๑๕. เมื่อพระจิตทรงเรียกมนุษย์ทุกคนให้มาหาพระคริสตเจ้าโดยใช้เมล็ดพืชหว่านของพระวจนาถ
และการประกาศข่าวดีนั้นพระองค์ทรงทำให้จิตใจของเข่าอ่อนน้อมรับความเชื่อ และเมื่อโปรดให้ผู้ที่เชื่อถึงพระคริสตเจ้าเกิดใหม่ในอ่างน้ำล้างบาปพระองค์ก็ทรงรวบรวมเขาให้มาเป็นประชากรของพระเป็นเจ้าแต่พวกเดียว ซึ่งเป็น ชาติที่เลือกสรร ราชสมณศักดิ์ ชนชาติศักดิ์สิทธิ์ ประชากรที่พระเป็นเจ้าทรงได้มา (๑ ปต. ๒:๙)
ฉะนั้นบรรดาธรรมทูตซึ่งเป็นผู้ร่วมมือกับพระเป็นเจ้า (เทียบ ๑ คร. ๓:๙)
ต้องก่อตั้งหมู่คณะสัตบุรุษขึ้นในลักษณะที่สามารถดำรงอยู่ได้โดยเหมาะสมกับกระแสเรียกที่ได้รับ (เทียบ อฟ. ๔:๑) หมายความว่าสามารถทำหน้าที่ที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้ คือหน้าที่พระสงฆ์ ประกาศก และกษัตริย์. ด้วยวิธีนี้แหละประชาคมคริสตชนจึงเป็นเครื่องหมายแสดงว่าพระเป็นเจ้าสถิตอยู่ในโลก. แท้จริงด้วยการถวายบูชามิสซา ประชาคมคริสตชนผ่านไปถึงพระบิดาพร้อมด้วยพระคริสตเจ้ามิรู้หยุด; เมื่อได้รับความเอาใจใส่เลี้ยงดูด้วยพระวาจาของพระเป็นเจ้า ประชาคมนั้นก็เป็นองค์พยานประกาศพระคริสตเจ้า ที่สุดก็ก้าวย่างไปในความรักและร้อนแรงด้วยจิตตารมณ์ของการแพร่ธรรม.
ตั้งแต่แรกเริ่มทีเดียว ประชาคมคริสตชนจะต้องขึ้นในลักษณะที่สามารถจะเลี้ยงตัวเองเท่าที่จะกระทำได้.
กลุ่มสัตบุรุษนี้ซึ่งมีคุณสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติตนเอง
จะต้องหยั่งรากลึกลงไปในหมู่ประชาชน ; ครอบครัวต่าง ๆ จะต้องเจริญงอกงาม ดื่มด่ำไปด้วยจิตตารมณ์ของพระวรสาร และมีโรงเรียนที่เหมาะสมช่วย, ต้องจัดตั้งสมาคมและกลุ่มต่าง ๆ ขึ้น เพื่อฆราวาสผู้แพร่ธรรมจะได้ใช้สำหรับแทรกจิตตารมณ์แห่งพระวรสารเข้าไปในทุกสังคม. ที่สุดในระหว่างชาวคาทอลิกที่ถือจารีตต่างกัน จะต้องมีความรักต่อกันอย่าง อบอุ่นที่สุด.
จะต้องหล่อเลี้ยงให้เกิดจิตตารมณ์สากลภาพนิยมในหมู่คนกลับใจใหม่ด้วย.
