๑๓. บัดนี้ เราจะพิจารณาถึงการแตกแยกสำคัญสองอย่างซึ่งทำความเสื่อมเสียแก่พระภูษาอันไม่มีรอยตะเข็บของพระคริสตเจ้า
การแตกแยกครั้งแรก ๆ เกิดขึ้นในภาคตะวันออก
เพราะการโต้แย้งข้อสัจจธรรมที่สภาสังคายนาที่เมืองเอเฟซัสและคัลเซโดนประกาศกก็มี หรือเพราะภายหลังบรรดาพระสังฆัยกาทางภาคตะวันออกกับพระสันตะสำนักที่กรุงโรมตัดขาดจากกัน ไม่ยอมร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันก็มี
หลังจากนั้นอีกสี่ร้อยกว่าปี ได้เกิดการแตกแยกกันอีกในภาคตะวันตก เนื่องจากเหตุการณ์
ต่าง ๆ ซึ่งเราเคยเรียกันว่าปฎิรูปของชาวโปรเตสตันท์ ผลที่เกิดก็คือ คนหลายคณะซึ่งร่วมกันเป็น ชาติ ๆ หรือเป็นนิกาย ๆ แตกแยกออกจากพระสันตะสำนักในบรรดานิกายที่ยังถือขนบประเพณีและระเบียบแบบแผนของคาทอลิกบางส่วนอยู่ ต้องนับว่านิกายอังกลีกันเป็นนิกายที่อยู่ในฐานะพิเศษ
แต่การแตกแยกทั้งหมดนี้แตกต่างในระหว่างกันเองมาก มิใช้แต่ในเรื่องกำเนิด เวลาและ สถานที่เท่านั้น
แต่ยังแตกต่างกันเฉพาะอย่างยิ่งเพราะปัญหาที่เกี่ยวกับความเชื่อและโครงการของพระศาสนจักรมีลักษณะและความสำคัญไม่เหมือนกันด้วย เพราะฉะนั้น สภาสังคายนา ซึ่งจะไม่ถือความแตกต่างระหว่างคณะคริสตชนคณะต่าง ๆ ไม่ได้
และจะมองข้ามความสัมพันธ์ซึ่งยังผูกมัดคณะคริสตชนเหล่านั้นอยู่ก็ไม่ได้ แม้ว่าจะแตกแยกออกไปแล้วก็ตาม จึงเห็นเป็นการสมควรจะเสนอข้อนึกคิดต่อไปนี้เพื่อจะได้ทำงานสากลสัมพันธภาพด้วยความฉลาดรอบคอบ
(ก)ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับบรรดาคริสตจักรตะวันออกโดยเฉพาะ
๑๔. จิตใจและประวัติของชาวตะวันออกโดยเฉพาะ
ตลอดเวลาหลายศตวรรษ คริสตจักรทางภาคตะวันออกและตะวันตกต่างเดินไปคนละทาง แต่ก็ยังรวมเป็นพี่เป็นน้องกันอยู่โดยมีความเชื่อและรับศีลศักดิ์สิทธิ์แบบเดียวกัน ถ้าหากว่ามีความเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับข้อความเชื่อหรือระเบียบวินัย พระสันตะสำนักที่กรุงโรมก็ย่อมใช้อำนาจตัดสินด้วยความเห็นชอบร่วมกัน ในบรรดาเหตุการณ์สำคัญซึ่งมีอยู่หลายเรื่อง สภาสังคายนา ใคร่จะเตือนทุกคนให้ระลึกถึงเรื่องหนึ่ง คือ ในภาคตะวันออกนั้นมีหลายคริสตจักรที่ขึ้นแก่บรรดาพระสังฆัยกาเป็นต้น : ในคริสตจักรเหล่านี้หลายคริสตจักรอ้างว่ามีอัครธรรมฑูตเป็นผู้ตั้งขึ้น ด้วยเหตุนี้บรรดาชาวตะวันออกจึงได้มีความเอาใจใส่ และทุกวันนี้ก็ยังมีความเอาใจใส่เป็นพิเศษที่จะรักษาความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง ซึ่งต้องมีอยู่ในระหว่างคริสตจักรท้องที่ต่าง ๆ เหมือนในระหว่างพี่น้องกัน ให้รวมอยู่ในความเชื่อและความรักอันเดียวกัน
