หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ธรรมนูญด้านพระธรรม กล่าวถึง พระศาสนจักร
 “ Lumen Gentium “ เล่มที่ 1

บทที่  6   ว่าด้วยนักบวช (Religiosi) 
อาชีพการปฏิบัติตามคำแนะนำแห่งพระวรสารในพระศาสนจักร

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

 สิทธิและอำนาจของพระศาสนจักร เหนือบรรดานักบวช

45.  หน้าที่ของพระศาสนจักร ด้านพระฐานานุกรมก็คือการเป็นชุมพาบาล นำประชากรของพระเป็นเจ้าไปเลี้ยงในทุ่งหญ้าอันสมบูรณ์  (เทียบ อสค. 34,14), จึงเป็นหน้าที่ของท่านที่จะใช้ความปรีชารอบคอบ กำหนดกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติตามคำแนะนำแห่งพระวรสารนั้นเอง,  เพราะว่างานอันนี้เป็นอุปกรณ์พิเศษเอกอุ  ก่อให้เกิดความรักต่อพระเป็นเจ้า  และความรักต่อเพื่อนมนุษย์.  พระศาสนจักรยังใช้เหตุผลสุขุมชาญฉลาด คล้อยตามความกระตุ้นดลใจของพระจิตเจ้า, ท่านยอมรับหลักเกณฑ์ที่บรรดาบุรุษและบรรดาสตรีที่ทรงเกียรติคุณเสนอขึ้นมา และหลังแต่ได้จัดระเบียบเรียบร้อยดีแล้วท่านก็รับรองเป็นทางการ. ที่สุดสถาบันต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นทั่ว ๆ ไป. ท่านใช้อำนาจอาญาสิทธิ์ของท่านระวังระไวและป้องกันสถาบันนั้น ๆ ที่ตั้งขึ้น  ให้เสริมสร้างพระวรกายของพระคริสตเจ้าให้เจริญขึ้น, งอกงามขึ้นตามเจตนารมณ์ของผู้สถาปนาสถาบันนั้น ๆ.

อนึ่ง  เพื่อสนองความต้องการของฝูงแกะแห่งพระสวามีเจ้าทั้งฝูง  ให้ได้รับผลดียิ่งขึ้น สถาบันแห่งความครบครันทุกสถาบันตลอดจนสมาชิกทุก ๆ คนของสถาบันนั้น ๆ ด้วย อาจต้องขึ้นต่อสมเด็จพระสันตะปาปาในฐานะที่พระองค์ทรงไว้ซึ่งอภิสิทธิ์อันดับหนึ่ง (Primatus) (69)  เหนือพระศาสนจักรสากล,     ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม, พระองค์อาจยกเอาสิทธิปกครองออกจากสมณะผู้ปกครองท้องถิ่น (Ordinarius  Loci) (70)  แล้วนำมาขึ้นต่อพระองค์ท่านแต่ผู้เดียวก็ได้. เช่นเดียวกันนี้  พระองค์อาจปล่อยให้สถาบันดังกล่าวขึ้นต่อหรือทรงมอบให้ขึ้นต่ออำนาจอาชญาสทธิโดยเฉพาะของพระอัยกาก็ได้. ส่วนสมาชิกของสถาบันดังกล่าว, เมื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อพระศาสนจักรตามรูปแบบเฉพาะแห่งอาชีพของตน,  ตามกฎหมายของพระศาสนจักร,  เขาก็ต้องเคารพเชื่อฟังพระสังฆราช  ทั้งนี้เพราะท่านทรงไว้ซึ่งอำนาจชุมพาบาลในพระศาสนจักรปลีกย่อย และเพราะว่างานแพร่ธรรมต้องมีเอกภาพและสามัคคีธรรม.
พระศาสนจักรไม่เพียงแต่ตรากฎหมายตั้งอาชีพการถวายสัตย์ปฏิญญาขึ้น ให้เป็นฐานะอันทรงเกียรติตามกฎหมายเท่านั้น ท่านยังแสดงให้ปรากฏชัดว่า  อาชีพการถวายสัตย์ปฏิญญานั้นเป็นการอภิเษก. เป็นกิจกรรมทางจารีตพิธีอีกด้วย,  กล่าวคือ พระศาสนจักรอาศัยอำนาจอาชญาสิทธิ์ที่ได้รับจากพระเป็นเจ้า, ท่านจึงตอบรับการถวายการบนบานของนักบวช, ท่านอธิษฐานอย่างเป็นทางการสาธารณะ, ท่านภาวนาขอพระเป็นเจ้าโปรดประทานความช่วยเหลือและพระหรรษทานแก่ผู้ถวายตัว,  ท่านฝากฝังเขาไว้กับพระเป็นเจ้า, ท่านอำนวยอวยพรด้านจิตใจแก่เขา, พลางก็นำเอาการถวายตัวของเขามาร่วมบูชาของพระสดุดีบูชานั้นด้วย.