คนกลับใจใหม่เหล่านี้ต้องคิดอย่างถูกต้องว่าขึ้นชื่อว่าพี่น้องที่เชื่อถึงพระคริสตเจ้าแล้วก็ล้วนเป็นศิษย์ของพระองค์ที่เกิดใหม่ด้วยศีลล้างบาป และเป็นผู้มีส่วนรับพระคุณมากมายที่ประชากรของพระเป็นเจ้าได้รับ. เท่าที่สถานการณ์ทางศาสนาจะอำนวยให้ทำได้ ให้จัดให้มีกิจการสากลสภาพนิยมในลักษณะที่ชาวคาทอลิกจะไม่สำแดงความไม่สนใจใยดีหรือความขวยเขินหรือความแข่งขันชิงดีน่าเกลียดอย่างใดทั้งสิ้น และให้ร่วมมือกับพี่น้องที่แตกแยกออกไปจากเราตามที่บัญญัติในพระสมณกฤษฎีกาว่าด้วยสากลภาพนิยม โดยสำแดงความเชื่อร่วมกันถึงพระเป็นเจ้าและพระเยซูคริสตเจ้าต่อหน้านานาชาติเท่าที่สามารถจะทำได้ และโดยร่วมมือในปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับสังคม วิชาการ วัฒนธรรม และศาสนา. ขอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันเป็นต้น เพราะเห็นว่าพระคริสตเจ้าทรงเป็นเจ้านายของตนร่วมกันและขอให้พระนามของพระองค์รวมทั้งสองฝ่ายให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน. การร่วมมือกันเช่นนี้ไม่ควรจะมีขึ้นในระหว่างเอกชนเท่านั้น แต่ความเห็นดีเห็นชอบของสมณะผู้ปกครองท้องที่ควรมีขึ้นในระหว่างคริสตจักรหรือกลุ่มคริสตจักรของทั้งสองฝ่ายและในระหว่างกิจการของทั้งสองฝ่ายด้วย.
คริสตศาสนิกชนซึ่งมาจากชนทุกชาติและเข้ามารวมอยู่ในพระศาสนจักรนั้นไม่ต่างกับคนอื่น
ทั้งในเรื่องการปกครองบ้านเมือง ในเรื่องภาษา และในเรื่องสถาบันการเมือง เพราะฉะนั้นคริสตศาสนิกชนต้องดำรงชีวิตเพื่อพระเป็นเจ้าและพระคริสตเจ้าตามขนบประเพณีและความประพฤติในประเทศของตนเพื่อแสดงความรักต่อชาติบ้านเกิดในฐานพลเมืองดีอย่างแท้จริงถึงกระนั้นก็ไม่ต้องดูหมิ่นชาติอื่นและรักชาติตนอย่างหลงใหลแต่ควรส่งเสริมความรักต่อมนุษย์ทั่วไป.
เพื่อจะบรรลุถึงผลที่กล่าวนี้
ผู้ที่มีความสำคัญที่สุดและสมจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษก็คือ ฆราวาส หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งสัตบุรุษคริสตชนที่ได้รวมเข้ากับพระคริสตเจ้าด้วยศีลล้างบาปแล้วดำรงชีวิตอยู่ในโลก. โดยที่เขาเปี่ยมเต็มด้วยพระจิตของพระคริสตเจ้าเป็นหน้าที่โดยเฉพาะของเขาที่จะเป็นดังเชื้อแป้งปลุกกิจการฝ่ายโลกให้มีชีวิตจากภายใน แล้วจัดให้เป็นไปตามที่พระคริสตเจ้าทรงพอพระทัยเสมอ.
แต่ถึงกระนั้น การที่ประชากรคริสตชนดำรงตั้งอยู่ในชาติใดชาติหนึ่งยังไม่พอ
และการที่ประชากรนั้นทำการแพร่ธรรมโดยเป็นแบบฉบับก็ยังไม่พอ. ประชากรคริสตชนดำรงอยู่และตั้งอยู่ก็เพื่อจุดหมายข้อนี้คือ ประกาศพระคริสตเจ้าแก่คนร่วมชาติที่มิใช่คริสตชนด้วยคำพูดและด้วยกิจการ แล้วช่วยเขารับองค์พระคริสตเจ้าอย่างเต็มที่.