เช่นเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่าตั้งแต่เดิมมา บรรดาคริสตจักรทางภาคตะวันออกมีขุมทรัพย์ประเสริฐ ซึ่งคริสตจักรทางภาคตะวันตกได้ตักตวงเอาของหลายสิ่งไปใช้ในพิธีกรรม ประเพณีและกฎหมาย
เรายังต้องรู้ด้วยความเคารพยกย่องว่าพระสัจจธรรมขั้นมูลฐานแห่งความเชื่อคริสตชนเรื่องพระตรีเอกภาพกับเรื่องพระวจนาถแห่งพระเจ้าซึ่งทรงรับเอากายเกิดเป็นมนุษย์จากพระนางพรหมจารีมารีย์ นั้น
ได้รับการนิยามประกาศในสภาสังคายนาประชุมกันในภาคตะวันออก เพื่อจะรักษาความเชื่อไว้คริสตจักรเหล่านี้ได้ทนทุกข์ลำเค็ญมามากและเขาก็ยังทนทุกข์ลำบากอยู่
คำสั่งสอนอันเป็นมรดกที่บรรดาอัครธรรมฑูตถ่ายทอดให้นั้น
ได้ตกถึงผู้รับโดยแบบและวิธี
ต่าง ๆ กัน และตั้งแต่ในระยะต้นกำเนิดของพระศาสนจักรทีเดียว คำสั่งสอนได้รับคำอธิบายต่างกัน แล้วแต่คุณวุฒิความสามารถของแต่ละคนและสภาพความเป็นอยู่ การแตกแยกทั้งหมดได้เกิดขึ้นเพราะเหตุผลเหล่านี้แหละและยังเกิดขึ้นเพราะเหตุผลภายนอกอื่น ๆ กับเพราะความไม่เข้าใจกันและไม่รักกันด้วย
ด้วยเหตุนี้สภาสังคายนาขอเตือนทุกคน เฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ตั้งใจทำงานสำหรับให้บรรดา
คริสตจักรทางภาคตะวันออกและพระศาสนจักรคาทอลิกรวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์ให้พิจารณาฐานะพิเศษของบรรดาคริสตจักรทางภาคตะวันออกเมื่อแรกเกิดและเวลากำลังเติบใหญ่ กับให้พิจารณาลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างคริสตจักรเหล่านี้กับพระสันตะสำนักที่กรุงโรมก่อนจะแตกแยกกัน และให้พิจารณาวินิจฉัยข้อต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยความเที่ยงธรรม กฎข้อนี้ ถ้าปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการเจรจาสังสรรค์ที่เราพยายามจะให้มีขึ้น
๑๕. ขนบประเพณีทางฝ่ายวิญญาณและทางพิธีกรรมของชาวตะวันออก
ใคร ๆ ย่อมทราบว่าคริสตศาสนิกชนชาวตะวันออกมีความรักเคารพสักเพียงใด เมื่อประกอบพิธีกรรมเป็นต้นพิธีสักการบูชาขอบพระคุณ อันเป็นบ่อเกิดชีวิตสำหรับพระศาสนจักรและเป็นมัดจำจะได้เกียรติมงคลในสวรรค์ เมื่อประกอบพิธีเช่นนี้ สัตบุรุษซึ่งรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระสังฆราชและโดยได้รับพระจิตก็จะเข้าถึงพระบิดาทางพระบุตร พระวจนาถผู้ทรงเกิดเป็นมนุษย์ สิ้นพระชนม์และได้รับพระเกียรติมงคลด้วยประการฉะนี้ เขาได้ร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระตรีเอกภาพและได้เป็น ผู้มีส่วนร่วมในธรรมชาติพระเป็นเจ้า ( ๒ ปต. ๑ : ๔ ) ฉะนั้น ด้วยการประกอบพิธีศีลมหาสนิทในแต่ละคริสตจักร พระศาสนจักร ของพระเป็นเจ้าก็ก่อร่างและเติบใหญ่ขึ้นและการร่วมสนิทเป็นอันหนึ่งอันเดียวระหว่างคริสตจักรต่าง ๆ สำแดงออกมาด้วยการประกอบพิธีร่วมกัน
