หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ธรรมนูญด้านพระธรรม กล่าวถึง พระศาสนจักร
 “ Lumen Gentium “ เล่มที่ 1

บทที่  7 ลักษณะบั้นปลายของพระศาสนจักรที่กำลังหกหันไปข้างหน้า
และการร่วมสหภาพของท่านกับพระศาสนจักรในสวรรค์

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

 ความเกี่ยวข้องติดต่อระหว่างศาสนจักรบนแผ่นดิน  กับพระศาสนจักรในสวรรค์

50.  อันความสัมพันธ์ของพระกายทิพย์ทั้งหมดของพระคริสตเจ้านั้น พระศาสนจักรของบรรดาผู้กำลังเดินทาง ได้สำนึกรู้แต่แรกเริ่มมาแล้ว, ฉะนั้น นับแต่เริ่มต้นพระคริสตศาสนา, ท่านได้ปลูกฝังธรรมเนียมการระลึกถึงผู้ตายด้วยความเลื่อมใสยิ่งนัก และเพราะว่า  “เป็นความคิดอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นบุญกุศล อันที่จะภาวนาอ้อนวอนอุทิศแก่ผู้ตาย เพื่อให้เขาหลุดพ้นจากบาป” (2 มกบ. 12,46) ตลอดจนการทำบุญอุทิศแก่เขาด้วย. ส่วนพวกอัครสาวก  และบรรดามรณสักขี  (martyr)  ของพระคริสตเจ้า,  ผู้ได้หลั่งโลหิตเป็นเครื่องยืนยันความเชื่อและความรักอย่างเอกอุนั้น, พระศาสนจักรได้เชื่อถือเรื่อยมาว่า พวกท่านสนิทชิดเชื้อกับพวกเราในพระคริสตเจ้า.  ฉะนั้น  พระศาสนจักรจึงแสดงความเคารพพวกท่าน  ด้วยความรักภักดีพิเศษ,  พร้อมกันนี้ พระศาสนจักรก็เคารพภักดีต่อพระนางพรหมจาริณีมารีอา ตลอดจนบรรดาเทวดาทั้งหลายด้วย,  ท่านยังขอพึ่งคำเสนอวิงวอนของบรรดาบุคคลดังกล่าว, ด้วยศรัทธาประสาทะให้ช่วยเหลือตัวท่าน.  ต่อมามิช้าท่านยังเสริมจำนวนพวกที่ท่านเคารพนับถือเพิ่มขึ้นอีก  คือบรรดาบุคคลผู้ได้เจริญตามรอยพระคริสตเจ้า  ถือพรหมจรรย์  และความยากจนและตกที่สุดบุคคลอื่น ๆ ทั้งหลาย ผู้ได้บำเพ็ญคุณธรรมประสาคริสตชนอย่างดีเลิศ และบรรดาผู้ได้รับพระพรานุพรพิเศษจากพระเป็นเจ้า,  เป็นทางให้ตัวเขาได้รับความเคารพนับถือ ทั้งเป็นทางให้บรรดาสัตบุรุษเจริญรอยตามแบบอย่างของเขาด้วย.

การมองดูชีวิตของบรรดาบุคคล ผู้ได้ดำเนินชีพติดตามพระคริสตเจ้าอย่างสัตย์ซื่อ, นี่แหละเป็นเหตุผลใหม่ที่กระตุ้นให้ชาวเราแสวงหาบ้านเมืองในอนาคต (เทียบ ฮบ. 13,14 และ 11,10). และพร้อมกันนี้ เราก็รู้จักหนทางอันปลอดภัยอย่างยิ่ง ที่จะนำชาวเราผ่านกลางความผันผวนทั้งหลายของโลก  และผ่านสถานะเฉพาะของเราแต่ละคน, จนสามารถบรรลุถึงสหภาพอันครบถ้วนในพระคริสตเจ้า หรืออีกนัยความศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง. ในชีวิตของบรรดาบุคคลผู้มีธรรมชาติมนุษย์เหมือนกับเรา ๆ นี้  แต่เขาได้กลายเป็นรูปฉายาของพระคริสตเจ้าอย่างสมบูรณ์กว่าตัวเรานั้น (เทียบ 2 คร. 3,18) ส่อให้เห็นว่าพระเป็นเจ้าได้ทรงแสดงการสถิตย์ประทับ  และพระพักตร์ของพระองค์อย่างแจ่มแจ้งแก่มนุษย์ และด้วยตัวของเขานั้น พระเป็นเจ้าก็ทรงมีพระดำรัสแก่ชาวเรา  ทั้งทรงดึงดูดชาวเราด้วยกำลังแรงให้เข้ามาสู่พระราชัยของพระองค์ “นี่อย่างไร  กลุ่มผู้ยืนยันจำนวนมากมาย ห้อมล้อมตัวเราเหมือนกับเมฆหมอก”  (เทียบ ฮบ. 12,1)  นี่แหละ คือการประกาศยืนยันความจริงแห่งพระวรสาร.