อนึ่งเพื่อปลูกฝังพระศาสนจักรและพัฒนาประชาคมคริสตชน
จำเป็นต้องมีพนักงานหน้าที่ต่าง ๆ. พนักงานหน้าที่เหล่านั้น พระเป็นเจ้าเป็นผู้ทรงบันดาลให้เกิดขึ้นจากภายในที่ชุมนุมสัตบุรุษนั้นเอง. ทุกคนจะต้องเคารพและส่งเสริมด้วยความเอาใจใส่อย่างกระตือรือร้น. ในบรรดาพนักงานหน้าที่เหล่านี้ ก็มีหน้าที่ของพระสงฆ์ ของสังฆานุกร และของผู้สอนคำสอนและกิจการคาทอลิก. ในทำนองเดียวกัน เมื่อสวดภาวนาหรือทำงานเสียสละ นักบวชทั้งชายและหญิงก็เท่ากับปฏิบัติภาระหน้าที่อันจำเป็นอย่างเด็ดขาดสำหรับฝังรากอาณาจักรของพระคริสตเจ้าลงในใจมนุษย์ ทำให้มั่นคงแข็งแรงและแผ่ขยายให้ไกลออกไป.
การตั้งคณะสงฆ์พื้นเมือง
๑๖. พระศาสนจักรมีความยินดีอย่างเหลือล้น
ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่ประทานพระคุณอันสุดประเสริฐเรียกคนรุ่นหนุ่มเป็นจำนวนมากมายในหมู่ชนชาติที่เพิ่งกลับใจมานับถือพระคริสตเจ้าให้มาเป็นพระสงฆ์. แท้จริงย่อมถือว่า พระศาสนจักรได้หยั่งรากแข็งแรงยิ่งขึ้นลงไปในแต่ละกลุ่มมนุษย์ เมื่อประชาคมสัตบุรุษต่าง ๆ มีสมาชิกของตนเองบวชเป็นข้าบริการความรอดจนถึงขั้นเป็นพระสังฆราช พระสงฆ์ และสังฆานุกรเพื่อรับใช้พี่น้องของตนเอง คนคริสตจักรใหม่ ๆ ค่อย ๆ มีโครงร่างจะตั้งเป็นสังฆมณฑลขึ้นได้ด้วยคณะสงฆ์ของคริสตจักรเหล่านั้นเอง.
เรื่องที่สภาสังคายนานี้วินิจฉัยแล้วเกี่ยวกับกระแสเรียกและการอบรมพระสงฆ์จะต้องปฏิบัติถืออย่างเคร่งครัดในที่ที่พระศาสนจักรเริ่มปลูกฝังและในคริสตจักรใหม่ ๆ ที่ตั้งขึ้น.
ต้องถือว่าเรื่องที่กล่าวถึงการต้องรวมการอบรมเรื่องวิญญาณเข้ากับการอบรมเรื่องคำสอนกับอภิบาลสัตบุรุษก็ดี การเจริญชีวิตตามแนวพระวรสาร
โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัวหรือครอบครัวก็ดี การเข้าใจลึกซึ้งถึงรหัสธรรมเรื่องพระ ศาสนจักรก็ดี มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง. ดังนี้เขาจะฝึกหัดได้อย่างดีที่จะถวายตัวอย่างสิ้นเชิงเพื่อรับใช้พระศาสนจักรและงานของพระวรสารที่จะจงรักภักดีต่อสังฆราชของเขาในฐานะผู้ร่วมงานอย่างซื่อสัตย์ และร่วมมือกับเพื่อนพระสงฆ์ด้วยกัน.
เพื่อบรรลุถึงจุดหมายทั่วไปข้อนี้
การอบรมสามเณรทุกอย่างจะต้องทำไปตรงแนวทางของรหัสธรรมเรื่องความรอดดังที่เผยในพระคัมภีร์; ขอให้สามเณรพยายามเข้าใจรหัสธรรมเรื่องพระคริสตเจ้าและเรื่องความรอดของมนุษย์ซึ่งมีอยู่ในพิธีกรรมและประพฤติถือตาม.
ข้อกำหนดใช้รวม ๆ กันเหล่านี้ในการอบรมสงฆ์ แม้ในการอบรมเกี่ยวกับการอภิบาลสัตบุรุษและการปฏิบัติตามที่สภาสังคายนาบัญญัติ
สามเณรจะต้องนำมาประสานให้เข้ากับความกระตือรือร้นที่จะทำตามวิธีคิดและวิธีปฏิบัติโดยเฉพาะของชาติตนเอง.
