญชวนให้พี่น้องหูหนวกยืนขึ้น และปรบมือ ( ยกมือขึ้น เหนือศีรษะ และสั่นมือ )  เป็นกำลังใจกับณรงค์  ขอบคุณที่่ ณรงค์ ใส่ใจในคนหูหนวก

และมีอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจ นำเอาพระวาจาของพระเจ้ามาประยุกต์ให้เห็นว่า “พระเจ้าทรงรักเราทุกคน รักแม้แต่เราทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า” เป็นการแสดงบทบาทสมมุติ ในนิทานเปรียบเทียบ เรื่อง “ลูกล้างผลาญ” ซึ่งแสดงโดยคนหูหนวก ต้องขอชมว่า พวกเขาแสดงได้ดีมากๆ และน่าประทับใจ พวกเขาสื่อให้คนหูหนวกได้ เข้าใจถึงพระวาจา ข่าวดีที่พระเป็นเจ้า ทรงรักพวกเขามาก ๆเช่นเดียวกัน


วันนี้ ณรงค์ ได้ยินเสียงของณรงค์ กล่าวถึงคนหูหนวกอีกครั้งว่า “ พวกเขาไม่ได้ต้องการความเห็นใจ หรือ เป็นบุคคลน่าสงสารครับ พวกเขาไม่ต้องการเป็นภาระกับสังคม  แต่พวกเขา อยากมีชีวิตเหมือนคนทั่วไปในสังคมครับ” และณรงค์ยังเปิดใจอีกด้วยว่า  สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมอยากทำงานกับพวกเขา อีกอย่างก็คือ “ผมอยากให้เขามีศักดิ์ศรีเท่า่เทียม เหมือนคนทั่วไปครับ ”

ทำกิจกรรม แบ่งปันประสบการณ์

บรรยากาศการเข้าฟื้นฟุจิตใจ

อ.วิริยะ แบ่งปันประสบการณ์ การสู้ชีวิต เป็นคนหนึ่งที่เขียนหนังสือให้กำลังใจ ในการดำเนินชีวิตต่อไป

การมาบอกเล่าข่าวดีในวันนี้ปิดท้ายด้วยพิธีมิสซาขอบพระคุณ    โดย คุณพ่อวัชศิลป์ และคุณพ่อวิทยา  ได้ให้พวกเขาบอกเล่าถึงข่าวดี ว่า ใครบอกเล่าเรื่องพระเยซูเจ้า กับใคร จนทำให้กลายเป็นกลุ่มคริสตชนวัดฟาติมา ที่เข้มแข็ง จากปี 2002 - 2008 ซึ่งเป็นเวลาเข้า ปีที่ 6 แล้ว จากสายตาและความสนใจของเพื่อนๆ  พวกเขายังได้มีโอกาสสัมผัสถึงบรรยากาศความอบอุ่น จากการร่วมกลุ่ม แบ่งปันข่าวดีนี้ ที่หลายครั้งสังคมปิดโอกาสและถือว่าพวกเขาเป็นชนชั้นสอง จนหลายคนปิดตัวเองอยู่กับบ้าน ไม่มีเพื่อน มาร่วมพิธีมิสซาอย่างไม่เข้าใจ จนกลายเป็นคามน้อยเนื้อต่ำใจ และทำตนเพื่อประชดสังคม เหมือนในอดีตที่พวกเขาหลายคนทำมา นี่เป็นคำบอกเล่า จากพี่น้องหูหนวกท่านหนึ่งในการร่วมบทเทศน์ในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ 

คุณสินชาย  คนหูหนวก ที่มีความสนใจ อยากจะเป็นคริสตชน  แบ่งปันประสบการณ์การบอกเล่าข่าวดีที่เขาได้รับว่า “ในชีวิตของเขาเป็นเด็กกำพร้า เขามีความปรารถนาหลายสิ่งหลายอย่างในขีวิต แต่ด้วยการเป็นคนหูหนวก ทำให้ถูกสังคมปิดกั้น และขาดโอกาสไป  จนทำให้เขาคิดประชดชีวิต มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาทำตัวเสเพล และตกอยู่ในอันตราย ที่ก่อให้เกิดการทำบาป เขาดื่มเหล้า และเที่ยวเตร่ การประชดชีวิต ทำให้เขารู้สึกว่า ปีศาจตัวนี้ทำให้ชีวิตของเขาต้องตกต่ำ

