หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พระธรรมนูญ พระสมณกฤษฎีกา
และคำแถลงแห่งสภาสังคายนา เล่มที่ 4

 ความเชื่อฟัง

- - -  - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พระสมณกฤษฎีกา แห่ง สภาสังคายนาว่าด้วยการปรับปรุงและฟื้นฟูชีวิตนักบวช

เมื่อนักบวชปฏิญาณที่จะถือความเชื่อฟัง เขาก็ยอมสละน้ำใจของตนเองเป็นการบูชาตนถวายแด่พระเป็นเจ้า และดังนี้ก็ร่วมเป็นหนึ่งเดียวตลอดไป และอย่างมั่นคงกับน้ำพระทัยของ  พระเป็นเจ้าที่จะช่วยมนุษย์ให้รอด

นักบวช อาศัยการกระตุ้นเตือนของพระจิตเจ้า มอบตนด้วยความเชื่อให้อยู่ใต้อำนาจของผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้แทนของพระเป็นเจ้า ดังนี้เขาก็ถือตามพระฉบับของพระเยซูคริสตเจ้า ซึ่งเสด็จมาปฎิบัติตามน้ำพระทัยพระบิดาเจ้า (ดู ยน. ๔ : ๓๔ , ๕ : ๓๐ , ฮบ. ๑๐ :๗ สดด.๓๙ :๙ ) และ “มาทรงถือฐานะทาส “ (ฟล. ๒ : ๗ ) เรียนความเชื่อฟังในการรับความทุกข์ทรมาน (ฮบ. ๕ : ๘) นักบวชมีผู้ใหญ่คอยแนะนำให้รับใช้เพื่อนมนุษย์ทุกคนในพระคริสตเจ้า ดังเช่น พระคริสตเจ้าเองทรงเชื่อฟัง พระบิดาเจ้ารับใช้บรรดาพี่น้องมิตรสหายของพระองค์ และทรงพลีชีพเป็นค่าไถ่มนุษย์ทั้งหลาย (ดู มธ.๒๐ : ๒๘ ,ยง. ๑๐ : ๑๔–๑๘ ) ดังนี้นักบวชก็มัดตัวไว้กับการรับใช้พระศาสนจักรและพยายามเป็นมนุษย์ที่ดีบริบูรณ์ เจริญเติบโตถึงขั้นสมบูรณ์ ตามความบริบูรณ์ของพระคริสตเจ้า (อฟ. ๔ :๑๓ )

เพราะฉะนั้น นักบวชจึงต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ด้วยความถ่อมตนตามวินัยและธรรมนูญของคณะ ด้วยจิตตารมณ์แห่งความเชื่อและความรักต่อน้ำพระทัยพระเป็นเจ้า นักบวชต้องตระหนักว่าเขามีส่วนร่วมในการเสริมสร้างพระกายของพระคริสตเจ้าตามแผนการของพระเป็นเจ้า เขาจึงต้องใช้ทั้งกำลัง สติปัญญาและน้ำใจรวมทั้งพระพรตามธรรมชาติและพระหรรษทาน เพื่อปฎิบัติตามคำสั่งและทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมานั้นจนสำเร็จ ดังนี้ความเชื่อฟังของนักบวช แทนที่จะลดเกียรติของบุคคล กลับทำให้เขามีอิสระเสรียิ่งขึ้นในฐานะที่เป็นบุตรของพระเป็นเจ้า และทำให้เขาเจริญสมบูรณ์ถึงขั้นผู้ใหญ่ฝ่ายจิตใจ

ส่วนผู้ใหญ่ก็ต้องตระหนักว่าตนจะต้องรายงานต่อพระเป็นเจ้าถึงผู้ที่มอบหมายไว้กับตน (ฮบ. ๑๓ : ๑๗ ) เขาจึงต้องทำหน้าที่ในทำนองที่จะเป็นการตอบสนองน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า เขาต้องใช้อำนาจที่มีอยู่ด้วยจิตตารมณ์ที่จะรับใช้พี่น้องนักบวช และดังนี้ก็แสดงความรักแบบที่            พระเป็นเจ้าทรงมีต่อผู้น้อย ผู้ใหญ่ต้องปกครองผู้น้อยในฐานะที่เป็นบุตรของพระเป็นเจ้า โดยเคารพเกียรติมนุษย์ของเขา เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ใหญ่ก็จะทำให้ผู้น้อยยอมอ่อนน้มอต่อน้ำใจของผู้ใหญ่ง่ายขึ้น     ผู้ใหญ่จะต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษที่จะเคารพอิสระเสรีของผู้น้อยในเรื่องที่เกี่ยวกับการรับศีลอภัยบาปและการนำจิตใจ ผู้น้อยจะต้องได้รับการกระตุ้นให้มีจิตใจที่จะร่วมมือด้วยความเชื่อฟังและแข็งขันและด้วยความรับผิดชอบ รู้จักริเริ่มในการทำงานใหม่และทำงานที่ได้รับไว้แล้วนั้นจนสำเร็จ ผู้ใหญ่จึงต้องยินดีฟังความคิดเห็นของผู้น้อยและส่งเสริมความกลมเกลียวสามัคคีระหว่างผู้น้อยเพื่อความดีของคณะและพระศาสนจักร ขอแต่อย่าให้อำนาจของผู้ใหญ่ที่จะตัดสินและสั่งสิ่งที่จะต้องทำนั้นเสื่อมลง

ที่ประชุมสมัชชาและคณะที่ปรึกษาจะต้องทำหน้าที่ปกครองที่ได้รับมอบหมายนั้นอย่างซื่อสัตย์  ที่ประชุมสมัชชาและคณะที่ปรึกษาต่างจะต้องแสดงให้เห็นว่าสมาชิกทุกคนมีส่วนและสนใจในคุณประโยชน์ส่วนรวมของคณะ