เพราะฉะนั้นจิตใจของสามเณรต้องเตรียมพร้อมและคอยระวังเพื่อรู้จักและสามารถวินิจฉัยวัฒนธรรมแห่งชาติของตน; เวลาเรียนปรัชญาและเทวศาสตร์ สามเณรต้องพิจารณาข้อที่ประเพณีนิยมและศาสนาในชาติของตนเข้ากันได้กับพระคริสตศาสนา; เช่นเดียวกัน ในการอบรมพระสงฆ์ต้องพิจารณาว่าภูมิประเทศหนึ่งมีความต้องการทางด้านอภิบาลสัตบุรุษอย่างไรบ้าง. สามเณรต้องเรียนประวัติ จุดหมาย และวิธีการแพร่ธรรมของพระศาสนจักร ตลอดจนภาวการณ์พิเศษทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรมแห่งชาติของตนเอง. สามเณรต้องได้รับการอบรมให้เข้าใจเจตนารมณ์แห่งสากลภาพนิยม และต้องได้รับการเตรียมตัวเท่าที่ควรเพื่อทำการติดต่อสังสรรค์อย่างฉันพี่น้องกับผู้ที่มิใช่คริสตชน.
เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายทั้งหมดนี้ สามเณร เท่าที่สามารถทำได้ ควรจะเรียนเป็นพระสงฆ์พร้อมทั้งมีการติดต่อและเจริญชีวิตอยู่ร่วมกับชนชาติของตนเองอยู่ตลอดเวลา.
ที่สุดควรเอาใจใส่ให้สามเณรได้รับการอบรมในการบริหารศาสนจักรอย่างมีระเบียบ ถ้าได้รับการอบรมเรื่องเศรษฐกิจด้วยยิ่งดี.
อนึ่งควรจะคัดเลือกพระสงฆ์ที่สามารถบางองค์ที่ฝึกปฏิบัติงานอภิบาลสัตบุรุษพอสมควรแล้ว
ให้ไปทำการศึกษาขั้นสูงต่อในมหาวิทยาลัย แม้ในมหาวิทยาลัยต่างประเทศโดยเฉพาะที่กรุงโรม และให้ไปศึกษาในสถาบันศึกษาอื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อว่าศาสนจักรใหม่ ๆ ที่ตั้งขึ้นจะได้มีพระสงฆ์ที่มาจากคณะสงฆ์พื้นเมืองและมีความรู้และความเชี่ยวชาญอันเหมาะสมไว้ใช้สำหรับปฏิบัติหน้าที่ที่ค่อนข้างยากของพระศาสนจักร.
ที่ใดที่สภาสังฆราชเห็นสมควร ก็ให้ฟื้นฟูตั้งตำแหน่งสังฆานุกร
โดยถือเป็นสภาพครองชีวิตอย่างถาวรตามบทบัญญัติของสังฆธรรมนูญว่าด้วยพระศาสนจักร. แท้จริงเป็นการสมควรที่บุคคลซึ่งปฏิบัติหน้าที่อุปสงฆ์จริง ๆ โดยเทศน์สอนพระวาจาที่บุคคลซึ่งปฏิบัติหน้าที่อุปสงฆ์จริง ๆ โดยเทศน์สอนพระวาจาของพระเป็นเจ้าในฐานะสอนคำสอนก็ดี หรือปกครองประชาคมคริสตชนไกล ๆ ในนามของเจ้าอาวาสหรือสังฆราชก็ดี หรือปฏิบัติงานเมตตาจิตอยู่ในกิจการของสังคมสงเคราะห์หรือบรรเทาทุกข์ก็ดี ได้รับการชุบให้แข็งแรงด้วยการปกมือซึ่งสืบมาตั้งแต่สมัยอัครสาวกและอยู่ใกล้ชิดกับพระแท่นยิ่งขึ้น เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างได้ผลดียิ่งขึ้นอาศัยพระหรรษทานพิเศษของศีลสังฆานุกร.
