หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พระธรรมนูญ พระสมณกฤษฎีกา
และคำแถลงแห่งสภาสังคายนา เล่มที่ 4

บทที่  1 :  คำสอนของพระศาสนจักร

- - -  - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

 พระสมณกฤษฎีกาว่าด้วยเรื่องสื่อมวลชน

๓. เนื่องจากพระคริสตเจ้าทรงตั้งพระศาสนจักรคาทอลิกขึ้น เพื่อนำความรอดไปถึงมนุษย์ทุกคน และพระศาสนจักรจำเป็นต้องประกาศข่าวดีเรื่องพระคริสตเจ้า ดังนั้น พระศาสนจักร จึงถือเป็นหน้าที่ต้องประกาศข่าวดีแห่งความรอดโดยใช้สื่อมวลชน รวมทั้งต้องสอนมนุษย์ให้รู้จักใช้สื่อมวลชน รวมทั้งต้องสอนมนุษย์ให้รู้จักใช้สื่อมวลชนนั้นอย่างถูกต้องด้วย

ฉะนั้น พระศาสนจักร จึงมีสิทธิโดยกำเนิด ที่จะใช้และมีมือเหล่านี้ ไม่ว่าชนิดใด เท่าที่จำเป็นหรือมีประโยชน์สำหรับการอบรมคริสตชนและงานช่วยวิญญาณให้รอดไม่ว่าแบบใด พระสังฆราชมีหน้าที่ต้องอบรมและแนะนำสัตบุรุษให้ใช้เครื่องมือเหล่านี้ในแบบที่จะช่วยให้บรรลุถึงความรอดและความศักดิ์สิทธิ์ทั้งของตนเองและของครอบครัวมนุษย์ทั้งสิ้น

อนึ่ง เป็นหน้าที่ของฆราวาสเป็นต้นที่จะต้องทำให้เครื่องมือเหล่านี้มีคุณค่าตามมนุษยธรรมและคริสตธรรม เพื่อให้เป็นไปตามความหวังอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ และน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า

๔. เพื่อใช้เครื่องมือเหล่านี้โดยถูกต้อง เป็นการจำเป็นที่สุดที่ผู้ใช้เครื่องมือนั้น ทุกคนต้องรู้จักกฎศีลธรรมและนำมาประยุกต์ในเรื่องเหล่านี้โดยเคร่งครัด ฉะนั้นให้พิจารณาวัตถุ คือเรื่องแพร่หลายถ่ายทอดตามลักษณะโดยเฉพาะของเครื่องมือแต่ละอย่างและในขณะเดียวกันให้คำนึงถึงกรณีแวดล้อมต่าง ๆ ของการแพร่หลายถ่ายทอด ซึ่งได้แก่จุดหมาย บุคคล สถานที่ เวลา ฯลฯ เพราะกรณีแวดล้อมนั้น อาจเปลี่ยนลักษณะความดีของการแพร่หลายถ่ายทอดนั้นไปบ้าง หรืออย่างสิ้นเชิงทีเดียว อนึ่ง ขอให้คำนึงถึงอำนาจของเครื่องมือแต่ละอย่างด้วย กล่าวคือให้คำนึงถึงอำนาจโน้มน้าวใจที่เครื่องมือเหล่านั้น อาจมีมากจนถึงกับประชาชนเป็นต้นคนที่ไม่ได้ระวังตัว เกือบไม่สามารถจะสังเกตต้านทานและสลัดทิ้งเมื่อถึงคราวจำเป็น
๔. เป็นการจำเป็นอย่างที่สุด ที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนจะต้องมีมโนธรรมอันถูกต้องเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับปัญหาบางข้อซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันอย่างรุนแรงในสมัยของเรา
 
