หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ประมวลภาพฉลองวัดซางตาครู้ส

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2007  เวลา 10.00 น. พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธานในพิธีบูชามิสซาขอบพระคุณโอกาสฉลองวัดปีที่ 238 ร่วมกับคุณพ่อสนัด วิจิตรวงศ์  คุณพ่อเชาวลิต กิจเจริญ สัตบุรุษอีกกว่า 500 คน

บรรยากาศปีนี้ครึ้มฟ้า ครึ้มฝน ตั้งแต่เช้า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาำีำพรำ ๆ ตั้งแต่เวลา 10.00 น.  ส่งผลให้บริเวณด้านนอกที่กางเต้นส์ มีฝนสาด   แต่สัตบุรุษก็ยังคงปักหลักตั้งใจร่วมมิสซาเช่นเดิม

แม้ว่า้ปีนี้จะมีฝนตกลงมา แต่ไม่ได้ทำให้สัตบุรุษที่มานั้น ลดน้อยไปกว่าทุกปี มองในแง่กลับกัน ปีนี้ยังได้ร่วมมิสซา อย่างเย็นอก เย็นใจ เย็นกายสบายใจ ด้วยสายลม ที่นำเอาความชุ่มฉ่ำมาสู่เราคริสตชนทุกคนในวันนี้

และเมื่อปริมาณน้ำฝนเริ่มหนักขึ้น ทางวัดจึงของดการแห่พระธาตุ ไม้กางเขน แต่ยังความความศรัทธา ด้วยการอ่านบทสวด “โอ้ซางตาครู้ส” เป็นทำนองเสนาะที่ฟังดูแล้วได้บรรยากาศในแบบฉบับของชาวบ้านในยุคสมัยก่อน ถือเป็นเอกลักษณ์ประจำวัดแห่งนี้ก็ว่าได้ และจะลืมไม่ได้เลย ที่จะขอชมนักขับร้องลูกวัดซางตาครู้สแห่งนี้ ที่พร้อมใจส่งเสียง ได้อย่างสดใส ร้องเพลงได้อย่างมีอรรถรส พาให้คนอยู่ใกล้ ๆ อยากจะร้องตามไปด้วย ต้องขอชมจากใจจริงว่า “ร้องเพราะมากครับ”

ในบทเทศน์วันนี้ มีข้อคิดเกี่ยวกับ “ข้อความจริงที่มีคุณค่ากับชีวิตเรา เพื่อนแท้ของพระเยซูเจ้า”
เราที่ได้เรียนรู้ ไม้กางเขนของพระเยซู  ความหมายของกางเขน ซึ่งเราต้องนำไปปฏิบัติ เพื่อให้เราประสบผลสำเร็จ  และผลสำเร็จของชีวิตคือความรอดที่แท้จริง เป็นความรอดนิรันดร เป็นจุดประสงค์ และความหมายของการฉลองในวันนี้ จะเกิดประโยชน์ที่แท้จริงเมื่อเรารู้จักกางเขนที่เราต้องแบกเดินตามอาจารย์ของเรา

ใครก็ตาามที่อยากเป็นศิษย์ของพระองค์ ก็ต้องแบกกางเขน ติดตามพระองค์ เราเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรโดยทางศีลล้างบาป ที่สำคัญที่พระองค์กล่าวว่า “ศิษย์ต้องไม่ดีกว่าอาจารย์” การน้อมรับการแบกกางเขน การถูกตรึงกางเขน นำมาซึ่งความตาย และชนะความตาย ฉันใด ใครที่อยากเป็นเพื่อนแท้ของพระเยซูเจ้า “ต้องน้อมรับการแบกกางเขน” และจะประสบความสำเร็จ วันนี้เราต้องมาทบทวนดูว่า เราได้เป็นศิษย์ติดตามองค์พระเยซูเจ้า ได้แบกกางเขนในชีวิตมากน้อยแค่ไหน

พระคุณเจ้าให้ โอวาทโอกาสฉลองวัดประจำปี
จากการร่วมฉลองไม้กางเขน ของพระเยซู ที่เราแสดงออกด้วยความเชื่อ ความรักและความเมตตาของพระเป็นเจ้าที่มีต่อเรา  เป็นบรรยากาศที่เราพี่น้องมีร่วมกัน   อย่างแรกให้เราขอบพระคุณพระเจ้า ที่ได้โปรดประทานความเชื่อ ตามสุนทรพจน์ที่กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 238 ที่บรรพบุรุษของเรา และพี่น้องสัตบุรุษได้มีโอกาสสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตามความเชื่อให้เราได้ชื่อว่าเป็นคริสตชน

มีคำพูดในสุนทรพจน์ ว่า “เราจะพยายามโดยเฉพาะบรรดาพี่น้องวัดซางตาครู้ส จะรักษาไว้ ซึ่งขนบธรรมเนียม ประเพณี อันดีงาม จะพัฒนา ทำให้ก้าวหน้า และทำให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้น นี่คือ แนวทางที่พี่น้องได้วางไว้ พร้อมกับรรดาคุณพ่อที่มาดูแลพี่น้อง