ในการประกอบคารวกิจตามพิธีกรรมดังกล่าวนี้ คริสตศาสนิกชน ทางภาคตะวันออกขับร้องบทเพลงไพเราะจับใจยิ่งสรรเสริญพระนางมารีย์ผู้เป็นพรหมจารีเสมอ ซึ่งสภาสังคายนาที่เมือง
เอเฟซัสประกาศอย่างสง่าเป็นทางการว่าเป็นพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งพระเป็นเจ้า เพื่อให้ พระคริสตเจ้าได้รับการรับนับถือว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้าและเป็นบุตรมนุษย์อย่างแท้จริง ดังที่กล่าวในพระคัมภีร์ ; เขายังแสดงความเคารพนับถือเป็นอันมากต่อนักบุญมากมาย ซึ่งในจำนวน นักบุญเหล่านั้นมีบรรดาพระปิตาจารย์แห่งพระศาสนจักรสากลรวมอยู่ด้วย
คริสตจักรเหล่านี้แม้ว่าแยกออกไปแล้ว แต่เพราะสืบต่อมาจากอัครสาวกเป็นต้น จึงมีศีลศักดิ์สิทธิ์แท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศีลบวชและศีลมหาสนิทซึ่งให้คริสตจักรเหล่านั้นสนิทเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเราอย่างใกล้ชิด
เพราะเหตุนี้ การประกอบคารกิจร่วมกันบางอย่างในโอกาสเหมาะและโดยได้รับอนุมัติเห็นชอบจากผู้มีอำนาจในพระศาสนจักร จึงมิใช่สิ่งที่ทำได้เท่านั้นแต่ยังเป็นสิ่งที่ควรกำชับให้ทำด้วย
ในภาคตะวันออก
ยังได้พบเห็นขุมสมบัติอันได้แก่ขนบประเพณีอันดีงามทางฝ่ายจิตใจซึ่งแสดงออกมาเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการเป็นนักพรต แท้จริง ในภาคตะวันออกนั้น ตั้งแต่ในสมัยอัน
รุ่งเรืองของบรรดาพระปิตาจารย์ การถือชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์เป็นนักพรตเจริญงอกงาม และต่อไปก็แผ่ขยายเข้าไปในภาคตะวันตกจนเหมือนกับได้เป็นต้นกำเนิดของการถือชีวิตนักพรตของพวกลาติน
และต่อมายังทำให้การถือชีวิตนั้นมีกำลังเข้มแข็งขึ้นมาอีก เพราะเหตุนี้
จึงขอกำชับชาวคาทอลิกอย่างแข็งแรงให้หมั่นยิ่งขึ้นที่จะใช้ขุมสมบัติฝ่ายวิญญาณของบรรดาพระปิตาจารย์ชาวตะวันออกซึ่งสอนมนุษย์ให้รู้จักเพ่งพินิจรำพึงถึงเรื่องลึกล้ำของพระเป็นเจ้า
ทุกคนต้องรู้ว่าเป็นการสำคัญมากที่จะต้องรู้จัก เคารพรักษาและพัฒนามรดกอันประเสริฐยิ่ง ซึ่งได้แก่หนังสือเรื่องวิญญาณและพิธีกรรมของภาคตะวันออก เพื่อจะได้เก็บรักษาธรรมประเพณี
คริสตชนไว้อย่างครบถ้วน กับเพื่อจะให้คริสตศาสนิกชนตะวันออกและตะวันตกกลับคืนดีกัน
๑๖. ระเบียบวินัยโดยเฉพาะของชาวตะวันออก
ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที บรรดาคริสตจักรทางภาคตะวันออกถือตามกฎข้อบังคับโดยเฉพาะที่บรรดาพระปิตาจารย์และบรรดาสภาสังคายนา รวมทั้งเป็นสากลก็มิได้กำหนดขึ้น การที่มีประเพณีและธรรมเนียมต่าง ๆ กันนั้นไม่เป็นการขัดต่อเอกภาพของพระศาสนจักรแต่อย่างใดเลยดังที่ได้กล่าวมาแล้ว การมีสิ่งแตกต่างกันเช่นนี้ กลับเป็น สิ่งประกอบทำให้พระศาสนจักรสวยงามและเป็นเครื่องช่วยอย่างประเสริฐ ให้พระศาสนจักรถือภาระหน้าที่ของตนสำเร็จลุล่วงไปเสียอีก เพราะเหตุนี้เพื่อขจัดข้อสงสัยใด ๆ ที่อาจมีขึ้น สภาสังคายนาขอประกาศอย่างสง่าเป็นทางการว่า บรรดาคริสตจักรทางภาคตะวันออกนั้น ถ้าสำนึกว่าพระศาสนจักรทั้งหมดต้องมีเอกภาพแล้ว ก็มีอำนาจที่จะปกครองตนตามบทบัญญัติของตนเอง ซึ่งตรงกังอุปนิสัยของสัตบุรุษในปกครองมากกว่า และเหมาะสำหรับส่งเสริมคุณประโยชน์ของวิญญาณมากกว่า การถือหลักเกณฑ์ดั้งเดิมข้อนี้อย่างเคร่งครัด (ซึ่งตามความจริงแล้วไม่ได้มีการถือเสมอไป ) เป็นเงื่อนไขล่วงหน้าประการหนึ่งที่จะเป็นอย่างเด็ดขาดสำหรับฟื้นฟูเอกภาพ
๑๗. อุปนิสัยโดยเฉพาะของชาวตะวันออกเกี่ยวกับปัญหาเรื่องคำสอนต่าง ๆ เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นเกี่ยวกับความถูกต้องที่จะมีคารวกิจและระเบียบวินัยต่าง ๆ กันนั้น
ต้องนำมาใช้กับการอธิบายคำสอนทางด้านเทวศาสตร์ด้วยเช่นเดียวกัน อันที่จริง เมื่อศึกษาข้อความจริงที่พระทรงเปิดเผยให้รู้นั้นอย่างถ่องแท้ตำราและวิธีต่าง ๆ ที่จะรู้และอธิบายเรื่องของพระเป็นเจ้า
ย่อมไม่เหมือนกันในภาคตะวันออกและภาคตะวันตก
เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่อัตถ์ลึกซึ้งที่ไขแสดงบางแง่บางมุม บางครั้งฝ่ายหนึ่งเข้าใจและอธิบายได้ดีกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจนเราต้องถือว่าคำอธิบายทาง เทวศาสตร์ที่ต่างกันของทั้งสองฝ่ายนั้น บ่อยครั้งเป็นคำอธิบายที่ประกอบกันให้สมบูรณ์มากยิ่งกว่าที่จะขัดแย้งกัน ส่วนประเพณีที่เป็นของชาวตะวันออกแท้ ๆ เราต้องยอมรับว่าได้ฝังรากหยั่งลึกลงไปในพระคัมภีร์แล้วอย่างน่าพิศวง ประเพณีเหล่านั้นได้รับการส่งเสริมและแสดงออกมาในชีวิตพิธีกรรม หล่อเลี้ยงอยู่ด้วยประเพณีอันมีชีวิตชีวาของบรรดาอัครธรรมฑูต หนังสือของบรรดาพระปิตาจารย์ชาวตะวันออกและของนักประพันธ์เรื่องฝ่ายพระจิต ประเพณีเหล่านั้นยังโน้มเอียงไปในทางจะกลายเป็นกฎสำหรับรำพึงถึงความจริงของคริสตชน สภาสังคายนา ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่ชาว ตะวันออกเป็นอันมาก