เวลาอันศักดิ์สิทธิ์
๑๙. ตั้งแต่บัดนี้ไป เป็นหน้าที่ของสภาสังคายนาสากลหรือพระสันตะสำนักเท่านั้นที่จะเลื่อนหรือยุบเลิกวันฉลองที่ใช้สำหรับทุกคริสตจักรภาคตะวันออก
ส่วนวันฉลองสำหรับแต่ละคริสตจักรนั้น นอกจากพระสันตะสำนักแล้ว เป็นหน้าที่ของสมัชชาสังฆราชที่พระสังฆัยกาหรืออัครสังฆราชเรียกประชุม ที่จะตั้งเลื่อน หรือยุบเลิก โดยต้องคำนึงตามสมควรถึงเขตทั้งหมด ตลอดจนคริสตจักรอื่น ๆ
แต่ละแห่งด้วย
๒๐. จนกว่าคริสตชนทั้งหลายจะบรรลุถึงการตกลงเรื่องทำการฉลองวันปัสกาในวันเดียวกันทุกฝ่าย ในระหว่างนี้เพื่อส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวระหว่างบรรดาคริสตชนที่อยู่ในเขตเดียวกันหรือเป็นชาติเดียวกัน
เป็นหน้าที่ของพระสังฆัยกาหรือสมณะผู้มีอำนาจสูงสุดในท้องที่ที่จะตกลงทำการฉลองปัสกาในวันอาทิตย์เดียวกัน โดยความเห็นชอบพร้อมกันและปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
๒๑.
สัตบุรุษผู้ใดอยู่นอกเขตหรือดินแดนที่ใช้จารีตของตน ย่อมปฏิบัติตามกฎที่ใช้อยู่ในที่ที่เขาอาศัยอยู่นั้นได้อย่างเต็มที่ ในส่วนที่เกี่ยวกับบัญญัติต้องถือเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ ในครอบครัวที่สองฝ่ายถือจารีตคนละอย่าง
อนุญาตให้ถือบัญญัตินี้ตามจารีตของฝ่ายเดียวเท่านั้นได้
การทำวัตร
๒๒. ผู้ได้รับศีลบวชและนักบวชชาวตะวันออกต้องทำการสรรเสริญพระเป็นเจ้าตามข้อกำหนด และประเพณีนิยมในกฎวินัยของตน
เพราะการสรรเสริญพระเป็นเจ้านั้นเป็นสิ่งที่ได้รับการเทิดทูนอย่างสูงในหมู่คริสตจักรภาคตะวันออก นับตั้งแต่โบราณกาลมา สัตบุรุษก็เช่นเดียวกัน
ตามแบบฉบับของบรรพบุรุษต้องตั้งใจสรรเสริญพระเป็นเจ้าอย่างศรัทธาตามกำลังความสามารถที่ทำได้
การใช้ภาษาพื้นเมือง
๒๓.
พระสังฆัยกากับสมัชชาสังฆราชของพระสังฆัยกาหรือสมณะผู้มีอำนาจสูงสุดของแต่ละคริสตจักรกับคณะฐานานุกรมของสมณะผู้มีอำนาจสูงสุดนี้ มีสิทธิ์จะกำหนดกฎเกณฑ์การใช้ภาษาในการประกอบพิธีกรรม และยังมีสิทธิ์จะอนุมัติคำแปลตัวบทต่าง ๆ
เป็นภาษาพื้นเมือง โดยรายงานให้พระสันตะสำนักทราบ
ความสัมพันธ์กับพี่น้องในบรรดาคริสตจักรที่แตกแยกไป
๒๔. บรรดาคริสตจักรภาคตะวันออกที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระสันตะสำนักที่กรุงโรมแล้ว
มีหน้าที่เป็นพิเศษต้องส่งเสริมเอกภาพของคริสตชนทุกคน เป็นต้นของชาวตะวันออกตามหลักเกณฑ์ของพระสมณกฤษฎีการว่าด้วยสากลสัมพันธภราแห่งสภาสังคายนานี้ ก่อนอื่น ต้องส่งเสริมการสวดภาวนา การเจริญชีวิตเป็นตัวอย่างดี
การถือตามประเพณีนิยมโบราณของชาวตะวันออกอย่างเคร่งครัด การรู้จักกันและกันให้ดียิ่งขึ้น การร่วมมือกันและยกย่องนับถือสิ่งของและความรู้สึกนึกคิดอย่างฉันพี่น้อง
๒๕.
