2.
พระบิดาสถิตสถาพรนิรันดร เพราะทรงมีแผนการอันเป็นอิสรเสรีอย่างยิ่ง ทั้งทรงพระปรีชาญาณ และคุณงามความดีลึกล้ำนักหนา, จึงได้ทรงสร้างโลกจักรวาลขึ้นมา, ได้ทรงตกลงพระทัยยกย่องมนุษย์ขึ้นให้มีส่วนในชีวิตพระเจ้าของพระองค์ท่านเอง แม้เมื่อมนุษย์ได้ตกต่ำโดยทางอาดัมแล้ว พระองค์ก็มิได้ทรงทอดทิ้ง ยังทรงช่วยเหลือให้เขามีทางรอดได้อยู่เสมอ, ทั้งนี้เพราะทรงเห็นแก่ (พระบารมีของ) พระคริสตเจ้าพระผู้ไถ่. พระคริสตเจ้านี้ทรงเป็นฉายาลักษณ์ของพระเป็นเจ้าที่มองไม่เห็น, เป็นบุตรหัวปีแห่งสรรพสัตวโลก (คส. 1,15). ทุกคนที่พระบิดาได้ทรงเลือกสรรตั้งแต่ก่อนกาลเวลา พระองค์ได้ทรงรู้จักเขาก่อนแล้วและได้ทรงล่วงหน้าจัดให้เขามีรูปคล้ายฉายาลักษณ์แห่งพระบุตรของพระองค์, พระบุตรจะได้ทรงเป็นบุตรหัวปีท่ามกลางพวกพ้องพี่น้อง (รม. 8,29). ส่วนบรรดาผู้ที่เชื่อในพระคริสตเจ้า พระบิดาได้ทรงกำหนดเรียกเขาให้เข้ามาอยู่พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์. พระศาสนจักรนี้ตั้งแต่โลกเริ่มมีกำเนิด ก็ได้มีรูปจำลองหมายถึงท่านก่อนแล้ว, ท่านได้รับการจัดเตรียมล่วงหน้าไว้อย่างน่าอัศจรรย์ในประวัติของประชาชาติอิสราเอล และในพันธสัญญาเดิม ครั้งหลังสุดท่านได้รับการสถาปนาตั้งขึ้น, และในคราวพระจิตเจ้าเสด็จมาโปรด, ท่านก็ได้ปรากฏตัวเด่นชัด และเมื่อจะจบสิ้นกาลเวลา, ท่านก็จะจบลงอย่างรุ่งโรจน์ เมื่อนั้นจะเป็นไปตามที่เราอ่านพบในหนังสือของบรรดานักบุญปิตาจารย์ (5) ว่า ผู้ชอบธรรมทั้งหลายนับแต่ อาดัมจนถึงผู้ถูกเลือกคนสุดท้าย จะมาร่วมกลุ่มอยู่ในพระศาสนจักรสากลในเคหะของพระบิดา
|