|
|
วินาทีแรกที่ตัดสินใจรับหน้าที่พระสังฆราช |
ที่สุดแล้ว พระสมณทูตก็ร่วมแสดงความยินดีด้วย และขอให้พ่อได้เขียนจดหมาย ตอบรับการเป็นพระสังฆราช เป็นลายลักษณ์อักษร พ่อก็บอกกับพระสมณทูตว่า ผมคงต้องกลับมาที่บ้าน บ้านที่พ่อบอก็คือ สำนักพระสังฆราช หรือ ศูนย์คำสอน พระสมณทูตท่านได้เตรียมกระดาษไว้แล้ว แล้วก็บอกพ่อว่า ทำที่นี่ก็ได้ ท่านได้นำกระดาษสีขาว 2 แผ่นมาให้พ่อเขียนด้วยลายมือ ใจความที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ จำที่เขียนได้ว่า ผมไม่ใช่คนที่เก่งอะไร แต่ผมก็ดีใจและขอบคุณ และจะพยายามทำหน้าที่ของผมอย่างดีที่สุด ด้วยความช่วยเหลืออย่างดีจากพระเป็นเจ้า สิ่งสำคัญที่พระสมณทูตบอกคือ อย่าลืมเขียนคำว่า Accept ยอมรับ ด้วย และท่านบอกกับพ่อว่า ให้รักษาเป็นความลับก่อน และจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2009 |
||||||||||||
พอถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ตอนเช้าพ่อรู้สึกนอนไม่หลับแล้ว คงเพราะรู้สึกตื่นเต้น แต่ไม่สามารถบอกกับใครได้ พ่อไปสอนเรียนนักศึกษา คริสตศาสตร์
ที่วิทยาลัยแสงธรรม วันนั้นก็ดำเนินชีวิตปกติทุกอย่างอยู่ที่บ้านเณร หลังประกาศเวลา 6 โมงเย็นแล้วแล้วก็มีคนโทรศัพท์มาร่วมแสดงความยินดี วันนั้นพ่อเดินทางกลับมาถึงสำนักมิสซัง เวลา 22.00 น.พ่อได้ขอเข้าพบพระคาร์ดินัล
แล้วพ่อได้ขอบคุณ และคารวะพระคาร์ดินัล และในวันต่อมา( วันที่ 11 กพ. -12 กพ.09 ) มีเข้าเงียบพระสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เพื่อนพี่น้องสงฆ์ก็ได้ร่วมแสดงความยินดีด้วย พ่อได้มีโอกาสกล่าวในวันเข้าเงียบว่า พ่อคิดถึงพระคุณของพระที่มอบให้พ่อเกิดในสังฆมณฑลกรุงเทพฯ สมัยอยู่ที่บ้านเณรเล็กมีพระคุณเจ้ามีชัย และพระคุณเจ้าสังวาล และพ่ออีกหลาย ๆ คน ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพ่อ
และพอมาอยู่ที่บ้านเณรใหญ่ก็มีอาจารย์ดี ๆ หลายคน รวมถึงช่วงเวลาที่มาอยู่ที่ฝ่ายงานอภิบาลและธรรมทูตก็รู้สึกดีมาก ( บรรยากาศพระสังฆราชใหม่
ท่ามกลางคณะสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ) |
||||||||||||
สิ่งที่กลัวที่สุด กังวลใจที่สุด และหนักใจที่สุด คือเรื่องอะไร และพ
ระคุณเจ้าจะมีแนวทางผ่านไปได้อย่างไรนั้น พ่อรู้สึกว่า พ่อไม่กังวลอะไร เพราะความกังวลในอนาคตจะทำให้เรากลัวและจะทำใ
ห้เรานอนไม่หลับ พ่อมีคติพจน์คือ ดำเนินชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุด จำได้ว่าที่เรียนวิชาชีวิตจิตนั้น รู้สึกชอบมาก สิ่งที่เรียกว่าน้ำพระทัยของพระเจ้า และ การทำตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
ก็คือ การทำชีวิตให้ดีที่สุด อย่างซื่อสัตย์ และสม่ำเสมอ ในชีวิตปัจจุบัน พระคงไม่เรียกร้องอะไรที่เกินความสามารถของเราอย่างแน่นอน |
||||||||||||
ต่อจากนี้อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ กับสังฆมณฑลเชียงใหม่จะเป็นไปในทิศทางไหน พ่อเองคิดว่าต้องดีขึ้น ส่วนหนึ่ง
พ่อคงต้องขอความอนุเคราะห์จากพระคุณเจ้า พระคาร์ดินัล และ ความช่วยเหลือจากพวกเราทุกคน ทั้งนักบวชพระสงฆ์ พ่อไม่อยากรบกวนใคร และพ่อเองก็เข้าใจสภาพว่าเป็นอยู่อย่างพอเพียง เมื่อก่อนพ่อไม่รู้เลยว่า
เมื่อก่อนเวลาที่ใครสักคน สมัครไปทำงานต่างสังฆมณฑล เขาลำบากมากแค่ไหน มาวันนี้พ่อเองได้สมัครใจ ขอความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกัน ภาวนาและประกาศข่าวดีและ ขอบคุณในน้ำใจดีของทุกท่านด้วย |