สำหรับชาวตะวันออกที่แตกแยกไปแล้วเข้ามาในเอกภาพแห่งพระศาสนจักรคาทอลิกด้วยอำนาจแห่งพระหรรษทานของพระจิตนั้น ไม่ต้องเรียกร้องให้เขาทำอะไรมาก เพียงแต่ให้เขาประกาศยอมรับนับถือความเชื่อคาทอลิกก็พอแล้ว
เพียงแต่ให้เขาประกาศยอมรับนับถือความเชื่อคาทอลิกก็พอแล้ว และเนื่องจากในหมู่ชาวตะวันออก พระสงฆ์ของเขาเป็นผู้ได้รับศีลบวชอย่างสมบูรณ์ พระสงฆ์เหล่านี้ถ้าเข้ามาในเอกภาพแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก
ก็ทำหน้าที่พระสงฆ์โดยเฉพาะของเขาได้ตามกฎที่สมณะผู้มีอำนาจตั้งไว้
คารวกิจร่วมกัน
๒๖. พระบัญญัติของพระเป็นเจ้าห้ามกระทำคารวกิจร่วมกับคนถือลัทธิศาสนาอื่น
ถ้าคารวกิจร่วมกันนั้นเป็นผลร้ายต่อเอกภาพแห่งพระศาสนจักร หรือเป็นการยอมรับเชื่อความหลงผิดเป็นทางการหรือทำให้เกิดอันตรายที่จะห่างเหินจากความเชื่อเป็นที่สะดุดแก่ผู้อื่น และทำให้ลัทธิศาสนา ต่าง ๆ
ว่าดีเท่ากันทั้งนั้น แต่ทว่าในส่วนที่เกี่ยวกับชาวตะวันออกนั้น การปฎิบัติในด้านอภิบาลสัตบุรุษแสดงว่าเราสามารถและต้องพิจารณากรณีแวดล้อมต่าง ๆ ของแต่ละคนดูว่าไม่เกิดผลร้ายต่อ
เอกภาพของพระศาสนจักรและไม่ต้องเสี่ยงอันตราย แต่มีความจำเป็นเกี่ยวกับความรอดและเพื่อประโยชน์ของวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ บ่อยครั้งพระศาสนจักรคาทอลิกเคยใช้และยังใช้วิธีปฏิบัติที่ อ่อนโยน แล้วแต่กรณีแวดล้อมเกี่ยวกับเวลา สถานที่ และตัวบุคคล คือ หยิบยื่นสื่อความรอดและการแสดงความรักระหว่างคริสตชนด้วยกันให้แก่ทุกคน โดยอนุญาตให้มีส่วนร่วมในศีลศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ตลอดจนพิธีกรรมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ เมื่อพยายามดังนี้แล้ว เพื่อไม่เป็นการขัดขวางความรอดด้วยคำวินิจฉัยอันเคร่งครัด และเพื่อเป็นการส่งเสริมเอกภาพร่วมกับบรรดาคริสตจักรภาคตะวันออกที่แตกแยกไปจากเรา สภาสังคายนา ได้กำหนดให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
๒๗. เมื่อมีการวางหลักเกณฑ์ข้างต้นไว้ดังนี้แล้ว จะโปรดศีลอภัยบาป ศีลมหาสนิท และศีลเจิมคนป่วยให้แก่คริสตชนชาวตะวันออกที่อยู่ในสภาพแตกแยกจากพระศาสนจักรคาทอลิกโดยบริสุทธิ์ใจก็ได้
ถ้าเขาขอรับเองและได้เตรียมตัวอย่างถูกต้อง ยิ่งกว่านั้น ยังอนุญาตให้ชาวคาทอลิกขอรับศีลสามประการนี้ได้จากสมณะผู้มีอำนาจซึ่งมิใช่คาทอลิก แต่ในคริสตจัการของเขาศีลศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นศีลที่สมบูรณ์
และให้ขอรับได้ทุกครั้งที่จำเป็นและมีประโยชน์อย่างแท้จริงแก่วิญญาณ เพราะสุดวิสัยหรือเกือบสุดวิสัยที่จะไปหาพระสงฆ์คาทอลิกได้
๒๘. เมื่อมีการวางหลักเกณฑ์เช่นนี้แล้ว การร่วมในพิธีกรรม
สถานที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ระหว่างชาวคาทอลิกกับพี่น้องชาวตะวันออกที่แตกแยกออกไป ก็อนุญาตให้ทำได้เมื่อมีเหตุผลอันสมควร
๒๙.
ขอฝากการลดหย่อนอนุโลมให้คาทอลิกในคารวกิจกับบรรดาพี่น้องในบรรดาคริสตจักรที่แตกแยกออกไปทางภาคตะวันออกนี้ ไว้ในความระมัดระวังดูแลสอดส่องของสมณะผู้ปกครองท้องที่ ทั้งนี้เพื่อว่าเมื่อได้ปรึกษาหารือกันเอง
และเมื่อได้ถามความเห็นของสมณะผู้ปกครองบรรดา คริสตจักรที่แยกออกไป ถ้าเห็นสมควรแล้วจะได้กำหนดการติดต่อสัมพันธ์ของบรรดา
คริสต์ศาสนิกชน โดยออกกฎและคำสั่งอันเหมาะสมและเกิดผลดี
|