หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

โดย:ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

วันเสาร์ที่  21  ตุลาคม  2006  ณ วัดแม่พระลูกประคำ  กาลหว่าร์     มีการร่วมใจกันของกลุ่มองค์กรฆราวาสแพร่ธรรมคณะต่างๆ  เพื่อสวดสายประคำโดยพร้อมเพรียงกัน โดยกลุ่มองค์กรต่างๆ  ประกอบด้วย  1.วินเซนต์  เดอ ปอล  2.พลมารี  3.คูร์ซิโล
4.เทเรเซียน  5.สภาอภิบาล

ในเวลา 09.00  น.  มีพิธีตั้งศีลมหาสนิทและสวดสายประคำของกลุ่มองค์กรฆราวาสแพร่ธรรมคณะต่างๆ ทุกชั่วโมง ซึ่งมีคริสตชนจากวัดต่างๆ   มาร่วมสวดสายประคำเป็นจำนวน 622 คน การมาร่วมชุมนุมเพื่อสวดสายประคำในครั้งนี้ 

นับว่าเป็นครั้งแรก สืบเนื่องจากเมื่อ  10  ปีที่แล้ว   ในโอกาสฉลองการบวชเป็นพระสงฆ์ครบ  50  ปี  ของพระสันตะปาปา ยอห์น  ปอล ที่  2   องค์กรหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นชื่อว่า “World –Wide  Rosary” โดยมีจุดประสงค์รณรงค์การสวดสายประคำให้แพร่หลายทั่วโลก และได้กำหนดให้วันเสาร์ที่  3 ของเดือนตุลาคมของทุกปี โดยมีจุดประสงค์ให้คริสตังค์ทั่วโลกมากเท่าที่สามารถ   รวมพลังสวดสายประคำอย่างต่อเนื่องตลอดวัน  ปีนี้นับเป็นปีที่ 10 แล้วของการจัดกิจกรรมนี้  และมีคริสตังค์กว่า  140 ประเทศเข้าร่วมในการรณรงค์

แต่เป็นปีแรกของคริสตังค์ไทยที่จัดการรณรงค์นี้ขึ้น    จึงเป็นที่มาของวัด  “ทั่วโลกพร้อมเพรียง  ไม่สิ้นเสียงสวดสายประคำ” ครั้งที่ 1

และในพิธีบูชามิสซาขอบพระคุณ  คุณพ่อ  ประวิทย์  พงษ์วิรัชไชย    ได้ให้ข้อคิดว่า  เราต้องมองความหมายและคุณค่า ลูกประคำที่เราใช้สวด ไม่ใช่เครื่องรางของขลัง แต่เป็นเครื่องมือเตือนใจให้เราได้รำพึงถึงพระ     สิ่งที่สำคัญในการสวดสายประคำ  คือการติดต่อกับพระ  การสวดภาวนาที่มีคุณค่า    มีเนื้อหาอยู่บนพื้นฐานพระคัมภีร์  ขณะที่เราสวดซ้ำ เราเอาประวัติความรอดมาทบทวน และเราสามารถสวดสายประคำได้ทุกเวลา  ขณะทีโลกกำลังวุ่นวาย  เรากำลังขาดน้ำเช่นกัน  ขาดน้ำใจ  ความเมตตา ความสามัคคี  ให้เราขอแม่พระเพื่อจะคนเติมน้ำ  ใจเหล่านี้ให้กับเรา และขณะที่เรารณรงค์เรื่องการแพร่ธรรมของแม่พระอยู่กับเรา เมื่อเราสวดสายประคำให้ระลึกถึงบรรดาธรรมทูตและผู้แพร่ธรรม

คุณวัชราพร สัญญวีร์ จากคณะพลมารีนักบุญยวง  บัปติสตา  เจ้าเจ็ด
ในวันนี้ที่วัดมีสมาชิกในกลุ่มองค์กรต่างๆ มาร่วมงานประมาณ  8-9 คน     รู้สึกดีใจเพราะไม่เคยจัดขึ้นในเมืองไทย

และคิดว่าการสวดสายประคำเป็นการเสริมกำลังใจให้กับบุคคลรอบข้าง   และให้มีจิตใจที่รักแม่พระมากขึ้น
และหลังพิธีมิสซามีการแห่พระรูปแม่พระรอบวัดจบลงด้วยการถวายช่อดอกไม้   ซึ่งอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง

<<<<คุณอนุวัฒน์  และคุณปนัดดา  โรจนะมารีวงศ์ อดีตสภาอภิบาลของวัด แม่พระลูกประคำ กาลหว่าร์ ได้กล่าวถึงงานในวันนี้ว่า   มีความรู้สึกดีใจ  และตั้งใจที่จะมาสวดสายประคำอย่างเต็มที่   เพราะการสวดสายประคำเป็นการสวดตามพระประสงค์ของแม่พระ ช่วยให้โลกมีสันติสุข เป็นการช่วยเหลือผู้มีจิตใจห่างเหินจากพระเป็นเจ้าให้กลับใจ  การที่เรามาสวด  มาขอพรพระ พระก็จะประทานให้ในสิ่งที่เราวอนขอ