ซึ่งเป็นลูกของพระศาสนจักรคาทอลิกและรักษาไว้ซึ่งมรดกนี้กับปรารถนาที่จะดำรงชีวิตอยู่ด้วยมรดกนี้อย่างเคร่งครัดและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นนั้น เวลานี้ก็ได้เจริญชีวิตเป็นอันหนึ่ง อันเดียวอย่างสมบูรณ์กับพี่น้องของเขาซึ่งถือประเพณีชาวตะวันตกแล้ว สภาสังคายนา ยังขอแถลงว่า มรดกทั้งหมดฝ่ายจิตใจและพิธีกรรม ฝ่ายระเบียบวินัยและเทวศาสตร์ที่มีอยู่ในธรรมประเพณีต่างๆ นั้นเป็นส่วนหนึ่งของลักษณะสากลและสืบมาจากอัครธรรมฑูตของพระศาสนจักรอย่างสมบูรณ์
๑๘. ข้อสรุป
เมื่อพิจารณาเรื่องทั้งหมดนี้เป็นอันดีแล้ว สภาสังคายนา ขอยืนยันอย่างสง่าดังที่สภาสังคายนาครั้งก่อน ๆ รวมทั้งบรรดาพระสันตะปาปาได้แถลงไว้ว่า เพื่อที่จะฟื้นฟูหรือเพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวหรือเอกภาพน้น ต้องอย่า บังคับอะไรที่ไม่จำเป็น (กจ. ๑๕ : ๒๘ ) สภาสังคายนา ปรารถนาอย่างร้อนรนให้ต่อไปนี้ สถาบันและกิจการรูปต่าง ๆ ในพระศาสนจักรจงพยายามทุกทางที่จะค่อย ๆ บรรลุถึงเอกภาพนี้เป็นต้นด้วยการถวายและการเจรจาสังสรรค์ฉันพี่น้องเกี่ยวกับคำสอนและปัญหาการอภิบาลสัตบุรุษซึ่งเป็นเรื่องรีบด่วนที่สุดในสมัยของเรา ในทำนองเดียวกัน สภาสังคายนา ขอกำชับผู้อภิบาลสัตบุรุษและสัตบุรุษแห่งพระศาสนจักรคาทอลิกให้ทำการติดต่อกับผู้ที่มิได้อยู่ในภาคตะวันออกแล้ว แต่ต้องอยู่ห่างไกลจากปิตุภูมิของตน ถ้าทำได้ดังนี้ การร่วมมือฉันพี่น้องก็จะมีมากขึ้น จิตตารมณ์แห่งความรักกันจะขจัดเสียซึ่งการแข่งขันกันทุกแบบ ถ้าหากกระทำการทั้งหมดด้วยใจกว้าง สภาสังคายนา หวังใจว่ากำแพงที่กั้นระหว่างคริสตจักรตะวันออกกับคริสตจักรตะวันตกจะพังลงแล้วจะมีสำนักอาศัยแต่สำนักเดียวซึ่งตั้งอย่างมั่นคงขึ้นบนหินมุมคือองค์พระเยซูคริสตเจ้าซึ่งทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
( ข ) บรรดาคริสตจักรและนิกายต่าง ๆ ที่แตกแยกออกไปในภาคตะวันตก
๑๙. ฐานะพิเศษของนิกายเหล่านี้ บรรดาคริสตจักรและนิการซึ่งในสมัยวิกฤติกาลใหญ่ที่เริ่มเกิดขึ้นในภาคตะวันตกตอนปลายสมัยกลางและในเวลาต่อมา
ได้แตกแยกจากพระสันตะสำนักที่โรมนั้น ยังคงรวมอยู่กับพระศาสนจักรคาทอลิกด้วยความเกี่ยวดองเป็นพิเศา
กับด้วยความสัมพันธ์ของประชากรที่เจริญชีวิตอยู่ในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของพระศาสนจักรเป็นเวลาช้านานตลอดเวลาในศตวรรษที่แล้ว ๆ มา
โดยเหตุที่คริสตจักรและนิกายเหล่านี้ ซึ่งมีต้นกำเนิด
ข้อคำสอนและชีวิตทางฝ่ายวิญญาณไม่เหมือนกันนั้น มิใช่แต่แตกต่างกับเราอย่างมากมายเท่านั้น แต่ยังแตกต่างในระหว่างพวกเดียวกันเองด้วย ดังนั้นจึงเป็นการยากมากที่จะให้คำนิยามคริสตจักรเหล่านี้อย่างถูกต้อง
