หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

นักร้องนักแสดงพบปะพูดคุยกับพระคาร์ดินัล

โดย...ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2006 เวลา 11.00น.พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู พบปะพูดคุยกับบรรดานักน้องนักแสดงที่นับถือศาสนาคาทอลิก โดยมีคุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ เป็นผู้ติดต่อประสานงาน ในครั้งนี้ มีนักร้องนักแสดงและผู้อยู่ในวงการมาร่วมพบปะครั้งนี้ 17 คน พระคาร์ดินัลพูดคุยกับบรรดานักร้องและนักแสดงอย่างเป็นกันเอง บรรยากาศภายในงานเต็มได้ด้วยความปีติยินดี     และคุณพ่อวัชศิลป์เชิญชวนให้มาร่วมงานวันที่  11-12 สิงหาคม     ไฮไลท์ของงานนี้คือบวชสังฆานุกร     ก็อยากจะเชิญชวนมาร่วมในภาคบ่าย สามารถติดตามข่าวสารได้ จะนำเสนอในโอกาสต่อไป และก่อนจะจบการพบปะพูดคุยกัน พระคาร์ดินัล ได้มอบ ธนบัตร ของพระเจ้าอยู่หัวโอกาสครอบรอบ 60 ปี       และสายประคำที่ระลึกให้กับบรรดานักร้องนักแสดงที่มาร่วมงานครั้งนี้ ด้วย จากนั้นมีการมอบเสื้อ ของการประชุมAMC เป็นที่ระลึกพร้อมถ่ายภาพร่วมกัน     และรับประทานอาหารร่วมกับพระคุณเจ้าในโอกาสนี้ด้วย

เนื่องจากปีนี้เป็นปีแพร่ธรรมจึงได้ถือโอกาสนี้เชิญนักร้องนักแสดงมาร่วมรับประทานอาหารกับพระคาร์ดินัล   และพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้เพื่อเป็นการแพร่ธรรมที่น่าสนใจอีกทางหนึ่ง

คุณพ่อวัชศิลป์ กล่าวเกี่ยวกับการเชิญนักร้องนักแสดงมาพบปะครั้งนี้ว่า  เราคาทอลิกถือว่าเราเป็นพี่น้องกัน      เป็นครอบครัวเดียวกัน และสมาชิกในครอบครัวทำอาชีพต่างๆกันไป    ไม่ว่าจะเป็นครู เป็นข้าราชการ และก็มีสมาชิกในครอบครัวมีอาชีพเป็นนักแสดง ดังนั้นเมื่อเขามีหน้าที่การงานที่ดีอย่างนี้ ก็อยากจะเชิญชวนเขามาพบปะพูดคุยกัน เราที่มีหน้าที่อย่างนี้      เราจะทำหน้าที่เผยแผ่ความรักของพระเป็นเจ้าผ่านทางอาชีพการงานของเราอย่างไร     โดยครั้งแรกก็ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดี และในครั้งแรกนี้ก็ เชิญมารับประทานอาหารก่อน   และหลังจากนั้นก็จะมีการติดต่อกันประสานงานกันเรื่อย ๆ ต่อไป ในโอกาสปีแพร่ธรรม และคุณพ่อก็อยากที่จะให้บรรดานักร้องนักแสดงนี้เป็นตัวอย่างที่ดีกับบรรดาเด็กๆ และเยาวชน

