50. อันความสัมพันธ์ของพระกายทิพย์ทั้งหมดของพระคริสตเจ้านั้น
พระศาสนจักรของบรรดาผู้กำลังเดินทาง ได้สำนึกรู้แต่แรกเริ่มมาแล้ว, ฉะนั้น นับแต่เริ่มต้นพระคริสตศาสนา, ท่านได้ปลูกฝังธรรมเนียมการระลึกถึงผู้ตายด้วยความเลื่อมใสยิ่งนัก และเพราะว่า เป็นความคิดอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นบุญกุศล อันที่จะภาวนาอ้อนวอนอุทิศแก่ผู้ตาย เพื่อให้เขาหลุดพ้นจากบาป (2 มกบ. 12,46) ตลอดจนการทำบุญอุทิศแก่เขาด้วย. ส่วนพวกอัครสาวก และบรรดามรณสักขี (martyr) ของพระคริสตเจ้า, ผู้ได้หลั่งโลหิตเป็นเครื่องยืนยันความเชื่อและความรักอย่างเอกอุนั้น, พระศาสนจักรได้เชื่อถือเรื่อยมาว่า พวกท่านสนิทชิดเชื้อกับพวกเราในพระคริสตเจ้า. ฉะนั้น พระศาสนจักรจึงแสดงความเคารพพวกท่าน ด้วยความรักภักดีพิเศษ, พร้อมกันนี้ พระศาสนจักรก็เคารพภักดีต่อพระนางพรหมจาริณีมารีอา ตลอดจนบรรดาเทวดาทั้งหลายด้วย, ท่านยังขอพึ่งคำเสนอวิงวอนของบรรดาบุคคลดังกล่าว, ด้วยศรัทธาประสาทะให้ช่วยเหลือตัวท่าน. ต่อมามิช้าท่านยังเสริมจำนวนพวกที่ท่านเคารพนับถือเพิ่มขึ้นอีก คือบรรดาบุคคลผู้ได้เจริญตามรอยพระคริสตเจ้า ถือพรหมจรรย์ และความยากจนและตกที่สุดบุคคลอื่น ๆ ทั้งหลาย ผู้ได้บำเพ็ญคุณธรรมประสาคริสตชนอย่างดีเลิศ และบรรดาผู้ได้รับพระพรานุพรพิเศษจากพระเป็นเจ้า, เป็นทางให้ตัวเขาได้รับความเคารพนับถือ ทั้งเป็นทางให้บรรดาสัตบุรุษเจริญรอยตามแบบอย่างของเขาด้วย.
การมองดูชีวิตของบรรดาบุคคล
ผู้ได้ดำเนินชีพติดตามพระคริสตเจ้าอย่างสัตย์ซื่อ, นี่แหละเป็นเหตุผลใหม่ที่กระตุ้นให้ชาวเราแสวงหาบ้านเมืองในอนาคต (เทียบ ฮบ. 13,14 และ 11,10). และพร้อมกันนี้ เราก็รู้จักหนทางอันปลอดภัยอย่างยิ่ง ที่จะนำชาวเราผ่านกลางความผันผวนทั้งหลายของโลก และผ่านสถานะเฉพาะของเราแต่ละคน, จนสามารถบรรลุถึงสหภาพอันครบถ้วนในพระคริสตเจ้า หรืออีกนัยความศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง. ในชีวิตของบรรดาบุคคลผู้มีธรรมชาติมนุษย์เหมือนกับเรา ๆ นี้ แต่เขาได้กลายเป็นรูปฉายาของพระคริสตเจ้าอย่างสมบูรณ์กว่าตัวเรานั้น (เทียบ 2 คร. 3,18) ส่อให้เห็นว่าพระเป็นเจ้าได้ทรงแสดงการสถิตย์ประทับ และพระพักตร์ของพระองค์อย่างแจ่มแจ้งแก่มนุษย์ และด้วยตัวของเขานั้น พระเป็นเจ้าก็ทรงมีพระดำรัสแก่ชาวเรา ทั้งทรงดึงดูดชาวเราด้วยกำลังแรงให้เข้ามาสู่พระราชัยของพระองค์ นี่อย่างไร กลุ่มผู้ยืนยันจำนวนมากมาย ห้อมล้อมตัวเราเหมือนกับเมฆหมอก (เทียบ ฮบ. 12,1) นี่แหละ คือการประกาศยืนยันความจริงแห่งพระวรสาร.
