อารัมบท
๒๘. เนื่องจากคริสตชนมีพระคุณพิเศษต่าง ๆ กัน (เทียบ รม. ๑๒:๖) จึงต้องร่วมมือกันประกาศ ข่าวดีตามความสามารถ ช่องทาง พระคุณพิเศษ และหน้าที่ของแต่ละคน (เทียบ
๑ คร. ๓:๑๐). เพราะฉะนั้นไม่ว่าคนที่หว่านหรือคนที่เก็บเกี่ยว (เทียบ ยน. ๔:๓๗) ไม่ว่าคนที่ปลูกหรือคนที่รดน้ำ ต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (เทียบ ๑ คร. ๓:๘)
เพื่อว่า เมื่อทุกคนมุ่งถึงจุดหมายเดียวกันด้วยใจสมัครและอย่างเป็นระเบียบ จะได้ร่วมใจอุทิศกำลังเพื่อก่อตั้งพระศาสนจักรขึ้น. เพราะฉะนั้นงานของผู้ประกาศข่าวดีและความช่วยเหลือของคริสตชนอื่น ๆ
ต้องมีผู้ควบคุมและต้องเกี่ยวโยงถึงกันและกันเพื่อให้ ทำทุกสิ่งอย่างเป็นระเบียบ (๑ คร. ๑๔:๔๐) ในงานและการร่วมมือของธรรมทูตทุก ๆ ด้าน.
การจัดงานทั่ว ๆ ไป
๒๙.
โดยที่งานประกาศข่าวดีทั่วโลกก่อนอื่นเป็นหน้าที่ของคณะสังฆราช ดังนั้นสมัชชาหรืออีกนัยหนึ่ง ที่ประชุมถาวรของพระสังฆราชเพื่อพระศาสนจักรสากล
นอกจากห่วงใยงานต่าง ๆ ที่มีความสำคัญทั่วไปแล้ว ต้องมีความห่วงใยเป็นพิเศษถึงงานธรรมทูตซึ่งเป็นภาระหน้าที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระศาสนจักร.
เพื่อมิสซังทุกแห่งและสำหรับงานธรรมทูตทุกประเภทควรมีสำนักงานกลางที่มีอำนาจแต่แห่งเดียว คือสำนักงานแห่งสมณกระทรวงเผยแพร่ความเชื่อ.
สำนักกลางนี้ควรเป็นผู้ควบคุมและประสานงานธรรมทูตและการร่วมมือของธรรมทูตทั่วดลกแต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของบรรดาคริสตจักรทางภาคตะวันออก.
แม้ว่าพระจิตทรงบันดาลให้เกิดจิตตารมณ์ธรรมทูตขึ้นในพระศาสนจักรของพระเป็นเจ้าด้วยวิธีต่าง ๆ และบ่อยครั้งปฏิบัติงานก่อนผู้ที่มีหน้าที่ปกครองชีวิตของพระศาสนจักรเริ่มดำเนินงานเสียอีก
สำนักงานนี้มีส่วนต้องส่งเสริมกระแสเรียกและชีวิตฝ่ายวิญญาณของธรรมทูต ส่งเสริมให้คนมีใจร้อนรนและภาวนาอุทิศแก่มิสซัง อีกทั้งออกข่าวจริงและมีแก่นสารเกี่ยวกับมิสซัง.
สำนักงานนี้มีหน้าที่ชักชวนให้เกิดธรรมทูตและจ่ายแจกธรรมทูตไปแล้วแต่ภายใดมีความต้องการรีบด่วนกว่า มีหน้าที่วางแผนปฏิบัติงานอย่างเป็นระเบียบ
ออกกฎแนะนำและวางหลักเกณฑ์อันเหมาะสมสำหรับทำการแพร่ธรรมและทำการกระตุ้นเตือน. สำนักงานนี้มีหน้าที่ชักชวนและประสานงานเรี่ยไรทุนทรัพย์ซึ่งจะจ่ายแจกไปตามความต้องการหรือประโยชน์และอาณาเขตของดินแดน ตามจำนวนของสัตบุรุษและคนนอกศาสนา ตามจำนวนกิจการและคณะนักบวชเจ้าหน้าที่ศาสนาและธรรมทูต.
สำนักงานนี้โดยร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเอกภาพของคริสตศาสนิกชน
ต้องหาวิธีทำให้เกิดความร่วมมืออย่างฉันพี่น้อง ตลอดจนความสามัคคีลงรอยกับงานริเริ่มของคริสตชนนิกายอื่นเพื่อขจัดเสียซึ่งความอัปยศอดสูในเรื่องแตกแยกกันเท่าที่จะทำได้.
เพราะฉะนั้นสำนักงานนี้จำต้องเป็นเครื่องมือบริหารงาน เท่า ๆ กับเป็นเครื่องมือจัดการอย่างเข้มแข็ง
ซึ่งใช้ตำราถูกหลักวิชาและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพในสมัยนี้คือ โดยคำนึงถึงสิ่งที่ค้นพบในปัจจุบันเกี่ยวกับเทวศาสตร์ วิชาว่าด้วยหลักการสอนและงานอภิบาลสัตบุรุษของธรรมทูต.