จนวันหนึ่งเขาได้รับข่าวดี บอกว่า มีคนแปลภาษามือในมิสซา ที่วัดฟาติมาดินแดง เขาไม่เชื่อในสิ่งที่มีคนมาบอก เขาจึงเดินทางมาร่วมมิสซาด้วยตนเอง และมาพร้อมกับภรรยาของเขา ในครั้งแรก เขาก็ฟังอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ต่อมา เขาก็มาร่วมอีก จาก 1 เป็น 2 และ มาเรื่อย ๆ เขาเริ่มรู้ว่า “พระเจ้าทรงรักเขา และพระองค์มีวิธีการมากมายที่จะสอนเขาใ้ห้ใช้ชีวิตอย่างไรให้ถูกต้อง”  เขาเริ่มเรียนรู้แล้วว่า พระเจ้าทรงรักเขา และ ทำงานอยู่ในตัวเขา ปัจจุบันนี้  ปีศาจจะไม่สามารถชนะเขาได้เลย เพราะพระเจ้าอยู่กับเขา เขาบอกข่าวดีกับพวกเรา ปิดท้ายด้วยว่า “ผมจะได้รับศีลล้างบาปใน คืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ในปีนี้ ขอพี่น้องสวดภาวนาให้ผมด้วย”

คุณเกยูน สัตบุรุษวัดนักบุญเปโตร สามพราน เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ตลอดชีวิตปิดตัวเองอยู่กับเพียงครอบครัว และ กลัวการไปอยู่ร่วมกับสังคมเป็นอย่างยิ่ง  วันนี้ เขาเป็นคนหนึ่งที่ได้รับข่าวดีผ่านทางพี่น้องคริสตชนให้มาร่วมงานชุมนุมในวันนี้

วันแรกที่เขามา เขานั่งเงียบ ไม่ทำภาษามือกับใคร เพราะว่า เขาไม่ได้เรียนภาษามือ จึงไม่สามารถสื่อสารภาษามือกับเพื่อน ๆที่มาได้ ใช้เพียงภาษามือที่ เข้าใจอย่างง่าย  ๆ ใบหน้าที่ปราศจากรอยยิ้มในวันแรก กลับกลายเป็นรอยยิ้มที่สดใส เมื่อวันต่อๆ มา เพื่อนๆ คนหูหนวก เข้ามาพูดคุย สอนเขาให้ใช้ภาษามือ และ พูดคุยอย่างคนหัวใจเดียวกัน เข้าอกเข้าใจ   วันนี้ เขามีรอยยิ้่มที่สดใส และหัวใจที่เป็นสุข  สีหน้าและแววตา เหมือนมีความหวังและพลังในชีวิต   เหมือนได้รับพลังจากการบอกเล่าข่าวดี ดังที่พระเยซูเจ้า เคยตรัสไว้ในพระวรสารที่ว่า “คนสบายดีไม่ต้องการหมอ และคนเจ็บป่วยที่ต้องการ”

หลังจากนี้ได้ถ่ายภาพ และรับประทานอาหารร่วมกัน

การร่วมฟื้นฟูครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกว่า 60 ท่าน จากสังฆมณฑลต่าง ๆ อาทิ สังฆมณฑลกรุงเทพฯ  สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งนี้จัดขึ้น เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างดี และคาดว่าจะมีการฟื้นฟูจิตใจ เป็นประจำทุกปี หรือหากใครมีเวลา ก็ไปร่วมิสซา กับกลุ่มคริสตชนที่วัดฟาติมา ดินแดง หรือ บางครั้งจะมาร่วมพิธีมิสซาที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ ในวันอาทิตย์ต้นเดือน ใครว่างก็ขอเชิญนะครับ

ถ่ายรูปร่วมกัน ทำมือ “ฉันรักคุณ พระเจ้ารักคุณ”

นำกิจกรรมด้วยเพลง “ความรักของพระเจ้าเป็นรักที่อบอุ่น”

แสดงบทบาทสมมุิติ   “ เรื่องลูกล้างผลาญ”