และเราก็มิใช่ตั้งใจจะให้คำนิยามดังกล่าวในที่นี้
แม้ว่าการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสากลสัมพันธภาพและความปรารถนาที่จะคืนดีกับ
พระศาสนจักรคาทอลิกมิได้เกิดขึ้นในที่ทั่วไปแต่เราหวังว่าในที่สุด ทุกคนจะมีความโน้มเอียงไปทางสากลสัมพันธภาพและต่างฝ่ายต่างจะมีความเคารพยกย่องต่อกันและกันมากขึ้น
อย่างไรก็ดี
ต้องยอมรับว่าคริสตจักรและนิกายเหล่านี้ฝ่ายหนึ่ง กับพระศาสนจักรคาทอลิกฝ่ายหนึ่ง แตกต่างกันมากมิใช่แต่ในเรื่องประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ จิตวิทยาและวัฒนธรรมเท่านั้น
แต่ยังแตกต่างกันเป็นต้นในเรื่องการตีความอธิบายข้อความจริงที่ไขแสดง แม้จะแตกต่างกันดังนี้ เพื่อให้ทำการติดต่อเจรจาด้วยสากลสัมพันธภาพได้ง่ายขึ้น
เราใคร่จะชี้แจงบางข้อซี่งสามารถและต้องใช้เป็นรากฐานและเครื่องส่งเสริมการติดต่อเจรจาสังสรรค์ที่กล่าวนี้
๒๐. ความเชื่อถึงพระคริสตเจ้า
ใจเราเพ่งเล็งก่อนอื่นถึงบรรดาคริสตชนที่ยอมรับนับถืออย่างเปิดเผยว่าพระเยซูคริสตเจ้าเป็นพระเจ้าและเจ้านาย เป็นคนกลางผู้เดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ เพื่อพระเกียรติมงคลของพระเจ้าหนึ่งเดียว พระบิดา พระบุตร และพระจิต
จริงอยู่ เรารู้ว่ามีข้อแตกต่างกันอยู่มาก เมื่อเปรียบกับคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกแม้ในเรื่องพระคริสตเจ้า พระวจนาถที่มาเกิดเป็นมนุษย์
กับในเรื่องการไถ่บาป ตลอดจนในอัตถ์ลึกซึ้งและหน้าที่ของ พระศาสนจักร รวมถึงบทบาทของพระนางมารีย์ในการไถ่บาปด้วย อย่างไรก็ดี เรายังมีความยินดีที่เห็นพี่น้องที่แตกแยกออกไปของเราถือว่าพระคริสตเจ้าทรงเป็นต้นกำเนิดและศูนย์กลางของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของพระศาสนจักร ; ความปรารถนาที่จะร่วมสนิทกับพระคริสตเจ้ากระตุ้นเขามากยิ่งขึ้นเป็นลำดับให้แสวงหาเอกภาพและให้ประกาศยืนยันความเชื่อของเขาในท่ามกลางนานาชาติทั่วไป
๒๑. การศึกษาพระคัมภีร์
เพราะพี่น้องของเรารักเคารพ หรือเกือบจะเรียกได้ว่าบูชาพระคัมภีร์ เขาจึงศึกษาหนังสือศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างขยันหมั่นเพียรและไม่หยุดยั้ง ด้วยว่าข่าวดีเรื่องพระคริสตเจ้า เป็นกำลังของพระเป็นเจ้าที่นำความรอดมาถึงทุกคนที่มีความเชื่อ มาถึงชาวยิวก่อนแล้วถึงชาวกรีกด้วย (รม. ๑ : ๑๖ )
เขาภาวนาขอพระจิตช่วย