สิทธิที่จะหาข่าว

ปัญหาแรกได้แก่การหาข่าว หรืออีกนัยหนึ่งการเสาะหาและแพร่ข่าว เนื่องจากสังคมมนุษย์ทุกวันนี้เจริญก้าวหน้า และสมาชิกในสังคมมนุษย์เกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด จึงปรากฎชัดว่าการหาข่าวนั้นเป็นประโยชน์มากและส่วนใหญ่เป็นการจำเป็น จึงปรากฎชัดว่าการหาข่าวนั้นเป็นประโยชน์มากและส่วนใหญ่เป็นการจำเป็น ด้วยว่าการแพร่ข่าวและเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและเปิดเผยนี้นทำให้มนุษย์ทุกคนรู้เรื่องและเหตุการณ์เหล่านั้นเป็นอย่างดีอยู่ตลอดเวลา จึงสามารถมีส่วนร่วมในงานสาธารณประโยชน์อย่างได้ผลและสามารถทำงานเพื่อความเจริญก้าวหน้าของสังคมบ้านเมืองทั้งหมดได้ง่ายยิ่งขึ้น ฉะนั้น ในสังคมมนุษย์จึงมีสิทธิประการหนึ่งที่จะได้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่มนุษย์ จะเป็นคน ๆ ก็ดีหรือเป็นหมู่ ๆ ก็ดี แล้วแต่ฐานะของแต่ละคน อย่างไรก็ดีการใช้สิทธินี้อย่างถูกต้อง เรียกร้องให้เรื่องที่แพร่นั้นเป็นความจริงเที่ยงตรง และไม่ผิดต่อความยุติธรรมและด้วยความรักและยังเรียกร้องให้ใช้วิธีแพร่เรื่องนั้นอย่างสุจริตและอย่างสมควร คือให้เคารพกฎศีลธรรม ตลอดจนสิทธิอันชอบธรรมและศักดิ์ศรีของมนุษย์ทั้งในการหาและการแพร่ข่าวนั้น ด้วยว่าความรู้ไม่ใช่มีประโยชน์ทุกอย่าง แต่ “ความรักนั้นสิเสริมสร้างขึ้น “ ( ๑ คร. ๘ : ๑ )

ระเบียบศีลธรรมเป็นเอก

๖. ปัญหาที่สองได้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิของสิ่งที่เรียกว่าศิลปะกับกฎของศีลธรรม การโต้เถียงกันบ่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมากเกิดจากคำสอนที่ผิดเกี่ยวกับศีลธรรมและศิลปะ        สภาสังคายนาจึงขอประกาศว่า ทุกคนต้องถือระเบียบศีลธรรมเป็นเอกอย่างเด็ดขาด เพราะระเบียบศีลธรรมอย่างเดียวเท่านั้นอยู่เหนือและทำให้ระเบียบอื่น ๆ ทั้งหมดของมนุษย์ รวมทั้งศิลปะด้วย กลมกลืนเข้ากันอย่างเหมาะสม แม้ว่าระเบียบต่าง ๆ เหล่านั้นจะมีศักดิ์ศรีเพียงไรก็ตาม แท้จริง ระเบียบศีลธรรมอย่างเดียวเท่านั้นที่จะเข้าถึงธรรมชาติทั้งหมดของมนุษย์ ซึ่งพระเป็นเจ้าทรงสร้างมาให้รู้จักคิดหาเหตุผล และทรงเรียกไปยังจุดหมายเหนือธรรมชาติ ถ้ามนุษย์ถือระเบียบศีลธรรมอย่างครบถ้วนและซื่อสัตย์ระเบียบศีลธรรมนั้น จะช่วยนำมนุษย์ให้บรรลุถึงความดีพร้อมสมประสงค์และความสุขอย่างสมบูรณ์

การบรรยายความชั่ว

๗. ประการที่สาม การเล่าบรรยายหรือพรรณาความผิดต่อศีลธรรม ถ้าอาศัยสื่อมวลชน ก็สามารถช่วยให้เรารู้จักและศึกษาตัวมนุษย์ดียิ่งขึ้น กับสามารถช่วยแสดงและยกย่องความดีและความจริงให้ตรึงตาตรึงใจ โดยใช้ศิลปะทำให้รู้สึกตื่นเต้นตามสมควร ทั้งนั้นก็ดี เพื่อมิให้เป็นผลร้ายมากกว่าเป็นผลดีแก่วิญญาณ   สื่อมวลชน ต้องถือตามกฎศีลธรรมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกี่ยวกับเรื่องที่เรียกร้องความเคารพตามควร หรือกระตุ้นเตือนมนุษย์ที่อ่อนแอเพราะบาปกำเนิดให้เกิดความปรารถนามิดีได้ง่ายยิ่งขึ้น