พระคาร์ดินัล พูดคุยกับบรรดานักร้อง และนักแสดงอย่างเป็นกันเอง
         วันนี้เป็นความยินดีพิเศษที่ฝนตก และพวกเราที่อยู่ในอาชีพนักแสดง เป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งวันนี้มารวมกันก็เพื่อรู้จัก ในฐานะที่เป็นสังฆราชดูแลคริสตชน มีหน้าที่ ที่จะรู้จักกับทุกคนเท่าที่จะทำได้เพราะพระเยซูคริสตเจ้าบอกเราว่าเราทุกคนเปรียบ เสมือนเป็นลูกแกะของพระเจ้า และลูกแกะนี้อยู่ในที่ต่างๆ และเป็นหน้าที่พระองค์ที่จะให้พระศาสนจักรได้รู้จักแกะของตน    วันนี้มีโอกาสได้พบปะกับส่วนหนึ่งของนักแสดง ภายใต้การนำของสมเด็จพระสันตะปาปาและให้ข้อคิดที่ฝากไว้เป็นการบ้าน คือ
1.ในฐานะที่เป็นคริสตชนเหมือนกัน  ก็ให้ทำหน้าที่คริสตชนอย่างดี
2.ในฐานะเป็นคริสตชนโดยศีลล้างบาป เมื่อได้รับกระแสเรียกแล้วพึงมีหน้าที่ดำรงชีวิตเยี่ยงตริสตชน จงขอบคุณพระ และเราต้องขอบคุณพระเกียรติมงคลของพระด้วยในชีวิตที่เราเป็นบุคคลสาธารณะ เรามีโอกาสมาที่เราจะได้แสดงถึงความรัก ความเมตตาที่พระมอบให้กับเรา พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ชื่นชมนักแสดงมาก และทรงแต่งละคร และแสดง และเป็นนักร้อง ซึ่งสมัยนั้นดังมากๆหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำ ทำเพื่อพระเกียรติมงคลของพระเป็นเจ้า
3.ปีนี้เป็นปีแห่งการแพร่ธรรม โดยวิถีทาง ทุกคนมีส่วนร่วมในวิถีชีวิต เล่าเรื่องพระเยซูเจ้าตามโอกาสที่เรามี เราต้องเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ จะดูว่าเราจะทำอย่างไรได้บ้าง
4.และสิ่งที่จะฝากไว้ในวิถีชีวิตของเรา ที่เราเป็นนักแสดงให้เราช่วยกันทุกวิถีทางให้พวกเขารู้จักพระเยซูเจ้า
5.รักแท้ตั้งอยู่บนความเมตตา  ความเมตตามีความหมายว่า ปรารถนาอยากให้เขาได้มีความสุข ส่วนความกรุณา หมายถึงการช่วยเหลือการมีน้ำใจให้เขาพ้นทุกข์ เช่น ผู้ช่วยผู้ประสบภัยซึนามิ เรามีความสงสาร กรุณา

แพทริค ผมคิดว่าปีแพร่ธรรมคือ ปีที่เรามาแพร่ธรรมให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นคริสตชน และแพร่คำสอนของพระเยซู
การแสดงตนเป็นคาทอลิกของผมก็คือ การสวดก่อนอาหารหลังอาหาร และมีเรียนคำสอนด้วย และก็มีช่วยมิสซาที่วัดเซนต์หลุยส์ สาทร  และบางทีมีเพื่อนถามว่ามีหนังสือเกี่ยวกับคาทอลิกไหม เขาอยากดู ผมก็เรียนคำสอนอยู่แล้วก็จะเอามาให้เขาดู ตอนนี้ผมก็สวดภาวนาก่อนนอนให้กับ พ่อ แม่ และคนอื่นด้วย และผมก็มาวันอาทิตย์ถ้าไม่มีเวลาก็มาวันเสาร์แทน และปีนี้ผมตั้งใจอยากจะรับศีลมหาสนิทให้ได้ เพราะว่าคราวก่อนติดงาน ครั้งนี้ก็อยากจะรับให้ได้

