หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

วันชุมนุมครูคำสอนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ครั้งที่ 7

โดย...ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ศูนย์คริสตศาสนธรรม นำโดยคุณพ่อวีระอาภรณ์รัตน์ หัวหน้าแผนกคริสตศาสนธรรม จัดงานวันชุมนุมครูคำสอนอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ  ครั้งที่ 7 โดยพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธานในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ  แต่งตั้งครูคำสอน  และมอบรางวัลให้กับครูคำสอนทรงคุณค่า ของแต่ละเขต ซึ่งจัดขึ้น เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2005 ณ บ้านผู้หว่าน มีผู้มาร่วมงานนี้ทั้งหมด 300 ท่าน ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นครูคำสอน 150 ท่าน

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญช ูเทศน์ให้ข้อคิดกับบรรดาครูคำสอนในวันนี้ว่า พี่น้องที่รัก วันนี้เราถือว่าเป็นวันฉลองครูคำสอน ไทย ได้จัดการให้มีการประชุม มีมิสซา มีการตระหนักถึงคำสอน และผู้ที่จะนำคำสอนนั้นไปเผยแผ่ นำคำสอนนั้นไปแพร่ ไปให้คนอื่นได้รู้และรับรู้และนำไปปฏิบัติ จึงถือว่าเป็นวันสำคัญและเป็นวันที่มีคุณค่า ไม่ใช่สำหรับตนเองเท่านั้น แต่ว่ายังมีคุณค่า    และมีประโยชน์มหาศาลสำหรับทุกๆคนที่เกี่ยวข้องและเป็นอนาคตของพระศาสนจักรท้องถิ่นต่อๆไปด้วย  และในวัดฉลองครูคำสอนดัง เช่น ในวันนี้ ณ บ้านผู้หว่าน พวกบรรดาครูคำสอนทั้งหลายต่างก็ร่วมจิตร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ ณ บัดนี้ และในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณนี้ ก็ได้อัญเชิญ    บทภาวนากับพระศาสนจักรซึ่งมีใจความสำคัญ และเหมาะสมสำหรับบรรดาครูคำสอน และคริสตชนทุกคน เราพร้อมใจกันสวดว่าพระองค์ทรง  เป็นผู้สร้าง และความรอด ของนานาชาติ ทรงเรียกชาวไทยให้มารับความเชื่อคาทอลิก ให้เป็นประชากรที่ทรงเลือกสรร และ การที่พระองค์ทรงโปรดให้เราได้มีบุญราศี  สองคอนก็ดี       คุณพ่อนิโคลาสก็ดี ซึ่งได้ยืนยันชีวิต     แสดงความรักความกล้าหาญต่อสังคมจนเป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับ   และเป็นที่พระศาสนจักรก็รับรองถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นนั้นเพื่อบ่งบอกกับเราว่าเราก็มีสิทธิ์ และหน้าที่ๆจะกระทำเช่นนั้นด้วย เพราะเราทุกคนต่างได้รับพระพร ต่างได้รับความเชื่อ โดยอาศัยศีลศักดิ์สิทธิ์ เมื่อวันที่เราได้รับศีลล้างบาป เราได้กลายเป็นประชากรของพระเป็นเจ้า ยิ่งกว่านั้น เราได้กลายเป็นทายาทของครอบครัวของพระเป็นเจ้า ครอบครัวของพระตรีเอกภาพด้วย    และเราจึงวิงวอนขอให้ท่านบุญราศีในวันนี้เป็นพิเศษ ที่จริงก็อ้อนวอนมาตลอด แต่วันนี้ท่านคงมีความตั้งใจเป็นพิเศษ ณ สวรรค์ วิงวอนขอพระเป็นเจ้าได้ทรงโปรดให้บรรดาครูคำสอนทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่เฉพาะในประเทศของเรา แต่ว่าในพระศาสนจักรทั่วโลก ได้สามารถที่จะประกาศองค์พระ เยซูคริสตเจ้าว่าเป็นผู้นำความรอดมาสู่ทุกคน     เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านนักบุญเปาโลซึ่งมีจดหมายเขียนถึงชาวโรม  ดูเหมือนว่าในบรรดาอัครสาวกผู้ยิ่งใหญ่ มีนักบุญเปาโลเขียนจดหมายมากที่สุด ครูคำสอนจะเอาตามก็ได้    เขียนคำสอนที่จะบอกความรัก   ต่อพระเป็นเจ้า  หรือเขียนจดหมายถึงผู้คนทั้งหลาย    ดังเช่นท่านนักบุญ เปาโลก็ไม่เสียหายตรงไหน จดหมายท่านนักบุญเปาโลที่บอกสาระที่มีความหมาย สาระที่มีคุณค่าและมีสัจธรรมท่านเขียนขึ้นต้นอย่างนี้ พี่น้องถ้าพระเป็นเจ้าทรงอยู่ข้างเรา ใครจะสู้เราได้ นี่เป็นข้อแรกที่เราต้องยึดมั่นไม่ว่าเราจะอยู่ในฐานะใดๆ ในเมื่อ เรามีพระเป็นเจ้าอยู่กับเรา อยู่เคียงข้างเรา ไม่มีสิ่งใดๆ   เลยที่สามารถจะทำอันตรายเรา ที่จะทำให้เราพินาศไป เพราะเรารู้ว่าพระเป็นเจ้าเป็นพระผู้สร้างพระเป็นเจ้าเป็นผู้ที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ในวันนี้ท่านนักบุญเปาโลได้เน้นดังนี้    พระองค์มิได้หวงแหนพระบุตรของพระองค์      แต่ทรงมอบพระบุตรเพื่อเราทุกคนแล้ว พระองค์จะไม่ประทานทุกสิ่งพร้อมกับพระบุตรของพระองค์ หรือนี่แหละสิ่งที่พระบิดา    ได้แสดงให้เรามนุษย์ได้รับทราบว่าดังบทสร้อยสดุดีนี้ ความรักมั่นคงของพระองค์ ดำรงนิจนิรันดร์  ตั้งแต่นิรันดร เราเรียกพระเป็นเจ้าเป็นองค์ความรัก และความรักของพระองค์ดำรงเป็นนิจนิรันดร์ และไม่เปลี่ยนแปลง   ไม่เหมือนกับความรักของมนุษย์ที่มักจะลุ่มๆดอนๆ    แค่ชั่วครั้งชั่วคราว  แต่ความรักของพระเป็นเจ้า พระเป็นเจ้าเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ความรักของพระองค์มั่นคง และพระบิดาก็บอก และพิสูจน์ว่าพระองค์รักไม่ใช่ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นการกระทำนั่นคือเมื่อถึงวาระ เพื่อจะได้กอบกู้มนุษยชาติ นำความรอดดังบทภาวนาที่เราเขียน ไว้นำความรอดมาสู่มนุษย์  เมื่อถึงวาระอันนั้นพระบิดาก็ทรงบอกกับลูกชายแต่คนเดียวให้ลงมามีชีวิตอย่างมนุษย์   และช่วงนี้พระศาสนจักรได้เชิญชวนให้เราทั้งหลายน้อมรำลึกถวายการต้อนรับ

