หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ธรรมนูญด้านพระธรรม กล่าวถึง พระศาสนจักร
 “ Lumen Gentium “ เล่มที่ 1

บทที่  4 :   ฆราวาส

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

 ฆราวาสมีส่วนในบริการของพระราชา

36.  พระคริสตเจ้าได้ทรงนอบน้อมเชื่อฟัง จนกระทั่งได้ทรงยอมตาย, เพราะเหตุนี้พระบิดาจึงได้ทรงเทิดทูนพระองค์ขึ้น  (เทียบ ฟป. 2,8-9) โปรดให้เสด็จเข้าสู่พระราชัยอันทรงเกียรติของพระองค์ พระองค์ท่านนี้สรรพสิ่งอยู่ใต้อำนาจของพระองค์ จนกว่าจะทรงนำพระองค์เองและสรรพสิ่งทั้งหลายให้เข้ามาอยู่ใต้อำนาจของพระบิดา, ทั้งนี้เพื่อให้พระเป็นเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งในทุกสิ่ง (เทียบ 1 คร. 15,27-28).  อำนาจอันนี้ พระองค์ได้ถ่ายทอดให้แก่พวกสานุศิษย์  เพื่อพวกเขาจะได้มีอิสระเสรีอย่างพระราชาและเพื่อให้พวกเขา  เมื่อได้เสียสละตนเอง  และบำเพ็ญชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์, เขาจะได้มีชัยต่อราชัยของบาปที่ตั้งอยู่ในตัวเขา,  (เทียบ รม. 6,12)  ยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้เขารับใช้คนอื่น  เพราะเห็นแก่พระคริสตเจ้า,  อาศัยความสุภาพถ่อมตน  และความเพียรอดทน, เขาจะได้นำพวกพี่น้องเข้าเฝ้าพระราชา  ซึ่งผู้ใดรับใช้พระองค์ ผู้นั้นก็เป็นในหลวง. พระสวามีเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้แม้กระทั่งสัตบุรุษฆราวาส ทำการงานขยับขยายพระราชัยของพระองค์ให้แผ่ไพศาลออกไป,  พระราชัยนั้นคือ พระราชัยแห่งความจริงอันบันดาลชีวิต,  พระราชัยแห่งความศักดิ์สิทธิ์และแห่งพระหรรษทาน, พระราชัยแห่งความยุติธรรม,  ความรักและสันติสุข, เมื่ออยู่ในพระราชัยนี้ แม้สิ่งสร้างเองก็จะรอดพ้นจากความเป็นทาสของความผุเปื่อย,  กลับมามีอิสระเสรีอันทรงศักดิ์ศรีในฐานะเป็นบุตรของพระเป็นเจ้า (เทียบ รม. 8,21),  นี่คือคำมั่นสัญญาอันใหญ่หลวงยิ่งนัก,  คือ คำกำชับอันยิ่งใหญ่จริง ๆ ที่พวกสานุศิษย์ได้รับ, นั่นคือ  “ทุกสิ่งเป็นของพวกท่าน, พวกท่านเป็นของพระคริสตเจ้า,  พระคริสตเจ้าเป็นของพระเป็นเจ้า”  (1 คร. 3,23).

เพราะฉะนั้นบรรดาสัตบุรุษ ต้องรู้จักสัตว์โลกเรื่องธรรมชาติอันลึกซึ้ง,  คุณค่าและลำดับจุดหมายต่าง ๆ ของมัน  ซึ่งก็เพื่อเป็นเกียรติมงคลแด่พระเป็นเจ้า.  และในการทำการงานต่าง ๆ ฝ่ายโลกนี้ เขายังต้องช่วยเหลือกันและกัน   เพื่อบำเพ็ญชีวิตที่ดีขึ้น    จนกระทั่งโลกจะเอิบอาบอยู่ด้วยจิตตารมณ์ของพระ คริสตเจ้า,  และบรรลุถึงจุดหมายของมัน  โดยได้รับผลสำเร็จยิ่งขึ้นในด้านความยุติธรรม, ความรักและสันติสุข.  ในการปฏิบัติหน้าที่อันนี้ โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว,  บรรดาฆราวาสอยู่ในแนวหน้าที่สำคัญอันดับหนึ่ง. ความสันทัดจัดเจนในธุรกิจฝ่ายโลก, ความอุตสาหะทำการงาน,   พร้อมทั้งพระหรรษทานต่าง ๆ ของพระ คริสตเจ้าที่เขามีอยู่ย่อมค้ำชูเขาขึ้น, คอยช่วยเหลืออยู่ภายในตัวเขา, ทำให้เขาออกแรงแข็งขัน, ทำให้ทรัพยากรซึ่งพระเป็นเจ้าทรงสร้างขึ้นนั้น ดำเนินไปตามจุดมุ่งหมายของพระผู้สร้าง และตามแสงสว่างของพระองค์ท่านด้วย. เขาต้องใช้เรี่ยวแรงของมนุษย์หลักวิชาการ  (เทคนิค)  และวัฒนธรรมของบ้านเมืองก่อให้เกิดประโยชน์ทั่วไปแก่มนุษย์ทุก ๆ คน  ทั้งต้องมีการแบ่งปันทรัพย์เหล่านั้นแก่มนุษย์ทุก ๆ คนทั่วไป  โดยทำนองที่เหมาะสมยิ่งขึ้น  และด้วยการกระทำอย่างนี้ เขาจะก่อให้เกิดความก้าวหน้าสากลทั่วไปในด้านอิสรเสรี (65) ของมวลมนุษย์และของคริสตชน ดังนี้แหละ พระคริสตเจ้าโดยทางสมาชิกของพระศาสนจักร,  จะทรงทอแสงความสว่างอันช่วยให้รอดของพระองค์ ไปยังสังคมมนุษยชาติทั้งหมด ยิ่งวันยิ่งทวีขึ้น.

