29. ในลำดับฐานานุกรม สังฆานุกรสังกัดอยู่ในขั้นต่ำสุด. สังฆานุกรได้รับการปกมือ
ไม่ใช่เพื่อเข้าสู่สังฆภาพ แต่เพื่อบริการรับใช้ เพราะว่าพระหรรษทานประจำศักดิ์สิทธิการ บันดาลให้ผู้รับมีกำลัง เพื่อรับใช้ประชากรของพระเป็นเจ้าในด้านบริการพิธีกรรม, ด้านพระวาจา และด้านการแผ่เมตตาจิต. เมื่อผู้ทรงอำนาจอันชอบสั่ง, สังฆานุกรก็มีหน้าที่ประสาทศักดิ์สิทธิการ - ล้างบาปอย่างสง่า, เก็บรักษาและแจกจ่ายพระสดุดีบูชา, เป็นพยานในนามของพระศาสนจักร และอำนวยพรในศักดิ์สิทธิการ - สมรส, นำศักดิ์สิทธิการเสบียงไปส่งให้แก่ผู้ใกล้จะตาย, อ่านพระคัมภีร์ให้สัตบุรุษฟัง และเทศนาสั่งสอนประชากร, ทำบริการสิ่งคล้ายศักดิ์สิทธิการทั้งหลาย, เป็นประธานในงานศพ ตลอดจนงานปลงศพ. สังฆานุกรได้รับอภิเษกสำหรับหน้าที่บริการ แผ่เมตตาจิตและในการรับใช้, ขอให้เขาจงระลึกถึงคำเตือนใจของนักบุญโฟลิการ์ปที่ว่า : จงมีใจเมตตากรุณา, จงขยันหมั่นเพียร และจงดำเนินตามความจริงของพระสวามีเจ้า ผู้ทรงกลายเป็นผู้รับใช้ของทุก ๆ คน.
หน้าที่ต่าง ๆ ดังกล่าวมา
จำเป็นอย่างยิ่งแก่ชีวิตพระศาสนจักร แต่ในปัจจุบัน ระเบียบแบบแผนของพระศาสนจักรลาตินยังคงบังคับอยู่ จึงเป็นการยากที่จะปฏิบัติตามในแต่ละแคว้นของเขต. สำหรับอนาคตนั้นสังฆานุกรภาพ (57) อาจจะรื้อฟื้นขึ้นใหม่ให้เป็นตำแหน่งขึ้นหนึ่งโดยเฉพาะ และเป็นขั้นถาวรของพระฐานานุกรม. เป็นหน้าที่ของสภาพระสังฆราชประจำท้องถิ่นต่าง ๆ เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาทรงเห็นชอบแล้วที่จะพิจารณาเพื่อเห็นแก่การอภิบาลสัตบุรุษ และตัดสินลงไปว่าการมีสังฆานุกรดังกล่าว เป็นการเหมาะสมหรือหาไม่ และควรมีในท้องถิ่นใด. เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาทรงเห็นชอบแล้ว, สังฆานุกรภาพดังกล่าวก็อาจจะประสาทให้แก่สัตบุรุษ ผุ้มีวัยวุฒิ แม้กระทั่งผู้ที่กำลังมีครอบครัวอยู่ตลอดจนบรรดาคนหนุ่มที่มีความเหมาะสมกับหน้าที่. สำหรับกรณีหลังนี้ กฎหมายเรื่องการถือโสดยังต้องใช้บังคับอยู่.
|