กา้รเสด็จมาของ   องค์พระเยซูคริสตเจ้าในวันพระคริสตสมภพ พระองค์ได้ทรงส่งพระบุตรลูกชายแต่องค์เดียว   และมอบพระบุตรนั้น คือพระเยซูนี้แก่ทุกคน มอบให้เราแล้ว เมื่อ สองพันกว่าปีมาแล้ว เมื่อ 2005 และอีกไม่กี่วัน ถึง 2006ได้มอบพระเยซู ให้กับเรา และพระเยซูก็ได้ปฏิบัติตามพระประสงค์ครบทุกประการ เพื่อแสดงความรักต่อองค์พระบิดาให้มนุษย์ได้รับรู้ และมอบชีวิตบนไม้กางเขน เพื่อเอาชีวิตของพระองค์เข้า และกับมนุษย์ที่ได้ตายไปแล้ว เสียหายไปแล้ว   และยิ่งกว่านั้น   มอบพระบุตร เมื่อพระเยซูทำภาระกิจเสร็จก็สู่สวรรค์ แน่ล่ะพระเยซูคิดถึงพ่อของตน และรักพ่อของตน อยากไปอยู่กับพ่อของตน เพราะฉะนั้น เมื่อถึงเวลาพระองค์ก็เสด็จไปสู่พระบิดาของพระองค์ดังที่มีบอกไว้ในบทข้าพเจ้าเชื่อ และบอกไว้ในบทความเชื่อด้วย   ก่อนที่พระองค์จะเสด็จไปสู่พระบิดาของพระองค์   พระองค์ก็ได้สัญญาจะกับอัครสาวกของพระองค์ว่าพระองค์จะประทับอยู่กับพวกเขาตลอดไปและเพื่อให้ประชากรของพระเป็นเจ้าอยู่ในระบบ ที่เป็นสถาบัน และวันนั้นพระองค์ได้ทรงเรียกเปโตรมา   ถามว่ารัก  เราไหม ถามอีกว่ารักเราไหม พระองค์รู้จักเปโตรก็ถามซ้ำอีก และเปโตรตอบว่า พระองค์ทรงทราบว่ารักพระองค์ และพระองค์ก็ตรัสว่าท่านคือศิลา และบนศิลานี้เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา และพระเยซูทรงได้มีพระบัญชาก่อนที่จะไปสวรรค์นั้นท่าน    จงไปสั่งสอนนานาชาติ ให้มวลมนุษย์ นำประชากรของพระเป็นเจ้าได้รู้จักพระบิดา พระบุตร และพระจิต และพระศาสนจักรได้สืบทอดตลอดมานับตั้งแต่ท่านนักบุญเปโตรจนถึงวันนี้ โดยมีพระสันตะปาปาสืบทอดต่อกันมาองค์นี้ เบเนดิกต์ที่16 และพระศาสนจักรในประเทศไทยก็ได้รับสืบทอดมายาวนานกว่า 400 ปี จนถึงวันนี้ และจะดำรงต่อไป แน่ละอุปสรรค์   แม้ชีวิตพระเยซูเจ้าก็ต้องเผชิญกับชีวิตวิกฤตอุปสรรค จนถึงต้องสละชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้า พระศาสนจักรก็มีอุปสรรคและมีปัญหาที่ต้องเผชิญกับอันตรายตลอดมา พระเยซูคริสตเจ้าก็ได้ปฏิบัติตามคำสัญญาดังกล่าว เพราะฉะนั้นใครก็ตาม พี่น้องนำภารกิจและปฏิบัติตามคำสั่งสอนคำเชิญชวนของพระเยซูคริสตเจ้าในวันนี้ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรามาจงเลิกนึกถึงตนเองแบกไม้กางเขนของตนทุกวัน แล้วตามเรามา ดังนั้นในฐานะบรรดาครูคำสอนทั้งหลายได้รับพระพรของพระเป็นเจ้าได้รับหน้าที่ภาระกิจ นำพระเยซูคริสตเจ้า ไปสู่ปวงชนนั้น จึงเป็นภารกิจที่มีคุณค่า เป็นภารกิจที่มีความสำคัญเพราะเรา   มิเพียงแต่ช่วยให้ผู้คนเหล่านี้ได้ดำรงชีวิตอยู่กับพระเป็นเจ้าในโลกเท่านั้น แต่จุดหมายปลายทางสุดท้ายและเป็นความสำเร็จ นั่นคือเรามีส่วนช่วยให้ผู้คนเหล่านี้ได้มีชีวิตรอด ไม่เสียทีที่องค์พระเยซูคริสตเจ้าต้องหลั่งเลือด และสละชีวิตให้กับพระบิดาในวันสิ้นพระชนม์บนไม้กานเขน จึงบอกว่าในฐานะ   เป็นครูคำสอนเป็นหน้าที่เป็นภาระของทุกคนแต่เมื่อเราได้รับมอบหมายเป็นพิเศษดังกล่าวนี้แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความยุ่งยากดังเช่นท่านนักบุญเปาโลก็ตาม แต่นั่นไม่มีใครสามารถเอาชนะพระเป็นเจ้าได้ ท่านนักบุญเปาโลบอกว่า  การทดลองทั้งหมดนี้มันง่ายอาศัยผู้ที่รักเรา เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าความตายคือชีวิต  ไม่ว่าทูตสวรรค์หรือผู้มีอำนาจปกครอง    ไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคต  ไม่ว่า   ฤทธิ์อำนาจใด  ไม่ว่าความสูงความลึก   ไม่มีพันธกิจใดๆพรากเราได้ หากหัวใจของเรารักพระเยซู   ถ้าเรารักพระเป็นเจ้าเรารักพระเยซูคริสตเจ้าแล้วเราสามารถทำอะไรๆก็ได้

