หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พระธรรมนูญ พระสมณกฤษฎีกา
และคำแถลงแห่งสภาสังคายนา เล่มที่ 4

บทที่  1 :   สังฆภาพในภารกิจของพระศาสนจักร

- - -  - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พระสมณกฤษฎีกา แห่ง สภาสังคายนาว่าด้วยการปฏิบัติงานและชีวิตของพระสงฆ์

ลักษณะของสังฆภาพ

๒.พระเยซูเจ้า “ซึ่งพระบิดาได้ทรงทำให้ศักดิ์สิทธิ์และส่งมาในโลก” (ยง.๑๐: ๓๖)

ได้ทำให้พระกายทิพย์ทั้งหมดของพระองค์มีส่วนในการอภิเษกที่พระองค์ได้รับจากพระจิต เมื่ออยู่ในพระองค์ คริสตชนทุกคนได้เป็นราชสมณเพศอันศักดิ์สิทธิ์ถวายเครี่องบูชาฝ่ายจิตแด่พระเป็นเจ้า ทางพระเยซูคริสตเจ้าและป่าวประกาศพฤติกรรมอันประเสริฐของพระ ผู้ที่ได้ทรงเรียกเขาจากความมือมาสู่ความสว่างอันน่าพิศวงงงงวยของพระองค์ ฉะนั้น จึงไม่มีอวัยวะใดที่ไม่มีส่วนในภาระหน้าที่ของร่างกายทั้งหมด แต่ทว่าแต่ละคนต้องนมัสการพระเยซูเจ้าในใจของตน และประกาศยืนยันถึงพระองค์ด้วยจิตตารมณ์ของประกาศก ได้ตั้งบางคนให้เป็นศาสนบริกร

แต่พระสวามีเจ้าองค์เดียวกันนี้เอง ทรงตั้งบางคนให้เป็นศาสนบริกร เพื่อรวบรวมคนเหล่านั้นให้เป็นกายอันเดียว ในกายนั้น “อวัยวะทุกส่วนมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน” (โรม ๑๒ : ๔) ศาสนบริกรเหล่านี้ เนื่องจากรับศีลบวชแล้ว เมื่ออยู่ในหมู่ประชาสัตบุรุษ ก็มีอำนาจที่จะถวายบูชาและยกบาป และที่จะปฎิบัติหจ้าที่พระสงฆ์สำหรับส่วนรวมแทนคนทั้งหลายในนามพระคริสตเจ้า พระคริสตเจ้าทรงส่งอัครธรรมฑูตไปเหมือนกับที่พระบิดาทรงส่งพระองค์มา แล้วพระองค์ก็ทรงอาศัยอัครธรรมฑูตเหล่านี้เองทำให้บรรดาพระสังฆราช ซึ่งเป็นผู้สืบตำแหน่งต่อจากอัครธรรมฑูต มีส่วนร่วมในการอภิเษกและภารกิจของพระองค์ พระสังฆราชก็มอบงานในหน้าที่ของท่านในขั้นต่ำกว่าให้แก่บรรดาพระสงฆ์ต่อไป ทั้งนี้เพื่อว่า เมื่อเข้าอยู่ในตำแหน่งสงฆ์แล้ว พระสงฆ์จะได้เป็นผู้ร่วมมือกับผู้อยู่ในตำแหน่งสังฆราชเพื่อประกอบภารกิจของอัครธรรมฑูตที่พระคริสตเจ้าได้ทรงมอบไว้ให้สำเร็จ

ตำแหน่งพระสงฆ์ที่มีความเกี่ยวโยงกับตำแหน่งสังฆราชจึงมีส่วนในอำนาจซึ่งพระคริสตเจ้าเองทรงใช้สำหรับเสริมสร้างปกครองพระกายของพระองค์และทำให้พระกายศักดิ์สิทธิ์ไป เพราะเหตุนี้จะมีสังฆภาพของพระสงฆ์ได้ก็ต่อเมื่อได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์สามประการแรกก่อนก็จริง แต่ก็เป็นศีลบวชเองโดยเฉพาะที่โปรดสังฆภาพ อาศัยศีลบวช พระสงฆ์ได้รับตราพิเศษด้วยการเจิมของพระจิต และเป็นเหมือนพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นสงฆ์ จนสามารถปฎิบัติงานได้ในนามพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นศีรษะ