ในสุนทรพจน์ ยังได้กล่าวว่า พร้อมร่วมมือ ร่วมใจ ได้เห็นความก้าวหน้า และพัฒนาขึ้นตามลำดับ วันนี้พี่น้อง นักขับร้อง พยายามฝึกฝน จากลูกวัดที่ได้ขับร้อง ได้อย่างดี และมีบางบทเพลง ที่คุณพ่อเจ้าอาวาสได้แต่งขึ้น

ปีนี้ ได้รับของขวัญคือหนังสือ “ใต้ร่มซางตาครู้ส” ที่เห็นและเป็นอยู่ ปีนี้ฝนจึงตก พี่น้องอาจจะรู้สึกเ สียดาย ที่ทุกปี เราจะได้อัญเชิญ ไม้กางเขน ไปรอบ ๆ วัดเพื่อให้พระองค์ทรงคุ้มครองหมู่บ้านของเรา  แต่ไม่เป็นไร แต่เราจะพร้อมใจกันมานมัสการกางเขน แต่ความหมายที่ปรากฏ “ใต้ร่มซางตาครู้ส” นี้มีความหมาย และให้พี่น้องจงมั่นใจในพระเป็นเจ้า ใต้ร่วมแห่งพระพรของไม้กางเขน เพราะฉะนั้น เป็นความหมายที่มั่นใจ และอบอุ่นใจที่พี่น้องซางตาครู้สจะมีอยู่ตลอดไป เมื่อได้อ่านแล้ว ได้เห็นภาพหนึ่ง ของวัดของเรา เห็นภาพของพี่น้องจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และสิ่งที่เป็นอยู่นี้ จะดำรงต่อไป จากข้อคิดและข้อเขียนเล่มนี้  ทำให้ได้รู้จักวัดซางตาครู้ส มากขึ้น

เมื่อวัดของเราอยู่ภายใต้ร่มแห่งไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า มีอะไรที่จะต้องเกิดขึ้น   แน่ นอน ในฝ่ายวิญญาณ และจิตใจ จะต้องเข้มแข็ง กล้าหาญ   และเป็นประจักษ์พยานความ
เชื่อ และพระวาจาของพระเจ้ายิ่ง ๆ ขึ้น เมื่อเรามีร่มที่กางอยู่ ร่มมีไว้เพื่อกันแดด กันฝน ผู้ที่เมื่อแดดออก และฝนตก ไม่ได้อยู่ในร่มนี้ ก็จะถูกแดดที่ร้อน เมื่อถูกฝนจะก็เปียก เมื่อมีร่มนี้ เป็นต้นพี่น้องสัตบุรุษวัดซางตาครู้ส “ไม่พยายามที่จะอยู่ในร่มแห่งกางเขนนี้ แน่หล่ะ ท่านจะร้อน ไม่ใช่ฝ่ายร่างกาย แต่ที่สำคัญท่านจะร้อนระอุฝ่ายจิตใจ ถ้าฝนตกท่านไม่ได้เปียกเฉพาะร่างกาย เสื้อผ้าเท่านั้น ชีวิตของท่านจะเปียก ต้องเปราะ ต้องสกปรก”

จึงขอรวมว่า “พี่น้องจะพยายามเป็นหนึ่งเดียวกัน ดำเนินวิถีชีวิตเดียวกันภายใต้ร่มกางเขนนี้”อันว่าความเปลี่ยนแปลที่เกิดขึ้นกว่า 200 ปีมานี้ เป็นวัดที่รู้จักมา กขึ้น และพี่น้องก็ภูมิใจ เราก็ภูมิใจที่วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จัก นอกจากพี่น้องต้องรักษาวัดของตนให้ดี พี่น้องต้องช่วยกันให้หมู่บ้านนี้มีความระเบียบเรียบร้อย นับวั นจะดียิ่งขึ้น  ให้เป็นที่น่าประทับใจของผู้มาเยี่ยมเยือนในอนาคต แต่สำคัญกว่าอื่นใด พี่น้องต้องมีจิตใจที่ใสสะอาด มีจิตใจที่เสียสละ มีจิตใจที่เอื้ออาทร เมื่อเป็นเช่นนั้น ที่นี่จะมีความดี ความงามครบถ้วน”

โอกาสอันดีนี้  คุณพ่อเจ้าอาวาส ( คุณพ่อสุทศ ประมวลพร้อม ) ยังได้เขียนหนั งสือ “ใต้ร่มซางตาครู้ส” ซึ่งปีนี้ พระคาร์ดินัล ได้แนะนำให้อ่าน เป็นต้นสัตบุรุษของวัดซางตาครู้ส
จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ พระเยซูเจ้า ภายใต้ร่ มซางตาครู้ส ที่เราจะไม่ถูกแดด ให้ร้อน และ จะไม่แปดเปื้อน หรือเปียกปอนในชีวิต หากเราได้อยู่ใต้ร่มซางตาครู้ส แห่งนี้