ในพระคัมภีร์นั่นแหละ เขาแสวงหาพระเป็นเจ้าที่เหมือนกับตรัสกับเขา อาศัยพระคริสตเจ้าผู้ซึ่งบรรดาประกาศกได้กล่าวทำนายถึงและเป็นพระวจนาถของพระเป็นเจ้าผู้ทรงอวตารมาเกิดเป็นมนุษย์เพราะเห็นแก่เรา ในหนังสือพระคัมภีร์นั้น เขาพิจารณาชีวิตของ พระคริสตเจ้าตลอดจนพระธรรมและกิจการที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อความรอดของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิจารณาเหตุการณ์ลึกล้ำเรื่องการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระองค์
แต่ถึงแม้คริสตศาสนิกชนที่แตกแยกไปจากเรา ยอมรับนับถืออำนาจของพระเป็นเจ้าในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม เขามีความคิดเห็นแตกต่างกับความคิดเห็นของเรา (และในหมู่เขาเองก็มีความคิดเห็นต่างกัน )
ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพระคัมภีร์กับพระศาสนจักร ในพระศาสนจักรนั้น ตามความเชื่อของชาวคาทอลิกผู้มีอำนาจแท้จริงในพระศาสนจักรที่จะสอนนั้นมีหน้าที่พิเศษในการอธิบายและประกาศพระวาจาที่เขียนไว้ของพระเป็นเจ้า
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในการเจรจาสังสรรค์เพื่อให้มีเอกภาพ พระวาจาของพระเป็นเจ้าก็เป็นเครื่องมือสำคัญในพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์ สำหรับบรรลุถึงเอกภาพซึ่งพระคริสตเจ้าทรงยื่นให้แก่มนุษย์ทุกคน
๒๒.
ชีวิตที่อาศัยศีลศักดิ์สิทธิ์
อาศัยศีลล้างบาปที่ประกอบพิธีอย่างถูกต้องตามที่ พระคริสตเจ้าทรงกำหนดและรับด้วยความเข้าใจและตั้งใจอันถูกต้อง มนุษย์ได้รับรวมเข้าอย่างแท้จริงกับพระคริสตเจ้า ผู้ถูกตรึงกางเขนและได้รับพระเกียรติมงคล เขาได้บังเกิดใหม่เพื่อมีส่วนในชีวิตของพระเจ้า ตามที่นักบุญเปาโลกล่าวว่า ท่านถูกฝังพร้อมกับพระองค์ในศีลล้างบาป และกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์ อาศัยความเชื่อในฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้าซึ่งบันดาลให้พระคริสตเจ้ากลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย ( คส.๒ : ๑๒ )
ฉะนั้น ศีลล้างบาปจึงเป็นศีลเครื่องผูกพันแห่งเอกภาพ ซึ่งมีอยู่ในระหว่างผู้ที่เกิดใหม่ด้วยศีลล้างบาป อย่างไรก็ดี ลำพังศีลล้างบาปเองเป็นแต่ต้นและจุดเริ่มต้น เพราะมุ่งที่จะได้ชีวิตสมบูรณ์ในพระคริสตเจ้า
ดังนั้นศีลล้างบาปจึงมีไว้สำหรับประกาศความเชื่ออย่างสมบูรณ์ สำหรับรวมเข้าอย่างสมบูรณ์ในแผนความรอด ดังที่พระคริสตเจ้ามีพระประสงค์ และที่สุดสำหรับรวมเข้าในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวอย่างสมบูรณ์แห่งศีลมหาสนิท
จริงอยู่