คุณจอห์น รัตนเวโรจน์ ตัวผมเองและครอบครัว รับใช้พระศาสนจักรมาตั้งแต่ก่อนที่ผมเป็นนักร้อง และการมาพูดคุยวันนี้ผมถือว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมาก และผมก็อยากจะนำคุณประโยชน์จากพระเจ้าที่ผมได้รับคือน้ำเสียงนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับพระศาสนจักร เรามีพระเยซูเจ้าอยู่ในตัวของเรา เราเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณลูก และสิ่งนี้ก็จะสะท้อนออกมา และคนที่อยู่รอบข้างจะเห็นความรักของพระเยซูเจ้าในตัวผม ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดที่มนุษย์เราทำด้วยตัวเองได้ การที่มีพระเยซูเจ้าอยู่ในตัวเราสามารถทำได้ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นมนุษย์ธรรมดาๆคนหนึ่ง และคุณจอห์นฝากให้กับคริสตชนทุกคน คนเราไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็แล้วแต่ เรื่องของการเผยแพร่ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำอะไรใหญ่โต ไม่ใช่แค่ไปโบสถ์ ไม่ใช่แค่การร้องเพลงร่วมกัน ไม่ใช่แค่การเข้าเงียบ หรืออะไรก็แล้วแต่ มันยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น คือเป็นการเดินตามพระเยซู พยายามอยู่ในสิ่งที่เราเรียนรู้มา ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็แล้วแต่ให้นึกเสมอว่ามารนั้นอยู่รอบตัวเรา สิ่งที่เราทำ เราทำผิดตลอดเวลา พระเยซูเจ้าก็พร้อมที่จะอภัยให้เราในส่วนที่เป็นบาป เพราะฉะนั้น การกลับตัวกลับใจก็เป็นสิ่งที่ดี เรามีความประสงค์ที่จะรับใช้พระเจ้า เราต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน เราเป็นแค่อีกเส้นทางหนึ่งที่พระเยซูเจ้าจะผ่านเราไปจุดอื่น และเพราะสุดท้ายแล้วชีวิตนิรันดรไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่อยู่ที่ โลกหน้า

คุณเกียรติ กิจเจริญ  (ซูโม่กิ๊ก) ในฐานะที่เป็นนักแสดงคาทอลิก มีส่วนร่วมอย่างไรในการแพร่ธรรม สิ่งที่ทำได้คือ เรื่องของความรัก การมีน้ำใจไมตรีต่อกัน มีความยินดีที่งานของเรา อาชีพของเราอย่างน้อยก็สามารถชักจูงคนอื่นๆในสังคมโดยไม่แบ่งแยกศาสนา ทุกคนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้  ผมเองทำอาชีพนี้ และสิ่งที่สามารถทำได้ก็มีความรู้สึกว่าถ้าสังคมเรามีความรักซึ่งกันและกัน
และผมมีความรู้สึกว่าคนส่วนใหญ่รู้จักพระเยซูเจ้าแล้ว ว่าเป็นศาสดาในศาสนาคริสต์ แต่ว่ายังไม่รู้จักว่าคำสอนของพระเยซูเจ้าคืออะไร ผมอยากให้คนรู้จัก และเข้าใจความหมาย หลักคำสอนของพระเยซูเจ้าชี้ให้เห็นถึงความรักของพระเยซูเจ้าที่อยากจะให้ทุกคนมีความรักซึ่งกันและกัน เช่นถ้าเขาตบหน้าข้างซ้ายของท่านก็หันหน้าข้างขวาไปให้เขาตบบ้าง และปัญหาในประเทศไทยก็เช่นกัน ถ้าคนเราให้อภัยซึ่งกันและกันก็จะไม่เกิดปัญหาอย่างนี้ และตัวผมเองนับถือศาสนานี้มาตั้งแต่กำเนิด ทั้งคุณพ่อคุณแม่ และที่โรงเรียน พระสงฆ์ก็สอนเสมอในเรื่องของการให้อภัยกัน ให้อภัยเพื่อนฝูง ทุกวันนี้ผมเองเป็นคนมีเพื่อนฝูงเยอะ ที่ผมมีเพื่อนเยอะผมก็แปลกใจเหมือนกัน แต่วันหนึ่งผมมาคิดได้ว่าคนเราต้องรู้จักให้ ถ้าเราไม่รู้จักรักคนอื่น คนอื่นเขาก็ไม่รักเรา ผมบอกกับลูกผมเสมอว่าถ้าเราอยากจะให้คนอื่นรัก เราต้องรักคนอื่นก่อนซูโม่กิ๊กกล่าว