นักบวชต้องอุตส่าห์เอาใจใส่ปฏิบัติความยากจนโดยสมัครซึ่งถือกันโดยเฉพาะในสมัยปัจจุบัน ว่าเป็นคุณธรรมสูงส่งและเป็นการแสดงภายนอกให้รู้จักสานุศิษย์ของพระคริสตเจ้า
หากจำเป็นจะถือความยากจนในแบบใหม่ก็ได้ การถือความยากจนทำนักบวชมีส่วนในความยากจนของพระคริสตเจ้า ซึ่งทรงยอมยากจน เพราะเห็นแก่เราทั้ง ๆ ที่พระองค์ทรงร่ำรวย เพื่อว่าเราจะได้ร่ำรวยอาศัยความยากจนของพระองค์ (ดู ๒ คร. ๘ : ๙
, มธ. ๘ : ๒๐ )
เกี่ยวกับความยากจนที่นักบวชถือนั้น ไม่พอที่นักบวชจะใช้สิ่งของตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่ แต่สมาชิกต้องยากจนจริง ๆ ในจิตใจ โดยถือว่าทรัพย์สมบัติของตนอยู่ในสวรรค์ (ดู มธ. ๖ : ๒๐ )
นักบวชต้องตระหนักว่าในวงงานที่เขาได้รับมอบหมาย เขาต้องถือตามกฎธรรมดาที่จะดำรงชีพด้วยการทำงาน เขาหาเงินเท่าที่ต้องการสำหรับเลี้ยงชีพและดำเนินงาน แต่แล้วเขาต้องกำจัดความห่วงใยทั้งสิ้น
และมอบตนไว้ในพระญาณสอดส่องของพระบิดาเจ้าในสวรรค์ (ดู มธ. ๖ : ๒๕)
คณะนักบวชต้องตระหนักว่า ในวงงานที่เขาได้รับมอบหมาย เขาต้องถือตามกฎธรรมดาที่จะดำรงชีพด้วยการทำงาน
เขาหาเงินเท่าที่ต้องการสำหรับเลี้ยงชีพและดำเนินงาน แต่แล้วเขาต้องกำจัดความห่วงใยทั้งสิ้น และมอบตนไว้ในพระญาณสอดส่องของพระบิดาเจ้าในสวรรค์ (ดู มธ. ๖ : ๒๕ )
คณะนักบวชอาจจะกำหนดไว้ในธรรมนูญของคณะ
อนุญาตให้นักบวชสละมรดกทั้งหมด ทั้งที่ได้มาแล้ว และที่จะได้ต่อไปด้วย
คณะนักบวชต้องยินดีร่วมกันดำรงชีวิตเป็นพยานถึงความยากจน และยินดีใช้สิ่งของของตนเพื่อความต้องการอื่น ๆ ของพระศาสนจักรและเพื่อช่วยเหลือคนยากจน
ซึ่งนักบวชต้องรักสงสารตามพระฉบับของพระคริสตเจ้า (ดู มธ. ๑๙ : ๒๑ , ๒๕: ๓๔๔๖ , ยก. ๒ : ๑๕ - ๑๖ , ยน. ๓ : ๑๗ ) แขวงและสำนักต่าง ๆ ของแต่ละคณะควรจะแบ่งปันทรัพย์สิ่งของกันใช้
เพื่อว่าผู้ที่มีมากจะได้ช่วยผู้ที่ขาดแคลน
คณะนักบวชต่าง ๆ มีสิทธิที่จะมีกรรมสิทธิ์ในทุกสิ่งทีต้องการสำหรับชีวิตในโลกนี้และการงานที่ต้องทำ เว้นแต่จะมีวินัยและธรรมนูญห้าม ถึงกระนั้นก็ดี
นักบวชต้องพยายามไม่แสดงให้เห็นความฟุ้งเฟ้อ ความร่ำรวยเกินไปและการสะสมทรัพย์สมบัติเกินประมาณ
|