เนื่องจากพระสงฆ์มีส่วนร่วมในหน้าที่อขงอัครธรรมฑูตตามส่วน พระเป็นเจ้าจึงโปรดให้พระสงฆ์เป็นศาสนบริการของพระเยซูคริสตเจ้าในท่ามกลางประชาชน อีกทั้งปฎิบัติงานศักดิ์สิทธิ์ คือ การประกาศข่าวดีเรื่องพระคริสตเจ้า เพื่อให้ของถวายของนานาชาติเป็นที่สบพระทัยและศักดิ์สิทธิ์ไปด้วยอำนาจแห่งพระจิต ด้วยว่าการประกาศข่าวดีนั้นเรียกประชากรของพระเป็นเจ้ามารวมกันและชุมนุมกัน เพื่อว่าทุกคนที่เข้าร่วมอยู่ในประชากรนี้เมื่อศักดิ์สิทธิ์ไปด้วยพระจิตแล้ว จะได้ถวายตนเองเป็นเครื่องบูชายัญอันมีชีวิต ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่พอพระทัยของพระเป็นเจ้า(โรม  ๑๒ : ๑) การปฎิบัติงานของพระสงฆ์ทำให้เครื่องบูชาฝ่ายจิตของสัตบุรุษดีพร้อม เมื่อร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเครื่องบูชาของพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นคนกลางแต่ผู้เดียว เครื่องบูชาของพระองค์นั้นถวายในศีลโดยมือของพระสงฆ์ในมิสซาในนามของพระศาสนจักรทั้งหมดอย่างแบบศีลและไม่หลั่งเลือด จนกว่าองค์พระเจ้าเองจะเสด็จมา

ภาระหน้าที่ของพระสงฆ์มุ่งถึงเรื่องนี้แหละ และก็ลุล่วงสำเร็จในเรื่องนี้เอง เพราะการปฎิบัติงานของพระสงฆ์นั้นเริ่มจากการประกาศข่าวดีเรื่องพระคริสตเจ้า ได้พละกำลังและอำนาจจากการถวายบูชาของพระคริสตเจ้ากับมีความมุ่งหมายจะให้”นครของผู้ได้รับการกู้ไถ่ทั้งนคร ซึ่งได้แก่คณะและหมู่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้น จะได้เป็นของถวายแด่พระเป็นเจ้าเครื่องบูชาสากลโดยพระมหาสมณะซึ่งได้ถวายตนเพื่อเราในการรับทนทรมารสำหรับให้เราเป็นกายของศีรษะใหญ่ยิ่งนี้”

ฉะนั้น จุดหมายที่พระสงฆ์มุ่งถึงในการปฎิบัติงานและชีวิตก็คือ ถวายพระเกียรติมงคลแด่พระบิดาเจ้า เดชะพระคริสตเจ้า พระเกียรติมงคล ที่กล่าวนี้หมายถึงการที่มนุษย์รับกิจการที่พระเป็นเจ้าทรงกระทำสำเร็จโดยอาศัยพระคริสตเจ้า และรับโดยความสมัครใจ ด้วยความสำนึกรู้ตัวและรู้คุณ แล้วสำแดงกิจการนั้นออกมาให้เห็นตลอดชีวิตของพระสงฆ์ เช่นนี้แหละ เวลาพระสงฆ์สวดนมัสการและประกาศพระวาจาของพระเป็นเจ้าก็ดี เวลาถวายบูชาขอบพระคุณ โปรดศีลศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ตลอดจนเวลาปฎิบัติงานอื่น ๆ เพื่อรับใช้มนุษย์ก็ดี นับว่าพระสงฆ์มีส่วนช่วยเพิ่มพูนพระเกียรติมงคลของพระเป็นเจ้า พร้อมทั้งทำให้มนุษย์เจริญก้าวหน้าในชีวิตพระด้วย การทั้งหมดนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากปัสกาของพระคริสตเจ้า จะสำเร็จเสร็จสิ้นไป เมื่อพระองค์จะเสด็จมาอย่างรุ่งโรจน์และจะมอบ   อาณาจักรแด่พระบิดาเจ้า