มติมหาชน

 ๘.  เนื่องจากทุกวันนี้มติมหาชนมีอำนาจและอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงเหนือชีวิตทั้งส่วนตัวและของพลเมืองทุกคน จึงจำเป้นที่สมาชิกทุกคนในสังคมต้องปฎิบัติหน้าที่ตามความยุติธรรมและความรัก แม้ในเรื่องนี้ด้วย ฉะนั้น ขอให้ทุกคนพยายามใช้สื่อมวลชนสำหรับร่วมมือกันสร้างและแพร่มติมหาชนอันดีงาม

หน้าที่ของผู้ใช้

๙. ผู้ใช้สื่อมวลชนทุกคนกล่าวคือ ผู้อ่าน ผู้ดู และผู้ฟัง ต่างใช้เสรีภาพในการรับข่าวซึ่งกระจายไปด้วยเครื่องมือเหล่านี้ เขาจึงมีหน้าที่โดยเฉพาะที่จะเลือกอย่างถูกต้อง ในการเลือกนั้น      เขาจะต้องส่งเสริมสิ่งที่พร้อมด้วยคุณธรรม วิวัฒนธรรม และศิลปะ ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจเป็นเหตุหรือโอกาสให้เกิดความเสียหายทางวิญญาณสำหรับตนเอง หรืออาจเป็นตัวอย่างไม่ดีชักจูงคนอื่นให้ตกอยู่ในอันตราย ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้การติดต่อกลับเป็นอุปสรรคต่อความดีและส่งเสริมความชั่วร้าย เรื่องนี้โดยมากเกิดขึ้นเมื่อเราให้เงินสนับสนุรผู้ผลิตที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้ เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจแต่อย่างเดียว

ถ้าผู้ใช้สื่อมวลชนอยากถือตามกฎศีลธรรมแล้ว ก็ต้องไม่ละเลยที่จะสอบถามในเวลาอันควรถึงความเห็นที่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้วินิจฉัยในเรื่องเหล่านี้แล้ว จะต้องถือตามคำวินิจฉัยนั้น ตามหลักของมโนธรรมอันถูกต้อง เพื่อจะต่อต้านอิทธิพลชั่วได้ง่ายขึ้นและโอนอ่านไปตามอิทธิพลที่ดีได้อย่างแน่นอน เขาต้องเอาใจใส่ใช้วิธีอันเหมาะสมอบรมมโนธรรมของเขาให้มีความรู้ชัดแจ้งและตัดสินได้เที่ยงตรง

๑๐. ผู้ใช้สื่อมวลชน เฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน ควรฝึกหัดให้รู้จักประมาณตัว และมีระเบียบวินัยในการใช้สื่อมวลชนเหล่านี้  นอกจากนั้นยังควรพยายามเข้าใจสิ่งที่ตนได้เห็นได้ฟังและได้อ่านนั้นอย่างแตกฉานยิ่งขึ้น ให้หัดถกปัญหาเหล่านี้ กับบรรดานักอบรมและผู้ชำนาญเพื่อจะได้หัดวินิจฉัยอย่างถูกต้อง ขอให้บรรดาพ่อแม่ระลึกว่าเป็นหน้าที่ของตนจะต้องเอาใจใส่ระแวดระวังมิให้การแสดงต่าง ๆ  หนังสืออ่านและสิ่งอื่น ๆ ทำนองนี้ซึ่งเป็นสิ่งแสลงต่อความเชื่อและศีลธรรม เข้าไปในบ้าน กับมิให้ลูกเต้าในครอบครัวไปพบเห็นสิ่งเหล่านี้ในที่อื่น