อย่างไรก็ดี  ชาวเราฉลองระลึกถึงชาวสวรรค์ ไม่ใช่เพราะท่านบำเพ็ญตนเป็นแบบอย่างดีแก่ชาวเราอย่างเดียว แต่เฉพาะอย่างยิ่ง เป็นเพราะท่านบันดาลให้ความสัมพันธ์กลมเกลียวของพระศาสนจักรทั้งหมดแข็งแกร่งแน่นแฟ้นขึ้นในพระจิตเจ้าด้วยการบำเพ็ญความรักใคร่ประสาพี่น้องนั่นเอง  (เทียบ อฟ. 4,1-6).  ความสัมพันธ์ประสาคริสตังระหว่างบรรดาผู้กำลังเดินทางอยู่ด้วยกันในโลกนี้ นำชาวเราไปสู่พระคริสตเจ้าให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นแล้วฉันใด,  การร่วมโชคชาตากับบรรดานักบุญ  ก็ผูกโยงเราไว้กับพระคริสตเจ้า,  องค์ต้นธารและศีรษะ, แหล่งที่มาแห่งพระหรรษทานทั้งสิ้น และชีวิตทั้งหมดแห่งประชากรของพระเป็นเจ้าที่ไหลพรูออกมา ฉันนั้นจึงเป็นการสมควรอย่างยิ่ง  ที่ชาวเราจะรักใคร่บรรดาผู้เป็นสหายของพระคริสตเจ้า ทั้งเป็นทายาทร่วมกับพระองค์ท่าน, เป็นพี่เป็นน้องของชาวเรา ทั้งเป็นผู้มีพระคุณต่อชาวเราเป็นอย่างยิ่ง, ฉะนั้นชาวเราจึงต้องขอบพระคุณพระเป็นเจ้า  ตามที่ถูกที่ควรแทนพวกท่านด้วย,  ทั้งต้องวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพวกท่าน, และเพราะพระคุณต่าง ๆ ที่พวกท่านได้เสนอช่วยให้เราได้รับจากพระเป็นเจ้า โดยทางพระเยซูคริสตเจ้า,  พระสวามีของชาวเรา,  พระผู้ไถ่และผู้กอบกู้แต่องค์เดียว,  นี่แหละชาวเราต้องพึ่งคำภาวนา และความอุปถัมภ์ช่วยเหลือจากพวกท่าน.  การยืนยันแสดงออกซึ่งความรักของเราต่อชาวสวรรค์ ที่เป็นไปโดยถูกต้องทุก ๆ ครั้งนั้นเป็นธรรมดาอยู่เอง ต้องมุ่งไปสู่และไปจบที่พระคริสตเจ้า  “ผู้ทรงเป็นมงกุฎรางวัลแห่งนักบุญทั้งหลาย  และผ่านทางพระคริสตเจ้าก็ไปจบลงที่พระเป็นเจ้า, พระองค์ทรงเป็นที่น่าพิศวงของบรรดานักบุญ  ทั้งทรงได้รับพระเกียรติมงคลในพวกนักบุญนั้นด้วย.”

วิธีการอันสูงส่ง ที่ชาวเราแสดงให้เห็นเอกภาพ (ความเป็นหนึ่งเดียว) ของชาวเรากับชาวสวรรค์นั้น  อยู่ที่การประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งที่นี้เอง  ฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้าทำงานในตัวเรา  โดยอาศัยเครื่องหมายของสิ่งศักดิ์สิทธิการต่าง ๆ (sacramentalia), ในพิธีกรรมนั้น ชาวเราต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียงสดุดีถวายพระพรแด่พระมหิทธิศักดิ์ของพระเป็นเจ้า,  เราทุกคนไม่เว้นใครเลย,  แม้มาจากตระกูล, ภาษา,  ประเทศ  และเชื้อชาติต่างกัน,  เราทุกคนต่างได้รับการไถ่ด้วยพระคริสตโลหิตทั้งนั้น  (เทียบ วว. 5,9).  เราทุกคนร่วมชุมนุมเป็นศาสนจักร, หรือสโมสรอันเดียวกัน,  เราร้องเพลงบทเดียวกัน ซร้องสาธุการพระเป็นเจ้าหนึ่งเดียว  ซึ่งมีสามบุคคล. การถวายสดุดีบูชาเป็นวิธีการชั้นยอดเยี่ยม แสดงให้เห็นความเป็นหนึ่งเดียวของชาวเรา กับพระศาสนจักรในสวรรค์,  ที่พิธีบูชานั้น เราร่วมกันเฉลิมฉลองระลึกถึงพระแม่มารี  ผู้ทรงศรี,  องค์พรหมจาริณีตลอดกาลเป็นต้น   ต่อนั้นเราก็ฉลองท่านผู้ทรงบุญองค์อื่น  ๆ  เช่น   นักบุญยอแซฟ,  บรรดาอัครสาวก,  บรรดามรณสักขี,  และบรรดานักบุญทั้งหลาย.