58. ในบั้นปลายพระชนม์ชีพสาธารณะของพระเยซูเจ้า, พระมารดาของพระองค์ ก็ได้ทรงปรากฏองค์ให้แลเห็นประจักษ์แจ้งชัด ทั้งในการเริ่มต้นเสียด้วย.
คราวนั้นมีงานมงคลสมรสที่ตำบลกานา แคว้นกาลิลี, พระนางรู้สึกสะเทือนพระหทัย,
สงสารเขามาก และคำเสนอวิงวอนของพระแม่เจ้านั่นแหละได้ทำให้พระเยซูเจ้า, พระแมสไซอะห์ ทรงเริ่มทำอัศจรรย์เป็นครั้งแรก (เทียบ ยน. 2,1-11). ระหว่างพระเยซูเจ้าเสด็จออกแสดงพระธรรมเทศนา พระแม่เจ้าก็ได้ทรงรับฟัง และยึดถือพระวาจาต่าง ๆ ที่พระบุตรทรงกล่าวยกย่องพระราชัยอันอยู่เหนือความนึกคิดตามเหตุผล และอยู่เหนือสายสัมพันธ์ทางเลือดเนื้อเชื้อไข. ส่วนบุคคลที่สดับฟังและปฏิบัติตามพระเทววาจา, อย่างเช่น พระแม่เจ้าเองทรงปฏิบัติอย่างสัตย์ซื่อเสมอมา (เทียบ ลก. 2,19 และ 51), พระองค์ก็ได้ทรงประกาศว่า : เขาเหล่านั้นเป็นผู้มีบุญ (เทียบ มก. 3,35; ตรงกับ ลก. 11,27-28) ดังนี้แหละ พระนางพรหมจาริณีผู้ทรงบุญได้ทรงเจริญก้าวหน้าในวงจรแห่งความเชื่อของพระนางเอง และพระนางได้ทรงเก็บรักษาความเป็นหนึ่งเดียวกับพระบุตร โดยสัตย์ซื่อเรื่อยไป จนกระทั่งถึงเชิงไม้กางเขน, ณ ที่กางเขนนี้ พระแม่เจ้าได้ประทับยืนอยู่โดยเป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าโดยแท้ (เทียบ ยน. 19,25), พระแม่เจ้าได้ทรงร่วมทุกข์อันแสนสาหัสฉกรรจ์ ร่วมกับพระบุตรแต่องค์เดียวของพระนาง, ได้ทรงเข้าร่วมกับพระมหาบูชายัญของพระบุตรด้วยหัวใจของแม่, ทรงยินยอมประสาคนรักกับการถวายบูชายัญ อันมีพระบุตรผู้ได้ทรงบังเกิดจากพระนางเองเป็นเครื่องบูชายัญ และที่สุดทรงยินยอมจนกระทั่งรับเป็นแม่ของสานุศิษย์ เพราะพระวาจาของพระเยซูคริสตเจ้า, เมื่อทรงกำลังจะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ได้ตรัสกับพระนางว่าดังนี้ : หญิงเอ๋ย นี่แหละลูกของท่าน (เทียบ ยน. 19,26-27)
|