การอบรมผู้สอนคำสอน
๑๗. ผู้สอนคำสอนทั้งชายและหญิงจำนวนมากมายที่ได้รับใช้งานของมิสซังติดต่อกับคนต่างศาสนาอย่างดียิ่งนั้น
ก็สมได้รับคำชมสรรเสริญด้วยเช่นเดียวกัน. ผู้สอนคำสอนเหล่านี้มีจิตตารมณ์ของการเผยแพร่ธรรม ได้ทำงานเหน็ดเหนื่อยมากมายนับเป็นการช่วยเหลืออย่างเยี่ยมยอดและจำเป็นอย่างเด็ดขาดเพื่อเผยแพร่ความเชื่อและพระศาสนจักร.
ในปัจจุบันนี้เนื่องจากมีบรรพชิตน้อยสำหรับเทศนาสอนฝูงคนมากมายและทำงานอภิบาลสัตบุรุษ
หน้าที่ของผู้สอนคำสอนจึงมีความสำคัญมาก. ฉะนั้นการอบรมผู้สอนคำสอนจึงต้องทำอย่างดีและให้เหมาะกับความเจริญทางวัฒนธรรม จนเขาสามารถปฏิบัติหน้าที่ของเขาได้อย่างดีที่สุด ในฐานะเป็นผู้ร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพของพระสงฆ์ แม้ว่าหน้าที่ของเขาจะยิ่งยุ่งซับซ้อนเพราะมีภาระใหม่และกว้างขวางมากขึ้น.
ด้วยเหตุนี้ควรเพิ่มโรงเรียนประจำสังฆมณฑลและประจำภาคให้มากขึ้น ผู้ฝึกหัดเป็นผู้สอนคำสอนจะได้ขะมักเขม้นศึกษาคำสอนคาทอลิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องพระคัมภีร์และพิธีกรรม
อีกทั้งจะได้เรียนวิธีอธิบายคำสอนและการปฏิบัติทางด้านอภิบาลสัตบุรุษ กับยังจะได้ฝึกให้รู้จักขนบประเพณีของ คริสตชน
และพยายามโดยไม่หยุดยั้งที่จะถือความศรัทธาและเจริญชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์. นอกจากนั้นยังควรจัดให้มีการประชุมหรือการสอนพิเศษ ซึ่งจะอำนวยให้ผู้สอนคำสอนมีโอกาสได้ชุบตัวใหม่ในกฎระเบียบและวิชาที่เป็นประโยชน์แก่งานในหน้าที่ของเขาตามเวลาที่กำหนด และได้หล่อเลี้ยงกับบำรุงชีวิตฝ่ายวิญญาณของเขาให้แข็งแรง. อนึ่งสำหรับผู้ที่อุทิศตนอย่างสิ้นเชิงแก่งานนี้ ควรจัดให้เขาได้รับค่าจ้างอย่างยุติธรรมเพื่อมีฐานะชีวิตอย่างสมควรและได้รับการประกันความมั่นคงทางสังคมโดยใช้เงินอุดหนุนพิเศษของสมณกระทรวงเผยแพร่ความเชื่อ. สภาสังคายนานี้ปรารถนาให้จัดให้มีการอบรมและทำนุบำรุงหมู่ผู้สอนคำสอนอย่างสมควร ที่เห็นว่าจำเป็นและสมควรก็ตั้งสถาบันอย่างหนึ่งขึ้นสำหรับช่วยผู้สอนคำสอน.
