หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ธรรมนูญด้านพระธรรม กล่าวถึง พระศาสนจักร
 “ Lumen Gentium “ เล่มที่ 1

บทที่  5 การเชื้อเชิญทุกคนทั่วไป ให้เข้ามาสู่ความศักดิ์สิทธิ์ในพระศาสนจักร

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

การเชิญทุกคนทั่วไปให้มาสู่ความศักดิ์สิทธิ์

40.  พระอาจารย์  และองค์ตัวแบบของความศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้นคือพระสวามีเยซูเจ้า,  พระองค์ได้ทรงเทศน์สอนสานุศิษย์ของพระองค์ทุก ๆ คน และแต่ละคน,  ไม่ว่าเขาจะมีฐานะอันใด, ให้เขาซาบซึ้งถึงความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิต  อันพระองค์ท่านเองทรงเป็นองค์ผู้ให้กำเนิดทั้งเป็นองค์ความสำเร็จ, โดยมีพะดำรัสว่า : “ท่านทั้งหลาย  จงเป็นผู้ดีครบครัน  เหมือนพระบิดาในสวรรค์ของท่านทรงเป็นผู้ดีครบครันนั้นเถิด”  (มธ. 5,48)  พระองค์ได้ทรงส่งพระจิตเจ้าเข้ามาในตัวทุกคน เพื่อปลุกกระตุ้นภายในให้เขารักพระเป็นเจ้าด้วยสุดดวงใจ, สุดวิญญาณ, สุดความนึกคิด  และสุดความสามารถของเขา (เทียบ มก. 12,30)  และให้เขารักกันและกันเหมือนพระคริสตเจ้าทรงรักพวกเขา (เทียบ ยน. 13,34; 15,12) บรรดาผู้เจริญรอยตามพระบาทพระคริสตเจ้า  พระเป็นเจ้าได้ทรงเรียกเขาไม่ใช่เพราะน้ำพักน้ำแรงอะไรของเขา แต่เป็นเพราะพระประสงค์ และน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าและพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า  เขาจึงได้กลายเป็นผู้ชอบธรรมในองค์พระเยซูคริสตเจ้า, โดยศักดิ์สิทธิการ - ล้างบาป  อันประทานความเชื่อ  เขาจึงกลายเป็นบุตรของพระเป็นเจ้าโดยแท้ และเขามีส่วนร่วมในสภาวะพระเจ้า ; ฉะนั้น  เขาจึงได้กลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง. ความศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาได้รับนี้ เดชะพระเป็นเจ้าโปรด, เขาจะต้องสงวนรักษาไว้  และนำไปสู่ความสำเร็จในการบำเพ็ญชีพของเขา. ท่านอัครสาวกตักเตือนให้บำเพ็ญ  “อย่างเหมาะสมกับพวกนักบุญ”  (อฟ. 5,3),  และให้เขานุ่งห่มอย่างบรรดาผู้ที่ได้รับเลือกสรรจากพระเป็นเจ้า, อย่างนักบุญ  และอย่างผู้เป็นที่รักเสน่หา,  นั่นคือนุ่งห่มความรักเมตตาจิต,  ความใจดี  ใจกรุณา,  ความสุภาพถ่อมตน,  ความสงบเสงี่ยมและความเพียรอดทน” (คส. 3,12),  และให้เขานำผลานุผลของพระจิตเจ้ามาเป็นเครื่องบันดาลความศักดิ์สิทธิ์  (เทียบ คส. 5,22 ; รม. 6,22) แต่เพราะเราทุกคนย่อมทำผิด, ทำบาปในหลาย ๆ เรื่อง (เทียบ ยก. 3,2)  เราจึงต้องอธิษฐานภาวนาทุก ๆ วันว่า  “โปรดยกหนี้ข้าพเจ้า”  (มธ. 6,12)
ฉะนั้นจึงเป็นที่ประจักษ์แจ้งชัดแก่สายตาทั่วไปว่า สัตบุรุษคริสตชนทุก ๆ คน, ไม่ว่าอยู่ในฐานะอันใด, หรืออยู่ในชั้นวรรณะใด, เขาทุกคนได้รับการเชื้อเชิญให้มาสู่ความสมบูรณ์ของชีวิตคริสตชน และความครบครันด้านความรักเมตตาจิต. ความศักดิ์สิทธิ์อันนี้ แม้สังคมฝ่ายโลกก็สนับสนุน  เป็นทางให้เกิดมีทำนองครองชีพที่มีมนุษยธรรมมากขึ้น.  เพื่อบรรลุถึงความดีบริบูรณ์อันนี้ ท่านสัตบุรุษทั้งหลาย จงออกกำลังเรี่ยวแรงตามอัตราส่วนทานที่ท่านได้รับจากพระคริสตเจ้าเถิด  เพื่อว่า  เมื่อท่านได้สะกดรอยตามพระยุคลบาทแล้ว  ท่านจะได้กลายเป็นพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่าน และเมื่อได้ปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระบิดาในทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว  ท่านจะได้พลีตนจนหมดสิ้นดวงใจ  เพื่อเป็นเกียรติมงคลแด่พระเป็นเจ้า และเป็นบริการแก่พี่น้องคนทั่วไป. เมื่อเป็นดังนี้  ความศักดิ์สิทธิ์แห่งประชากรของพระเป็นเจ้า  จะบรรลุผลสมบูรณ์ดุจดังประวัติการณ์ของพระศาสนจักรได้บันทึกผล ให้เป็นประจักษ์ชัดแจ้งมาแล้วในประวัติของบรรดานักบุญ.