36. พระคริสตเจ้าได้ทรงนอบน้อมเชื่อฟัง
จนกระทั่งได้ทรงยอมตาย, เพราะเหตุนี้พระบิดาจึงได้ทรงเทิดทูนพระองค์ขึ้น (เทียบ ฟป. 2,8-9) โปรดให้เสด็จเข้าสู่พระราชัยอันทรงเกียรติของพระองค์ พระองค์ท่านนี้สรรพสิ่งอยู่ใต้อำนาจของพระองค์ จนกว่าจะทรงนำพระองค์เองและสรรพสิ่งทั้งหลายให้เข้ามาอยู่ใต้อำนาจของพระบิดา, ทั้งนี้เพื่อให้พระเป็นเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งในทุกสิ่ง (เทียบ 1 คร. 15,27-28). อำนาจอันนี้ พระองค์ได้ถ่ายทอดให้แก่พวกสานุศิษย์ เพื่อพวกเขาจะได้มีอิสระเสรีอย่างพระราชาและเพื่อให้พวกเขา เมื่อได้เสียสละตนเอง และบำเพ็ญชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์, เขาจะได้มีชัยต่อราชัยของบาปที่ตั้งอยู่ในตัวเขา, (เทียบ รม. 6,12) ยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้เขารับใช้คนอื่น เพราะเห็นแก่พระคริสตเจ้า, อาศัยความสุภาพถ่อมตน และความเพียรอดทน, เขาจะได้นำพวกพี่น้องเข้าเฝ้าพระราชา ซึ่งผู้ใดรับใช้พระองค์ ผู้นั้นก็เป็นในหลวง. พระสวามีเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้แม้กระทั่งสัตบุรุษฆราวาส ทำการงานขยับขยายพระราชัยของพระองค์ให้แผ่ไพศาลออกไป, พระราชัยนั้นคือ พระราชัยแห่งความจริงอันบันดาลชีวิต, พระราชัยแห่งความศักดิ์สิทธิ์และแห่งพระหรรษทาน, พระราชัยแห่งความยุติธรรม, ความรักและสันติสุข, เมื่ออยู่ในพระราชัยนี้ แม้สิ่งสร้างเองก็จะรอดพ้นจากความเป็นทาสของความผุเปื่อย, กลับมามีอิสระเสรีอันทรงศักดิ์ศรีในฐานะเป็นบุตรของพระเป็นเจ้า (เทียบ รม. 8,21), นี่คือคำมั่นสัญญาอันใหญ่หลวงยิ่งนัก, คือ คำกำชับอันยิ่งใหญ่จริง ๆ ที่พวกสานุศิษย์ได้รับ, นั่นคือ ทุกสิ่งเป็นของพวกท่าน, พวกท่านเป็นของพระคริสตเจ้า, พระคริสตเจ้าเป็นของพระเป็นเจ้า (1 คร. 3,23).
เพราะฉะนั้นบรรดาสัตบุรุษ
ต้องรู้จักสัตว์โลกเรื่องธรรมชาติอันลึกซึ้ง, คุณค่าและลำดับจุดหมายต่าง ๆ ของมัน ซึ่งก็เพื่อเป็นเกียรติมงคลแด่พระเป็นเจ้า. และในการทำการงานต่าง ๆ ฝ่ายโลกนี้ เขายังต้องช่วยเหลือกันและกัน เพื่อบำเพ็ญชีวิตที่ดีขึ้น จนกระทั่งโลกจะเอิบอาบอยู่ด้วยจิตตารมณ์ของพระ คริสตเจ้า, และบรรลุถึงจุดหมายของมัน โดยได้รับผลสำเร็จยิ่งขึ้นในด้านความยุติธรรม, ความรักและสันติสุข. ในการปฏิบัติหน้าที่อันนี้ โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว, บรรดาฆราวาสอยู่ในแนวหน้าที่สำคัญอันดับหนึ่ง. ความสันทัดจัดเจนในธุรกิจฝ่ายโลก, ความอุตสาหะทำการงาน, พร้อมทั้งพระหรรษทานต่าง ๆ ของพระ คริสตเจ้าที่เขามีอยู่ย่อมค้ำชูเขาขึ้น, คอยช่วยเหลืออยู่ภายในตัวเขา, ทำให้เขาออกแรงแข็งขัน, ทำให้ทรัพยากรซึ่งพระเป็นเจ้าทรงสร้างขึ้นนั้น ดำเนินไปตามจุดมุ่งหมายของพระผู้สร้าง และตามแสงสว่างของพระองค์ท่านด้วย. เขาต้องใช้เรี่ยวแรงของมนุษย์หลักวิชาการ (เทคนิค) และวัฒนธรรมของบ้านเมืองก่อให้เกิดประโยชน์ทั่วไปแก่มนุษย์ทุก ๆ คน ทั้งต้องมีการแบ่งปันทรัพย์เหล่านั้นแก่มนุษย์ทุก ๆ คนทั่วไป โดยทำนองที่เหมาะสมยิ่งขึ้น และด้วยการกระทำอย่างนี้ เขาจะก่อให้เกิดความก้าวหน้าสากลทั่วไปในด้านอิสรเสรี (65) ของมวลมนุษย์และของคริสตชน ดังนี้แหละ พระคริสตเจ้าโดยทางสมาชิกของพระศาสนจักร, จะทรงทอแสงความสว่างอันช่วยให้รอดของพระองค์ ไปยังสังคมมนุษยชาติทั้งหมด ยิ่งวันยิ่งทวีขึ้น.
