65. อย่างไรก็ดี
พระศาสนจักรโดยทางองค์พระนางพรหมจาริณีผู้ทรงบุญยิ่ง ท่านก็บรรลุถึงความดีงามอันบริบูรณ์ปราศจากมลทินและริ้วรอยใด ๆ (เทียบ อฟ. 5,27) ส่วนบรรดาผู้มีความเชื่อในพระคริสตเจ้า เขากำลังพยายามจะเอาชนะต่อบาปให้จงได้ จะได้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นในความศักดิ์สิทธิ์. ฉะนั้นเขาจึงยกตาขึ้นดูพระแม่มารี, องค์แบบอย่างแห่งคุณธรรมต่าง ๆ, เปล่งปลั่งเหนือหมู่คณะทั้งหมด ท่ามกลางผู้ได้รับเลือกสรรทั้งหลาย. พระศาสนจักรเมื่อพิจารณาไตร่ตรองไปมาถึงพระแม่มรีด้วยศรัทธาภักดีและเพ่งมองดูพระนางภายใต้แสงของพระวจนาตถ์ผู้มารับเป็นมนุษย์, ท่านก็บำเพ็ญตนด้วยความเคารพ ดำเนินไปสู่พระอคาธัตถ์อันสูงส่งแห่งการเสด็จอวตารมาเป็นมนุษย์อย่างลึกซึ้งขึ้น และท่านทำให้ตัวท่านเองยิ่งที่ยิ่งคล้ายคลึงกับพระสวามีเจ้าของท่านยิ่งขึ้น. เหตุด้วยพระแม่เจ้าทรงเกี่ยวข้องใกล้ชิดติดแน่นกับประวัติศาสตร์แห่งความรอด, จะว่าพระแม่เจ้าทรงรวบรวม และคิดไตร่ตรองไปมาก็ว่าได้ถึงอัตถ์ความเชื่อสำคัญใหญ่หลวงเหล่านั้น ในขณะที่มีการเทศนาสั่งสอน, มีการแสดงความเคารพภักดี. พระแม่เจ้าทรงเรียกร้องให้บรรดาผู้มีความเชื่อเข้ามาเฝ้าพระบุตรของพระนาง, เข้ามาพึ่งมหาบูชาของพระองค์ และกระทั่งให้เข้ามาสามิภักดิ์ต่อพระบิดา. พระศาสนจักรเอง, ท่านใฝ่ใจแสวงหาให้ได้มาซึ่งเกียรติมงคลของพระคริสตเจ้า, ท่านจึงกลายเป็นผู้ละม้ายคล้ายพระแม่เจ้ามากขึ้น, องค์พระแม่เจ้าเองทรงเป็นแบบอย่างอันสูงส่งของท่าน, ท่านจึงก้าวหน้าเรื่อย ๆ ไปในความเชื่อ, ความไว้วางใจ, และความรัก, ท่านทั้งแสวงหา ทั้งปฏิบัติตามความพึงพอใจของพระเป็นเจ้าในทุกสิ่งทุกอย่าง. ฉะนั้น แม้ในภารกิจแพร่ธรรม. พระศาสนจักรก็เหลียวดู ซึ่งเป็นการสมควรถูกต้อง เหลียวดูองค์ท่านผู้ได้ประสูติพระคริสตเจ้า, หมายความว่า องค์ผู้ได้รับปฏิสนธิโดยพระจิตเจ้า และบังเกิดจากพระนางพรหมจาริณี, ทั้งนี้เพื่อหวังให้พระองค์ท่านมาบังเกิด และเจริญวัฒนาในจิตใจของบรรดาสัตบุรุษ โดยผ่านทางพระศาสนจักร. พระนางพรหมจาริณีผู้นี้ ในกระแสพระชนม์ชีพ ได้ทรงบำเพ็ญองค์เป็นแบบอย่างความรักประสาแม่, จึงเป็นการจำเป็นที่ทุก ๆ คนผู้ร่วมกันทำงานแพร่ธรรมในพระศาสนจักร, ซึ่งหมายความถึงการทำให้มนุษย์มาเกิดใหม่, จำเป็นจะต้องตักเตือนคนพวกนี้ให้มีความรักประสาแม่ตามอย่างพระแม่มารีด้วย
|