ผู้ที่ได้รับ รางวัลครูคำสอนทรงคุณค่า 16 ท่าน จาก 5 เขต


มีรายชื่อต่อไปนี้ครูคำสอนทรงคุณค่า เขต 1  ปี 48
นักบุญ   อซุนตา   ชื่อ กาญจนา     นามสกุล เอี่ยมสำราญ
นักบุญ   อันนา    ชื่อ  เพชรรัตน์     นามสกุล รงควงศ์
นักบุญ   มารีอา   ชื่อ วิไลวรรณ     นามสกุล เอกตระกูล
นักบุญ   ยอแซฟ    ชื่อ  สันธาน    นามสกุล  ธรรมนิต
นักบุญ   อักแนส   ชื่อ สุนันทา    นามสกุล  คชนาค
นักบุญ   มารีอา   ชื่อ วิลาวรรณ   นามสกุล สุขชัย
นักบุญ   มารีอา   ชื่อ วิไลวรรณ     นามสกุล เอกตระกูล

ประวัติครูคำสอนทรงคุณค่า เขต 2
นักบุญ   มารีอา   ชื่อ กุลธิดา    นามสกุล กิจสำเร็จ
นักบุญ   เทเรซา   ชื่อ นันทวัน    นามสกุล  เรืยงเครือ

ประวัติครูคำสอนทรงคุณค่า เขต 4
นักบุญ   มารีอา   ชื่อ จินดา    นามสกุล  บุตรสละ
นักบุญ   อันนา    ชื่อ  วนิดา   นามสกุล  วิสุทธิวรรณ
นักบุญ   มอนิกา   ชื่อ ศิราณี   นามสกุล จันมา

ประวัติครูคำสอนทรงคุณค่า เขต 5
นักบุญ   เทเรซา   ชื่อ ชุลี     นามสกุล จุลสุคนธ์
นักบุญ   มาร์ธา   ชื่อ รัตนา    นามสกุล  ศิริวรศิลป์
นักบุญ   มารีอา เทเรซา   ชื่อ นางสาวลัดดาวัลย์     นามสกุล  วงศ์ภักดี
นักบุญ   เทเรซา  ชื่อ สาลินี นามสกุล หอมมณีรัตนชัย