สังฆมณฑลนครราชสีมา

ประวัติอาสนวิหารแม่พระประจักษ์

แผนที่การเดินทาง

เส้นทางคมนาคม

กฏหมายพระศาสนจักรว่าด้วยเรื่องพระสังฆราชคาทอลิก

             กลุ่มคริสตชนโคราช ได้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 92 ปีที่แล้ว โดยมีบาทหลวงคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส(MEP) ผู้ที่ได้บุกเบิกเผยแพร่คำสอนทางภาคอีสานได้บุกป่าดงมาถึงโคราช โดยมีคุณพ่อเอฟกอฟฟอง มาเป็นมิชชันนารีรุ่นแรก ที่เดินทางไปเผยแพร่ศาสนายังภาคอีสาน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่อุบลราชธานี ซึ่งจะต้องเดินผ่านทางโคราชและต้องหยุดพัก หลังจากออกจากแก่งคอยและดงพญาไฟ แต่ไม่มีบันทึกเป็นหลักฐานยืนยันได้ จึงถือว่า พ.ศ 2448  ซึ่งเป็นปีที่คุณพ่อเอฟกอฟฟอง มาอยู่ประจำที่โคราชเป็นองค์แรก ได้บันทึกในใบรับศีลล้างบาปแก่คริสตชนเป็นคนแรก เป็นปีเริ่มต้นของกลุ่มคริสตชนที่โคราช ซึ่งหลังจากนั้นได้มีคริสตชนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความร้อนรนและมานะอดทนของบรรดามิชชันนารีรุ่นแล้วรุ่นเล่า ทั้งชาวฝรั่งเศสและคนไทยเอง จนกระทั่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ 2481–2488) จนทำให้กลุ่มคริสตชนกระจัดกระจายไป อันเนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมือง

             ในตอนปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 สัมพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดสถานีรถไฟที่โคราช จนทำให้วัดคาทอลิกซึ่งอยุ่ใกล้ ๆ ก็พลอยถูกถล่มด้วย ระเบิดหลายสิบลุก ได้รับความเสียหายมากมาย อย่างไรก็ตามเมื่อสงครามสงบแล้ว จำนวนคริสตชนก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ จนถึงสมัยคุณพ่อมารีอุส เบรย์ เป็นเจ้าอาวาส ได้ฟื้นฟูและบูรณะสิ่งต่าง ๆ ขึ้นใหม่หลังจากที่ซบเซาลงเนื่องจากสงครามโลก ที่ดินของวัดถูกบุกรุก สลัมเกิดขึ้นในที่ดินของวัด โรงแรมถูกสร้างขึ้นหลายแห่งในเขตวัด เพื่อเป็นที่พักของคนโดยสารรถไฟ คุณพ่อเบรย์ต้องค่อย ๆ ขยับขยายให้ผู้อาศัยในสลัมไปอาศัยที่อื่นซึ่งต้องชดใช้ค่ารื้อถอน ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เพื่อต่อสู้คดีเรื่องที่ดิน ต้องซื้อโรงเเรมเพื่อรื้อถอน จนได้ที่ดินของวัดคืนมาเพียงบางส่วนเท่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

             คุณพ่อเบรย์ได้ริเริ่มกิจการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาสภาพของวัดให้ดีขึ้นท่านอุทิศทำงานเพื่อรับใช้สังคมมากมาย ในปี พ.ศ 2499 ได้ดัดแปลงโรงแรมชั้นบนเป็นห้องเรียนและพัฒนาจนเป็นโรงเรียนมารีย์วิทยา นอกจากนั้นคุณพ่อยังเชิญคณะภาราดาเซนต์คาเบรียล มาเปิดโรงเรียนอัสสัมชัญขึ้นที่โคราช และยังได้ตั้งบ้านแมรี่โฮมสำหรับเด็กหญิงยากจนให้ได้รับการอบรมศึกษา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งก่อตั้งโรงพยายบาลเซนต์เมรี่ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดมาจนถึงทุกวัน  และหลังจากที่คุณพ่อได้ย้ายจากวัดโคราช  ได้มีการสร้างวัดขึ้นใหม่ชื่อ วัดแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด  ซึ่งเป็นอาสนวิหารประจำสังฆมณฑลนครราชสีมาที่เห็นในปัจจุบันนี้

              ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่ากลุ่มคริสตชนวัดแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด เริ่มต้นจากบรรดามิชชันนารีที่เดินทางผ่านเพื่อแพร่ธรรมสู่อีสาน ซึ่งโคราชก็เป็นทางผ่านและมีการหยุดพัก จนทำให้เกิดการสอนคำสอนของบรรดามิชชันนารี และเป็นผลให้มีการติดตามกลุ่มคริสตชนที่โคราชซึ่งต่อมาได้ตั้งเป็นวัด บรรดามิชชันนารีที่มาทำงานมีดังนี้ คุณพ่อเอสกอฟฟอง คุณพ่อรองแดล คุณพ่อเบอนัว นิโกเลา คุณพ่อโทมา(พระสงฆ์ไทย) ซึ่งยังมีพระสงฆ์ที่มาอยู่ชั่วคราวดังนี้ คุณพ่อเลโอ นาร์ด (สงฆ์ไทย) คุณพ่อลาร์เก คุณพ่อเดอชังป์ คุณพ่อวิจิตร กฤษณา  คุณพ่อซีริล หัวใจ และยังคงมีพระสงฆ์ไทยทำงานแพร่ธรรมต่อจากบรรดามิชชันนารีจนถึงปัจจุบัน