บรรดานิกายที่แตกแยกจากเราไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเราอย่างสมบูรณ์อันเนื่องมาจากศีลล้างบาป และเราเชื่อว่าเขาไม่ได้รักษาไว้ซึ่งแก่นแท้ของอัตถ์ลึกซึ้งเรื่องศีลมหาสนิทอย่างสมบูรณ์ เพราะเหตุสำคัญคือเขาไม่มีศีลบวช ถึงกระนั้นก็ดี เมื่อเขาประกอบพิธีระลึกถึงการสิ้นพระชนม์และการกลับฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสตเจ้า เขาประกาศว่าชีวิตคือการอยู่ร่วมสนิทกับพระคริสตเจ้า และเขาคอยการกลับมาอย่างรุ่งโรจน์ของพระองค์ ฉะนั้น ในการติดต่อเจรจากับเขาจะต้องพูดถึงคำสอนเรื่องพิธีระลึกถึงการเลี้ยงอาหารครั้งสุดท้ายของพระคริสตเจ้า ศีลศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ คารวกิจและภาระหน้าที่ต่าง ๆ ของพระศาสนจักร
๒๓. ชีวิตในพระคริสตเจ้า ชีวิตคริสตชนของพี่น้องเหล่านี้หล่อเลี้ยงด้วยความเชื่อถึง
พระคริสตเจ้า แข็งแรงขึ้นด้วยพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาปและการฟังพระวาจาของพระเป็นเจ้าและสำแดงออกมาด้วยการภาวนาอธิษฐานส่วนตัว ด้วยการรำพึงตามพระคัมภีร์ ด้วยชีวิตของครอบครัวคริสตชน ด้วยคารวกิจของหมู่คณะซึ่งชุมนุมกันเพื่อสรรเสริญพระเป็นเจ้า อันที่จริง บางครั้งคารวกิจของเขามีส่วนประกอบอันน่าเคารพซึ่งได้มาจากพิธีกรรมเก่าแก่ที่เคยเป็นของร่วมกันมา
ความเชื่อที่เขามีถึงพระคริสตเจ้าบังเกิดผลโดยเขาสรรเสริญและขอบพระคุณถึงพระพรที่ได้รับจากพระเป็นเจ้า
นอกจากนี้เขายังมีความสำนึกอย่างแก่กล้าต่อความยุติธรรม และมีความรักอย่างจริงใจต่อเพื่อนมนุษย์ ความเชื่ออย่างแรงกล้านี้ยังกระตุ้นให้เขาตั้งกิจการเป็นอันมากเพื่อบรรเทาความทุกข์เข็ญฝ่ายกายและจิตใจของมนุษย์ เพื่ออบรมเยาวชน เพื่อยกสภาพชีวิตทางสังคมให้ดีขึ้น และเพื่อสถาปนาสันติภาพถาวรขึ้นทั่วไป
แม้ว่าในหมู่คริสตศาสนิกชน มีหลายคนไม่เข้าใจพระวรสารในเรื่องปัญหาศีลธรรมอย่างเดียวกับชาวคาทอลิก อีกทั้งไม่ยอมรับวิธีอย่างเดียวกันสำหรับขบปัญหาที่ยุ่งยากมากของสังคมในทุกวันนี้ แต่เขาก็เหมือนเรา
ตั้งใจยึดมั่นในพระวาจาของพระคริสตเจ้าซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งพละกำลังของ
คริสตชน กับปฎิบัติตามที่นักบุญเปาโลสั่งว่า ท่านจะพูดเรื่องอะไรหรือกระทำกิจการใดก็ดี ก็ให้พูดให้ทำในนามของพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าเป็นการขอบพระคุณพระเป็นเจ้าพระบิดาทางพระองค์เถิด ( คส. ๓ : ๑๗ ) เช่นนี้ การติดต่อเจรจาด้วยสากลสัมพันธภาพก็อาจเริ่มทำได้ด้วยการปรึกษาหารือเกี่ยวกับการนำพระวรสารมาใช้ในปัญหาศีลธรรม
|