ฐานะของพระสงฆ์ในโลก

๓.   พระสงฆ์ ได้รับการคัดเลือกมาจากหมู่มนุษย์และแต่งตั้งขึ้นเพื่อมนุษย์สำหรับสิ่งที่เกี่ยวกับ   พระเป็นเจ้า และถวายแด่พระองค์ซึ่งของถวายกับเครื่องบูชาสำหรับบาป ดังนั้นพระสงฆ์จึงดำรงชีวิตอยู่กับมนุษย์อื่น ๆ เหมือนดังอยู่กับพี่น้อง พระเยซูเจ้าก็ทรงปฏิบัติเช่นนี้ พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเป็นเจ้า เป็นมนุษย์ที่พระบิดาส่งมาหามนุษย์ พระองค์ประทับอยู่ท่ามกลางชาวเราและพอพระทัยเป็นเหมือนเราทุกอย่าง นอกจากไม่มีบาป ครั้นแล้วบรรดาอัครธรรมฑูตถือตามพระฉบับของพระองค์ นักบุญเปาโลปราชญ์แห่งนานาชาติ “ซึ่งได้รับการคัดเลือกสำหรับประกาศข่าวดีเกี่ยวกับพระเป็นเจ้า (โรม ๑ :๑ ) ยืนยันว่าท่านได้ทำตนเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคนเพื่อช่วยทุกคนให้รอด พระสงฆ์แห่งพันธสัญญาใหม่ เนื่องจากได้รับเรียกและได้รับศีลบวช ก็เหมือนกับถูกคัดให้มาอยู่ในหมู่ประชากรของพระเป็นเจ้า แต่ไม่ใช่สำหรับแยกไปเสียจากประชากรที่กล่าวนี้ หรือจากมนุษย์คนใดเลย หากสำหรับอุทิศตนอย่างสิ้นเชิงแก่กิจการที่พระเป็นเจ้าทรางเรียกให้มาทำนั้น พระสงฆ์จะเป็นผู้รับใช้พระคริสตเจ้าไม่ได้ถ้าไม่เป็นพยานและผู้จ่ายแจกชีวิตอย่างอื่นนอกจากชีวิตฝ่ายโลก พระสงฆ์จะรับใช้มนุษย์ไม่ได้เช่นเดียวกันถ้าตีตนออกห่างจากชีวิตและความเป็นอยู่ของเขา หน้าที่ยังเรียกร้องเป็นพิเศษมิให้พระสงฆ์ปฏิบัติตนตามอย่างโลก แต่เรียกร้องให้พระสงฆ์ดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางมนุษย์ในโลกนี้กับให้ประพฤติเยี่ยงนายชุมพาบาลที่ดี ซึ่งรู้จักแกะของตนและพยายามนำแกะที่มิใช้ของคอกนี้มา เพื่อแกะเหล่านี้จะได้ฟังเสียงของพระคริสตเจ้าแล้วจะได้มีแกะแต่ฝูงเดียวและนายชุมพาบาลก็แต่ผู้เดียว
เพื่อทำงานนี้สำเร็จ จะเป็นประโยชน์มากถ้าพระสงฆ์มีคุณธรรมบางอย่างซึ่งเป็นที่ยกย่องในการติดต่อกันระหว่างมนุษย์ เช่นความใจดี ความจริงใจ ใจเข้มแข็ง การยืนหยัดไม่ท้อถอย ความรักยุติธรรม ความมีมารยาทและคุณสมบัติอื่น ๆ ที่นักบุญเปาโลกำชับให้มี เมื่อท่านกล่าวว่า “ทุกสิ่งที่เป็นความจริงและน่าเคารพ ทุกสิ่งที่ยุติธรรม บริสุทธิ์และสมควรที่จะรัก ทุกสิ่งที่มีคุณธรรมดีเลิศและน่าสรรเสริญ ท่านจงเก็บมาเป็นเรื่องคิดของท่านเถิด” ( ฟล ๔ : ๘)