หน้าที่ของผู้ผลิต

๑๑. พันธะอันสำคัญทางศีลธรรมที่ต้องใช้สื่อมวลชนอันถูกต้องนั้น ตกอยู่กับนักหนังสือพิมพ์ นักประพันธ์ , นักแสดง , ผู้กำกับการแสดง, ผู้อำนวยการสร้าง , ผู้เขียนบทภาพยนตร์ , ผู้จำหน่าย ,  ผู้ทำและผู้ขาย , นักวิจารณ์ และบรรดาผู้ที่มีส่วนอย่างใดอย่างหนึ่งในการสร้างและถ่ายทอดติดต่อนั้นต่อไป ด้วยเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า บุคคลทั้งหมดเหล่านี้ต้องมีความรับผิดชอบอย่างหนักสักเพียงใดในสภาวการณ์ปัจจุบัน เพราะเขาสามารถจะชักนำมนุษยชาติไปในทางดีหรือทางชั่วก็ได้โดยการให้ข่าวและยุยงส่งเสริม

ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของบุคคลเหล่านี้ ที่จะดำเนินการมิให้ความกังวลทางการค้า ทางการเมือง และทางศิลปะขัดต่อสาธารณประโยชน์ เพื่อบรรลุถึงจุดหมายนี้อย่างแน่นอนยิ่งขึ้น ให้เขาสมัครเข้าในสมาคมอาชีพที่บังคับให้สมาชิดเคารพกฎศีลธรรมในปัญหาและในการประกอบอาชีพ และถ้าจำเป็น ก็ให้มีสัญญาจะถือตามประมวลกฎศีลธรรมนั้นด้วย

ขอให้บุคคลเหล่านี้จำไว้เสมอว่า ผู้อ่านและผู้ชมส่วนใหญ่ประกอบด้วยเยาวชนซึ่งต้องการหนังสือและการแสดงที่ให้ความเพลิดเพลินอันสุจริต กับยกจิตใจให้สูงขึ้น นอกจากนี้ขอให้เอาใจใส่สอดส่อง ให้มอบหมายการถ่ายทอดเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนาแก่ผู้ร่วมงานที่สมควรและชำนาญ เพื่อ กระทำงานศาสนรด้านนี้ด้วยความเคารพอันพึงมี

หน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

๑๒.  เจ้าหน้าที่บ้านเมืองมีความรับผิดชอบพิเศษในเรื่องนี้ เพราะเกี่ยวกับสาธารณประโยชน์ สื่อมวลชน เหล่านี้ได้จัดให้มีขึ้น ก็เพื่อสาธารณประโยชน์นี้เอง เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ที่จะปกป้องคุ้มครองเสรีภาพอันแท้จริงและยุติธรรมของการหาข่าว ซึ่งเสรีภาพนั้นเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งสำหรับความเจริญของสังคมในปัจจุบัน เป็นต้นในส่วนที่เกี่ยวกับหนังสือพิมพ์ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ที่จะส่งเสริมความดีด้านศาสนา วัฒนธรรม และวิจิตรศิลป์ ที่จะคุ้มครองให้ผู้ที่ใช้สื่อมวลชนได้ใช้สิทธิอันชอบธรรมของเขาได้อย่างเสรี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองยังต้องค้ำจุนช่วยเหลือการ        ริเริ่มที่เป็นประโยชน์แก่พวกเยาวชนมาก ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ช่วยเหลือก็ดำเนินงานไม่ได้

ที่สุด เจ้าหน้าที่บ้านเมืองซึ่งเป็นผู้ดูแลสวัสดิภาพของพลเมือง มีหน้าที่ต้องตรากฎหมายและปฏิบัติตามกฎหมายนั้นเพื่อระแวดระวังสอดส่อง มิให้มีการใช้สื่อมวลชนเหล่านี้ไปในทางที่ผิด ซึ่งจะเป็นอันตรายร้ายแรงแก่ศีลธรรมของประชาชนและความก้าวหน้าของสังคม การระแวดระวังเช่นนี้  ไม่ใช่เป็นการตัดเสรีภาพของส่วนตัวบุคคลและของกลุ่มแต่ประการใดเลยโดยเฉพาะ ถ้าผู้มีอาชีพใช้สื่อมวลชนเหล่านี้ ขาดความระมัดระวังอันพึงจะมี

ต้องมีการควบคุมดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันมิให้เยาวชน อ่านหนังสือและดูการแสดงอันมีพิษต่อวัยของเขา