นอกจากนั้น
คริสตจักรต่าง ๆ ควรจะกตัญญูสำนึกถึงคุณค่าของงานที่บรรดาผู้ช่วยสอนคำสอนได้ทำด้วยน้ำใจกว้างขวางและคริสตจักรต่าง ๆ นั้นก็ยังต้องการให้เขาช่วยอยู่. คนเหล่านี้เป็นผู้นำในหมู่คณะและเป็นผู้สอนคำสอน เพราะฉะนั้นต้องสอดส่องเอาใจใส่การเรียนคำสอนและการอบรมฝ่ายวิญญาณของเขาตามสมควร. นอกจากนี้ ในที่ที่เห็นสมควร เป็นที่พึงปรารถนาให้มีการมอบหนังสือรับรองเป็นทางการ (Canonic mission) อย่างเปิดเผยในระหว่างจารีตพิธีกรรม แก่ผู้สอนคำสอนที่ได้รับการอบรมอย่างพอเพียง เพื่อเขาจะได้ทำการรับใช้ความเชื่อในหมู่สัตบุรุษโดยมีอำนาจมากยิ่งขึ้น.
ส่งเสริมชีวิตนักบวช
๑๘. แต่พอพระศาสนจักรปลูกฝังลงไปในที่ใด ควรเอาใจใส่ส่งเสริมการถือชีวิตนักบวช.
การถือชีวิตนักบวชมิใช่แต่ช่วยงานธรรมทูตอย่างประเสริฐและจำเป็นยิ่งเท่านั้น แต่อาศัยการถวายตัวอย่างใกล้ชิดกว่าแด่พระเป็นเจ้าในพระศาสนจักร ยังแสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งและเข้าใจดีว่ากระแสเรียกของคริสตชนมีลักษณะภายในเป็นอย่างไร.
คณะนักบวชต่าง ๆ ซึ่งทำงานเพื่อปลูกฝังพระศาสนจักรและอิ่มอาบด้วยคุณสมบัติลึกล้ำต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติของประเพณีนิยมลึกซึ้งของพระศาสนจักรนั้น
ต้องพยายามที่จะระบายและถ่ายทอดคุณสมบัติเหล่านั้นออกมาตามลักษณะและคุณสมบัติของแต่ละชาติ. เขาต้องพิจารณาว่า ประเพณีบำเพ็ญพรตและรำพึงภาวนา ซึ่งบางทีพระเป็นเจ้าเคยทรงบันดาลให้เกิดเป็นเชื้อขึ้นในวัฒนธรรมโบราณต่าง ๆ ก่อนเวลาประกาศข่าวดีนั้น อาจนำมาใช้ในการถือชีวิตคริสตชนได้อย่างไร.
ในคริสตจักรที่ตั้งขึ้นใหม่
จะต้องบำรุงการถือชีวิตนักบวชแบบต่าง ๆ ด้วยความเอาใจใส่ เพื่อแสดงให้เห็นภารกิจของพระคริสตเจ้ากับชีวิตของพระศาสนจักรในแง่ต่าง ๆ และเพื่อเตรียมสมาชิกให้ทำงานนั้นเป็นอย่างดี. อย่างไรก็ตามในเวลาประชุมสภา ให้พระสังฆราชสอดส่องระวังให้คณะนักบวชที่มีจุดหมายแพร่ธรรมอย่างเดียวกันมีเพิ่มมากขึ้นอีก จะเป็นที่เสียหายแก่การถือชีวิตนักบวชและการแพร่ธรรม.
ในที่นี้สมควรจะกล่าวเป็นพิเศษถึงการริเริ่มต่าง ๆ ที่พยายามจะให้ชีวิตรำพึงภาวนาหยั่งรากลึกลงไป.
บางคณะยังรักษาส่วนประกอบสำคัญของสถาบันฤาษีไว้ พยายามจะปลูกฝังประเพณีเก่าแก่ในคณะของเขา; บางคณะกลับไปถือวิธีที่ซื่อกว่าของฤาษีโบราณ แต่ทุกคณะจะต้องพยายามดัดแปลงให้เหมาะสมเข้ากับสภาพในท้องที่ของตน. เนื่องจากชีวิตรำพึงภาวนาขึ้นอยู่กับการที่พระศาสนจักรได้ดำรงอยู่อย่างสมบูรณ์ จึงต้องฟื้นฟูชีวิตรำพึงภาวนานั้นขึ้นในคริสตจักรที่ตั้งขึ้นใหม่ทั่วไป.
|