อย่างไรก็ดี ชาวเราฉลองระลึกถึงชาวสวรรค์
ไม่ใช่เพราะท่านบำเพ็ญตนเป็นแบบอย่างดีแก่ชาวเราอย่างเดียว แต่เฉพาะอย่างยิ่ง เป็นเพราะท่านบันดาลให้ความสัมพันธ์กลมเกลียวของพระศาสนจักรทั้งหมดแข็งแกร่งแน่นแฟ้นขึ้นในพระจิตเจ้าด้วยการบำเพ็ญความรักใคร่ประสาพี่น้องนั่นเอง (เทียบ อฟ. 4,1-6). ความสัมพันธ์ประสาคริสตังระหว่างบรรดาผู้กำลังเดินทางอยู่ด้วยกันในโลกนี้ นำชาวเราไปสู่พระคริสตเจ้าให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นแล้วฉันใด, การร่วมโชคชาตากับบรรดานักบุญ ก็ผูกโยงเราไว้กับพระคริสตเจ้า, องค์ต้นธารและศีรษะ, แหล่งที่มาแห่งพระหรรษทานทั้งสิ้น และชีวิตทั้งหมดแห่งประชากรของพระเป็นเจ้าที่ไหลพรูออกมา ฉันนั้นจึงเป็นการสมควรอย่างยิ่ง ที่ชาวเราจะรักใคร่บรรดาผู้เป็นสหายของพระคริสตเจ้า ทั้งเป็นทายาทร่วมกับพระองค์ท่าน, เป็นพี่เป็นน้องของชาวเรา ทั้งเป็นผู้มีพระคุณต่อชาวเราเป็นอย่างยิ่ง, ฉะนั้นชาวเราจึงต้องขอบพระคุณพระเป็นเจ้า ตามที่ถูกที่ควรแทนพวกท่านด้วย, ทั้งต้องวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพวกท่าน, และเพราะพระคุณต่าง ๆ ที่พวกท่านได้เสนอช่วยให้เราได้รับจากพระเป็นเจ้า โดยทางพระเยซูคริสตเจ้า, พระสวามีของชาวเรา, พระผู้ไถ่และผู้กอบกู้แต่องค์เดียว, นี่แหละชาวเราต้องพึ่งคำภาวนา และความอุปถัมภ์ช่วยเหลือจากพวกท่าน. การยืนยันแสดงออกซึ่งความรักของเราต่อชาวสวรรค์ ที่เป็นไปโดยถูกต้องทุก ๆ ครั้งนั้นเป็นธรรมดาอยู่เอง ต้องมุ่งไปสู่และไปจบที่พระคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นมงกุฎรางวัลแห่งนักบุญทั้งหลาย และผ่านทางพระคริสตเจ้าก็ไปจบลงที่พระเป็นเจ้า, พระองค์ทรงเป็นที่น่าพิศวงของบรรดานักบุญ ทั้งทรงได้รับพระเกียรติมงคลในพวกนักบุญนั้นด้วย.
วิธีการอันสูงส่ง
ที่ชาวเราแสดงให้เห็นเอกภาพ (ความเป็นหนึ่งเดียว) ของชาวเรากับชาวสวรรค์นั้น อยู่ที่การประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งที่นี้เอง ฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้าทำงานในตัวเรา โดยอาศัยเครื่องหมายของสิ่งศักดิ์สิทธิการต่าง ๆ (sacramentalia), ในพิธีกรรมนั้น ชาวเราต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียงสดุดีถวายพระพรแด่พระมหิทธิศักดิ์ของพระเป็นเจ้า, เราทุกคนไม่เว้นใครเลย, แม้มาจากตระกูล, ภาษา, ประเทศ และเชื้อชาติต่างกัน, เราทุกคนต่างได้รับการไถ่ด้วยพระคริสตโลหิตทั้งนั้น (เทียบ วว. 5,9). เราทุกคนร่วมชุมนุมเป็นศาสนจักร, หรือสโมสรอันเดียวกัน, เราร้องเพลงบทเดียวกัน ซร้องสาธุการพระเป็นเจ้าหนึ่งเดียว ซึ่งมีสามบุคคล. การถวายสดุดีบูชาเป็นวิธีการชั้นยอดเยี่ยม แสดงให้เห็นความเป็นหนึ่งเดียวของชาวเรา กับพระศาสนจักรในสวรรค์, ที่พิธีบูชานั้น เราร่วมกันเฉลิมฉลองระลึกถึงพระแม่มารี ผู้ทรงศรี, องค์พรหมจาริณีตลอดกาลเป็นต้น ต่อนั้นเราก็ฉลองท่านผู้ทรงบุญองค์อื่น ๆ เช่น นักบุญยอแซฟ, บรรดาอัครสาวก, บรรดามรณสักขี, และบรรดานักบุญทั้งหลาย.
|