นอกนั้นพวกฆราวาส
เมื่อรวมกำลังกันยังสามารถบำบัดรักษาองค์การ และสถานะต่าง ๆ ของโลกเมื่อมันโน้มนำไปสู่บาป, เขาจะนำให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เข้ามาสู่หลักความยุติธรรมและช่วยสนับสนุนคุณธรรม แทนที่จะเป็นอุปสรรคขัดข้อง. การปฏิบัติดังนี้ เป็นการทำความเจริญแก่วัฒนธรรม และทำให้การปฏิบัติการงานของมนุษย์ดีชอบ ชุ่มฉ่ำด้วยคุณค่าของศีลธรรม. โดยการกระทำอย่างนี้เองอีกด้วย เนื้อนาของโลกจะสรรพพร้อมที่จะรับเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาของพระเป็นเจ้า, และประตูในสถานที่ต่าง ๆ จะเปิดอ้าเพื่อต้อนรับพระศาสนจักร, เป็นทางนำสันติสุขเข้ามาสู่ทั้งโลกจักรวาล.
เนื่องด้วยตัวระบบแห่งความรอดนี้เอง
สัตบุรุษต้องสนใจและเอาใจใส่เรียนให้รู้แยกแยะสิทธิและหน้าที่ที่เขามี, ในฐานะร่วมอยู่ในพระศาสนจักร และสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นของของเขา ในฐานะที่เป็นสมาชิกแห่งสังคมมนุษย์. เขาต้องพยายามประสานสมานสถานะทั้งสองนี้ให้สอดคล้องกลมเกลียวกัน, โดยระลึกอยู่เสมอว่าตัวเขาไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจฝ่ายโลกอันใด. มโนธรรมของคริสตชนต้องเป็นผู้นำของเขาอยู่เสมอ. เพราะว่า ไม่มีกิจกรรมอันใดของมนุษย์แม้ในเรื่องเกี่ยวกับโลกด้วย, ไม่อาจรอดพ้นจากอำนาจของพระเป็นเจ้าไปได้. ในสมัยของเราทุกวันนี้ จำเป็นอย่างที่สุดจะต้องแยกแยะ พร้อมทั้งต้องมีความกลมกลืนประสานสมานกัน ซึ่งจะต้องส่องแสงแจ่มจ้าที่สุด ในทำนองการกระทำของสัตบุรุษ, คือ ต้องให้ภารกิจแห่งพระศาสนจักรสามารถรับกันโดยสมบูรณ์แนบแน่นยิ่งขึ้น กับสถานะพิเศษปลีกย่อยของโลกในปัจจุบันนี้, เหตุว่า เราต้องยอมรับว่าบ้านเมืองทางโลก ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับของฝ่ายโลกล้วน ๆ, บ้านเมืองก็มีสิทธิ์ปกครองตามหลักเฉพาะของตน แต่เป็นการถูกต้องที่เราจะไม่ยอมรับคำสอนอันเป็นภัย ซึ่งอาจอ้างว่า จะสร้างสังคมโดยไม่ยอมเกี่ยวข้องกับศาสนา ทั้งเขายังต่อสู้และทำลายอิสรเสรีภาพของพลเมือง.
|