53. พระนางพรหมจาริณีนี้
ขณะเทวทูตมาแจ้งสาร, พระนางก็ได้ทรงรับเอาพระวจนาตถ์ของพระเป็นเจ้าไว้ในพระหทัยและในพระวรกายด้วย, และได้ทรงนำเอาองค์ชีวิตมาเสนอต่อมนุษยโลกซึ่งเป็นที่รับรู้, พระนางได้ทรงรับพระเกียรติยศว่าเป็นพระมารดาของพระเป้นเจ้าผู้เป็นพระมหาไถ่. เดชะบุญญาบารมีแห่งพระบุตรของพระนาง พระแม่เจ้าได้ทรงรับการไถ่ด้วยวิธีอันสุขุมล้ำเลิศ ทั้งทรงผนึกแน่นเป็นหนึ่งเดียวกับพระบุตรด้วยสายสัมพันธ์อันกระชับแน่นและไม่รู้เสื่อมสลาย, ทรงได้รับพระภาระหน้าที่อันทรงพระเกียรติยศสูงส่ง (56 ทวิ) จนกระทั่งเป็นพระชนนีแห่งพระบุตรของพระเป็นเจ้า, พระเทวบุตร (72) ฉะนั้นพระแม่เจ้าจึงทรงเป็นพระธิดาสุดที่รักเสน่หาของพระบิดา ทั้งทรงเป็นปูชนียสถานของพระจิตเจ้า. โดยพระหรรษทานอันแสนประเสริฐนี้ พระแม่เจ้าจึงประทับอยู่เหนือและไกลลิบลับจากสัตว์โลกทุกตัวตน ทั้งที่เป็นชาวสวรรค์ ทั้งที่เป็นชาวแผ่นดินโลก. ในขณะเดียวกันพระนางก็ทรงสืบสายโลหิตมาจากอาดัมจึงทรงมีสายสัมพันธ์กับมนุษย์ทั้งผู้ที่จะได้รับการกอบกู้, กว่านั้นอีก ทรงเป็นพระมารดาโดยแท้ของบรรดาอวัยวะต่าง ๆ (ของพระคริสตเจ้า)
. เพราะว่า พระแม่เจ้าอาศัยความรักโดยทรงร่วมมือในการให้สัตบุรุษเกิดขึ้นในพระศาสนจักร, สัตบุรุษนั้นก็คืออวัยวะของศรีษะองค์พระประมุขนั่นเอง เพราะฉะนั้นพระแม่เจ้าในฐานะเป็นอวัยวะชิ้นยอดเยี่ยม และพิเศษอย่างยิ่ง เฉพาะอันเดียวในพระศาสนจักร, พระแม่เจ้าทรงเป็นตัวแบบและแบบอย่างอันน่าพิศวง ด้านความเชื่อและความรักของพระศาสนจักร, ทรงเป็นที่เคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง และพระศาสนจักรคาทอลิกโดยพระจิตเจ้าโปรดให้ท่านรู้แจ้งเห็นจริง จึงมีความศรัทธาประสาลูก, ยึดถือพระแม่เจ้าเป็นพระมารดาที่สุดเสน่หา.
|