นอกนั้นพวกฆราวาส เมื่อรวมกำลังกันยังสามารถบำบัดรักษาองค์การ และสถานะต่าง ๆ ของโลกเมื่อมันโน้มนำไปสู่บาป,  เขาจะนำให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เข้ามาสู่หลักความยุติธรรมและช่วยสนับสนุนคุณธรรม  แทนที่จะเป็นอุปสรรคขัดข้อง.  การปฏิบัติดังนี้  เป็นการทำความเจริญแก่วัฒนธรรม และทำให้การปฏิบัติการงานของมนุษย์ดีชอบ ชุ่มฉ่ำด้วยคุณค่าของศีลธรรม.  โดยการกระทำอย่างนี้เองอีกด้วย เนื้อนาของโลกจะสรรพพร้อมที่จะรับเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาของพระเป็นเจ้า,  และประตูในสถานที่ต่าง ๆ จะเปิดอ้าเพื่อต้อนรับพระศาสนจักร, เป็นทางนำสันติสุขเข้ามาสู่ทั้งโลกจักรวาล.

เนื่องด้วยตัวระบบแห่งความรอดนี้เอง สัตบุรุษต้องสนใจและเอาใจใส่เรียนให้รู้แยกแยะสิทธิและหน้าที่ที่เขามี, ในฐานะร่วมอยู่ในพระศาสนจักร  และสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นของของเขา  ในฐานะที่เป็นสมาชิกแห่งสังคมมนุษย์. เขาต้องพยายามประสานสมานสถานะทั้งสองนี้ให้สอดคล้องกลมเกลียวกัน, โดยระลึกอยู่เสมอว่าตัวเขาไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจฝ่ายโลกอันใด. มโนธรรมของคริสตชนต้องเป็นผู้นำของเขาอยู่เสมอ.  เพราะว่า  ไม่มีกิจกรรมอันใดของมนุษย์แม้ในเรื่องเกี่ยวกับโลกด้วย,  ไม่อาจรอดพ้นจากอำนาจของพระเป็นเจ้าไปได้.  ในสมัยของเราทุกวันนี้ จำเป็นอย่างที่สุดจะต้องแยกแยะ  พร้อมทั้งต้องมีความกลมกลืนประสานสมานกัน  ซึ่งจะต้องส่องแสงแจ่มจ้าที่สุด   ในทำนองการกระทำของสัตบุรุษ, คือ  ต้องให้ภารกิจแห่งพระศาสนจักรสามารถรับกันโดยสมบูรณ์แนบแน่นยิ่งขึ้น กับสถานะพิเศษปลีกย่อยของโลกในปัจจุบันนี้, เหตุว่า  เราต้องยอมรับว่าบ้านเมืองทางโลก ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับของฝ่ายโลกล้วน ๆ,  บ้านเมืองก็มีสิทธิ์ปกครองตามหลักเฉพาะของตน แต่เป็นการถูกต้องที่เราจะไม่ยอมรับคำสอนอันเป็นภัย  ซึ่งอาจอ้างว่า  จะสร้างสังคมโดยไม่ยอมเกี่ยวข้องกับศาสนา ทั้งเขายังต่อสู้และทำลายอิสรเสรีภาพของพลเมือง.