ผู้ที่ต้องมีส่วนสำคัญในการอำนวยการสำนักงานนี้พร้อมกับมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนคือ
ผู้แทนที่คัดเลือกโดยบรรดาผู้ที่ร่วมมือในงานธรรมทูต ซึ่งได้แก่พระสังฆราชทั่วโลก (เมื่อได้ฟังความเห็นของสภาสังฆราชแล้ว) กับผู้อำนวยการสถาบันและกิจการต่าง ๆ ในความอุปถัมภ์ของพระสันตะปาปา ตามวิธีการที่พระสันตะปาปาจะกำหนด. ผู้แทนทั้งหมดนี้จะต้องเรียกประชุมตามเวลาที่กำหนด และต้องเป็นผู้จัดระเบียบงานธรรมทูตทั้งหมดชั้นสูงสุดภายใต้อำนาจของพระสันตะปาปา.
สำนักงานนี้ควรมีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์เชื่อถือได้ไว้ใช้กลุ่มหนึ่งอย่างถาวร. ในงานหน้าที่หลายอย่างของสำนักงานนี้
อย่างหนึ่งก็คือ รวบรวมข่าวที่เหมาะสมเกี่ยวกับสภาพท้องที่ของภาคต่าง ๆ และความนึกคิดจิตใจของหมู่ชนต่าง ๆ เกี่ยวกับวิธีแพร่พระวรสารที่ต้องใช้ แล้วเสนอข้อสรุปที่มีหลักฐานตามหลักวิชาสำหรับกิจการและการร่วมมือของธรรมทูต.
คณะนักบวชหญิง กิจการภาคสำหรับมิสซัง องค์การฆราวาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การระหว่างชาติ ต้องมีผู้แทนอยู่ในสำนักงานนี้ด้วยวิธีอันเหมาะสม.
การจัดงานท้องที่ในมิสซัง
๓๐.
เพื่อบรรลุเป้าหมายและได้ผลในการปฏิบัติงานธรรมทูตเอง ผู้ที่ทำงานธรรมทูตทุกคนจะต้องมี น้ำหนึ่งใจเดียวกัน (กจ. ๔:๓๒).
ในฐานะเป็นประมุขและศูนย์ของความกลมเกลียวในการแพร่ธรรมของสังฆมณฑล
พระสังฆราชมีหน้าที่ต้องส่งเสริมควบคุมและประสานงานแพร่ธรรม แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องเคารพและสนับสนุนความริเริ่มที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันทันทีของผู้ที่มีส่วนร่วมในงานนี้. ธรรมทูตทุกคนแม้นักพรตที่ไม่ขึ้นแก่พระสังฆราช ก็ต้องเชื่อฟังอำนาจของพระสังฆราชในกิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานแพร่ธรรมอันศักดิ์สิทธิ์.
เพื่อประสานงานกันดียิ่งขึ้น ให้พระสังฆราชตั้งสภาเกี่ยวกับการอภิบาลสัตบุรุษขึ้นเท่าที่สามารถจะทำได้.
ในสภาที่กล่าวนี้พระสงฆ์ นักบวช และฆราวาส จะมีส่วนร่วมโดยมีผู้แทนที่เลือกส่งเข้าไป. นอกจากนั้นพระสังฆราชต้องสอดส่องมิให้ทำการแพร่ธรรมในหมู่คนที่กลับใจแล้วพวกเดียวเท่านั้น แต่ให้มีธรรมทูตและเงินส่วนหนึ่งสำหรับประกาศข่าวดีแก่ผู้ที่มิใช่คริสตชนด้วย.
การประสานงานในภาคต่าง ๆ
๓๑. บรรดาสภาสังฆราชต้องปรึกษาหารือกันกล่าวถึงปัญหาที่สำคัญกว่ากับเรื่องที่รีบด่วนกว่าก็จริง
แต่ก็ไม่ควรมองข้ามความแตกต่างกันในท้องที่ของตน. เวลามีคนหรือกำลังทรัพย์ไม่พอ เพื่อไม่ให้สูญเสียไปเปล่า และเพื่อไม่ให้มีการริเริ่มซ้ำกันโดยไม่จำเป็น ขอกำชับให้ร่วมกำลังข้าด้วยกันตั้งกิจการที่จะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายร่วมกัน เช่นสามเณราลัยโรงเรียนชั้นสูงและโรงเรียนเทคนิค ศูนย์งานอภิบาลสัตบุรุษ ศูนย์อบรมคำสอน ศูนย์อบรมพิธีกรรม ตลอดจนศูนย์สื่อมวลชน.
การร่วมมือกันแบบนี้ควรจัดขึ้นตามความเหมาะสมแม้ในระหว่างสภาสังฆราชต่าง ๆ.
การจัดงานของคณะนักบวช
๓๒. เป็นการสมควรที่จะประสานงานต่าง ๆ ที่ดำเนินโดยสถาบันหรือคณะต่าง ๆ
ของพระศาสนจักรด้วย. ทุกคณะไม่ว่าจะเป็นประเภทใดต้องเชื่อฟังสมณะประมุขท้องที่ในการทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานธรรมทูตโดยตรง.
เพราะเหตุนี้จะมีประโยชน์มาก ถ้าสมณะประมุขท้องที่กับอธิการคณะจะทำการตกลงเพื่อกำหนดว่าจะติดต่อกันอย่างไร. เมื่อดินแดนแห่งใดถูกมอบฝากให้แก่คณะนักบวชคณะหนึ่งผู้ใหญ่ฝ่ายพระศาสนจักรกับคณะจะต้องมีแก่ใจทำทุกอย่าง
เพื่อมุ่งถึงจุดหมายนี้คือ ให้กลุ่มคริสตชนใหม่เจริญเติบโตจนกลายเป็นคริสตจักรท้องที่ ซึ่งเมื่อถึงเวลาสมควรจะปกครองโดยพระสังฆราชกับคณะสงฆ์ของตนเอง.
เมื่ออาณัติปกครองดินแดนแห่งหนึ่งสิ้นกำหนดแล้ว
ก็เกิดสถานการณ์ใหม่ขึ้น. เวลานั้นสภาสังฆราชกับคณะนักบวชต้องร่วมกันปรึกษาตั้งกฎเพื่อกำหนดการติดต่อกันระหว่างสมณะประมุขท้องที่กับคณะนับบวช.
เป็นหน้าที่ของพระสันตะสำนักที่จะวางแนวหลักเกณฑ์ทั่วไปสำหรับทำการตกลงประจำภาคหรือแม้การตกลงเป็นพิเศษ.
แม้ว่าคณะนักบวชพร้อมที่จะทำงานที่ได้เริ่มมาแล้วต่อไปโดยร่วมมือในหน้าที่ปกติ คือ งานดูแลวิญญาณ
แต่เมื่อคณะสงฆ์พื้นเมืองยิ่งเจริญขึ้น
ต้องคิดหาทางให้คณะนักบวชคงซื่อสัตย์ต่อสังฆมณฑลเอง เท่าที่ทำตรงกับจุดหมายของตนได้ โดยรับเอากิจการพิเศษบางอย่างไปทำหรือรับเอาภาคใดสักแห่งในสังฆมณฑลนั้นไปปกครองด้วยน้ำใจกว้างขวาง.
การประสานงานในระหว่างคณะนักบวชต่าง ๆ
๓๓. คณะนักบวชต่าง ๆ ที่ทำงานธรรมทูตอยู่ในดินแดนเดียวกัน
ต้องหาหนทางและวิธีที่จะประสานงานที่ตนทำ. เพราะฉะนั้นการประชุมของนักบวชชายกับการชุมนุมของนักบวชหญิงจึงมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง เพราะทุกคณะนักบวชที่เป็นชาติเดียวกันหรือทำงานอยู่ในภาคเดียวกันอาจร่วมในการประชุมนั้น ๆ ได้. การประชุมเหล่านี้ต้องคิดค้นว่างานอะไรจะทำได้โดยรวมความพยายามเข้าด้วยกัน และต้องทำการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับสภาสังฆราช.
ด้วยเหตุผลอันเดียวกัน เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ควรขยายกินความไปถึงการร่วมมือของคณะนักบวชธรรมทูตในประเทศบ้านเกิดของเขาเอง.
ถ้าทำดังนี้ปัญหาและงานริเริ่มร่วมกันจะสามารถแก้ได้ง่ายขึ้นและเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง เช่นการอบรมผู้ฝึกเป็นธรรมทูตด้านคำสอน การเรียนสำหรับธรรมทูตการส่งรายงานถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมือง หรือองค์การระหว่างชาติและสูงกว่าชาติ.
การประสานงานระหว่างสถาบันความรู้
๓๔. การปฏิบัติงานธรรมทูตอย่างถูกต้องและมีระเบียบเรียกร้องให้ผู้ประกาศข่าวดีได้รับการเตรียมตัวอย่างถูกหลักวิชาให้ไปประกอบภารกิจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อเจรจากับบรรดาศาสนาและวัฒนธรรมที่มิใช่ของคริสตชนและยังเรียกร้องให้ผู้ประกาศข่าวดีได้รับการช่วยเหลืออย่างจริงจังในเวลาปฏิบัติงาน. ดังนั้นสภาสังคายนานี้ปรารถนาให้คณะนักบวชต่าง ๆ
ที่ศึกษาวิชาว่าด้วยมิสซังและวิชาหรือศิลปศาสตร์อื่น
อันมีประโยชน์แก่มิสซัง เช่น ชาติวงศ์วิทยากับภาษาศาสตร์ ประวัติศาสตร์และวิชาว่าด้วยศาสนาต่าง ๆ สังคมศาสตร์ ศิลปะในการอภิบาลสัตบุรุษและวิชาอื่นที่คล้ายคลึงกัน ร่วมมือกันอย่างฉันพี่น้องและด้วยน้ำใจกว้างขวางเพราะเห็นแก่มิสซัง.
|