ในพระศาสนจักรมีคณะจำนวนมาก ทั้งประเภทสงฆ์และไม่เป็นสงฆ์ อุทิศตนทำงานธรรมฑูตชนิดต่าง ๆ คณะเหล่านี้มีพรสวรรค์หลายอย่างต่างชนิด ตามแต่พระเป็นเจ้าจะประทานพระหรรษทานอย่างไรแก่ตน
ผู้อำนวยการก็มีพรสวรรค์ในการจัดการ ครูบาอาจารย์ก็มีพรสวรรค์ในการสอน ผู้เทศน์ประกาศพระวาจาก็มีพรสวรรค์ที่จะเร้าใจคน ผู้ทำกิจเมตตาก็มีพรสวรรค์เป็นคนใจกว้าง ผู้ที่บรรเทาทุกข์ผู้อื่นก็มีพรสวรรค์เป็นคนร่าเริงยินดีเสมอ
(ดู รม. ๑๒ : ๕-๘) พระพรมีอยู่ต่าง ๆ กัน แต่มีพระจิตองค์เดียวกัน ( ๑ คร. ๑๒ : ๔ )
ในคณะเหล่านี้กิจการธรรมฑูตและเมตตาธรรมเป็นหัวใจของชีวิตนักบวชทีเดียว เพราะเป็นการรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์
และเป็นงานที่มาจากความรักเมตตาโดยแท้ ซึ่งพระศาสนจักรมอบให้เขากระทำในนามของพระศาสนจักร เหตุฉะนั้น ชีวิตทั้งหมดของนักบวช สมาชิกจึงต้องเร่าร้อนไปด้วยจิตตารมณ์ที่รักงานธรรมฑูต
และงานธรรมฑูตทั้งหมดของเขาก็ต้องเร่าร้อนไปด้วยจิตตารมณ์ที่นมัสการและรับใช้พระเป็นเจ้า ดังนั้นกิจการธรรมฑูตของสมาชิกจึงต้องไหลหลั่งมาจากความสนิทสัมพันธ์กับพระคริสตเจ้า
เพื่อว่าสมาชิกก่อนอื่นหมดจะได้ตอบสนองกระแสเรียกของตนที่จะติดตามพระคริสตเจ้าและรับใช้พระองค์ในบรรดาผู้ที่เป็นอวัยวะของพระองค์ เมื่อเป็นเช่นนี้ ผลก็คือ ความรักต่อ
พระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์นั้นเอง ก็จะได้รับการเสริมส่งให้เร่าร้อนยิ่งขึ้น
คณะเหล่านี้จึงต้องปรับปรุงระเบียบวินัยและประเพณีให้เหมาะสมกับการเรียกร้องของงานธรรมฑูตที่ตนมุ่งหมายจะกระทำ
แต่ความจริงมีอยู่ว่า ชีวิตนักบวชที่ทำงานธรรมฑูตนี้อาจจะมีหลายแบบ การปรับปรุงจึงต้องคำนึงถึงแบบต่าง ๆ เหล่านี้ และวางระเบียบวินัยให้ชีวิตของนักบวช ที่อุทิศตนรับใช้พระเป็นเจ้าในคณะต่าง ๆ
จะได้รับความช่วยเหลืออันเหมาะสมกับชีวิตและงานของ แต่ละคณะ
|