หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พระธรรมนูญ ว่าด้วยพระศาสนจักรในโลกสมัยนี้

พระธรรมนูญ พระสมณกฤษฎีกา
และคำแถลงแห่ง
สภาสังคายนา
เล่มที่ 5

อารัมภบท
๑. พระศาสนาจักรมีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับครอบครัวมนุษย์ทั้งหมด

ความชื่นชมและความหวัง  ความโศกเศร้าและความกังวลของมนุษย์ในสมัยนี้  เป็นต้นของคนยากจนและผู้มีความทุกข์เข็ญทั่วไป  ย่อมถือว่าเป็นความชื่นชมและความหวัง เป็นความโศกเศร้าและความกังวล ของผู้เป็นศิษย์ของพระคริสตเจ้าด้วยและไม่มีสิ่งใดที่เป็นของมนุษย์อย่างแท้จริงจะไม่ส่งเสียงสะท้อนขึ้นในดวงใจของเขา  ด้วยว่าประชาคมคริสตชนนั้นประกอบด้วยมนุษย์ซึ่งรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวใน     พระคริสตเจ้าถูกพระจิตชักจูงให้เดินไปยังพระราชัยของพระบิดาและเป็นผู้ถือสารแห่งความรอด  ซึ่งจะต้องแจ้วให้มนุษย์ทุกคนทราบ  เพราะเหตุนี้  จึงเห็นได้ชัดว่า  ประชาคมคริสตชนเกี่ยวพันกับมนุษยชาติและประวัติของมนุษย์อย่างใกล้ชิดและอย่างแท้จริง

๒. สภาสังคายนาพูดกับใคร ?

๑. เพราะเหตุนี้ เมื่อได้พยายามศึกษาระหัสธรรมเรื่องพระศาสนจักรให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นแล้ว  บัดนี้    สภาสังคายนาวาติกันที่ ๒ ไม่ลังเลใจที่จะพูด มิใช่กับผู้เป็นลูกของพระศาสนจักรพวกเดียวและกับบรรดา  ผู้ที่เรียกขานพระนามของพระคริสตเจ้าเท่านั้น แต่ขอพูดกับมนุษย์ทั่วไปคือ อยากชื้แจงให้ทุกคนเห็นว่าสภาสังคายนานี้มีความเข้าใจเรื่องพระศาสนจักดำรงอยู่แล้วปฏิบัติการในโลกนี้อย่างไร

๒. ฉะนั้น สภาสังคยนานี้จึงเพ่งมองดูโลก ของมนุษย์หรืออีกนัยหนึ่ง  ครอบครัวของมนุษย์ทั้งหมดพร้อมด้วยสิ่งต่างๆ ทั่วไปที่ครอบครัวมนุษย์นั้นอาศัยร่วมอยู่  เป็นโลกซึ่งเป็นสถานที่อุบัติของประวัติศาสตร์แห่งชาติมนุษย์  เป็นโลกที่แสดงให้เห็นความมานะอุตส่าห์  ความพ่ายแพ้และชัยชนะของมนุษย์ เป็นโลกที่สัตบุรุษคริสตชนเชื่อว่า  ได้สร้างมาและบำรุงรักษาไว้ด้วยความรักกรุณาของพระผู้สร้าง เป็นโลกที่ตกอยู่ในความเป็นทาสของบาปก็จริง  แต่พระคริสตเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขนและกลับฟื้นคืนพระชนม์ขึ้นมา  ได้ทรงล้างทำลายอำนาจของมารเจ้าเล่ห์และได้กอบกู้โลกนั้นเพื่อให้เปลี่ยนโฉมไปตามแผนการของพระเป็นเจ้า แล้วบรรลุถึงจุดหมายปลายทาง

๓. การรับใช้มนุษย์

๑. ทุกวันนี้  มนุษยชาติมักพิศวงงงงวยในสิ่งที่ตนค้นพบและในความสามารถของตนเอง แต่ก็ยังถามตนด้วยความกระวนกระวายบ่อยๆ  เกี่ยวกับวิวัฒนาการปัจจุบันของโลกเกี่ยวกับตำแหน่งและบทบาทของมนุษย์ในจักรวาล  เกี่ยวกับความหมายของความพยายามส่วนตัวและส่วรรวมของมนุษย์ที่สุดเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของสรรพสิ่งและของมนุษยชาติเพราะเหตุนี้  สภาสังคยนาซึ่งเป็นองค์พยานประกาศและนำทางความเชื่อของประชากรทั้งมวลของพระเป็นเจ้าได้ทรงรวบรวมไว้ ไม่สามาถจะแสดงความร่วมน้ำใจและความรักนับถือต่อครอบครัวทั้งหมดซึ่งประชากรนี้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งให้ดีได้ยิ่งกว่าที่จะเจรจากับมนุษยชาติถึงปัญหาต่างๆ เหล่านี้  โดยอาศัยความสว่างแห่งพระวรสารกับให้มนุษยชาติพึ่งอำนาจช่วยให้รอด ซึ่งพระศาสนจักรที่พระจิตทรงนำไปได้รับจากผู้สถาปนาของตน ด้วยว่า  ต้องช่วยมนุษย์ให้รอดและต้องรื้อฟื้นปรับปรุงสังคมมนุษย์ขึ้นใหม่  ด้งนั้นมนุษย์นี้แหละซึ่งถ้าพิจารณาหมดทั้งตัว  ก็มีกายกับวิญญาณ  มีใจกับมโนธรรม  และมีความคิดกับเจตจำนงนั้น จะเป็นหัวใจของคำบรรยายของเราทั้งหมดต่อไปนี้

๒. ด้วยเหตุนี้  เมื่อประกาศยกย่องกระแสเรียกกอันสูงส่งยิ่งของมนุษย์และเมื่อยืนยันว่า ในตัวมนุษย์มีเชื้อพืชพันธุ์ของพระเป็นเจ้า ก็เท่ากับสภาสังคยนาเสนอให้พระศาสนจักรร่วมมืออย่างจริงใจกับมนุษยชาติที่จะสถาปนาภราดรภาพสากลอันตรงกับกระแสเรียกนี้ขึ้น  พระศาสนจักรไม่มีความมักใหญ่  ใฝ่สูงทางโลก มีจุดประสงค์แต่ประการเดียว คือ โดยการนำของพระจิตผู้บรรเทาดำเนินงานของ          พระคริสตเจ้าต่อไปผู้ซึ่งเสด็จมาในโลกเพื่อเป็นพยานประกาศความจริง เพื่อช่วยมนุษย์ให้รอด  ไม่ใช่สำหรับลงโทษ, เพื่อรับใช้ผู้อื่น ไม่ใช่ให้คนอื่นรับใช้ตน