หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ธรรมนูญด้านพระธรรม กล่าวถึง พระศาสนจักร
 “ Lumen Gentium “ เล่มที่ 1

บทที่  3 พระฐานานุกรมของพระศาสนจักรและตำแหน่งพระสังฆราชโดยเฉพาะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

 พระสงฆ์ในหน้าที่เกี่ยวกับพระคริสตเจ้า,  เกี่ยวกับพระสังฆราช, 
เกี่ยวกับสภาสงฆ์,  และเกี่ยวกับประชากรคริสตัง

28.  พระบิดาได้ทรงอภิเษกพระคริสตเจ้า และได้ทรงใช้มายังแผ่นดินโลก  (เทียบ ยน. 10,36).  พระคริสตเจ้าได้ทรงบันดาลให้มีผู้รับส่วนแบ่งแห่งการอภิเษกและพระภารกิจของพระองค์ท่าน กล่าวคือบรรดาอัครสาวก  และบรรดาผู้สืบตำแหน่งของท่าน นั่นคือบรรดาพระสังฆราช.  ท่านเหล่านี้  โดยทำนองอันชอบ  ได้ถ่ายทอดภารกิจแห่งหน้าที่ของท่าน ที่มีหลั่นชั้นต่าง ๆ กันให้แก่บุคคลต่างกัน.  จึงเป็นอันว่า ภารกิจของพระศาสนจักรที่ได้ถูกตั้งขึ้นโดยพระเป็นเจ้า  มีหลั่นชั้นต่าง ๆ กัน และผู้ที่ได้รับปฏิบัตินั้นตั้งแต่โบราณมามีชื่อเรียกว่า พระสังฆราช,  พระสงฆ์,  และสังฆานุกร (55)  บรรดาพระสงฆ์ถึงแม้ท่านไม่มีบรรดาศักดิ์แห่งขั้นสุดยอดแห่งสมณภาพ (56) และในการใช้อำนาจท่านต้องขึ้นต่อพระสังฆราช  ถึงกระนั้นท่านก็มีความสัมพันธ์กับพระสังฆราชโดยศักดิ์ศรีของการเป็นสงฆ์ และโดยอิทธิฤทธิ์ของศักดิ์สิทธิการ - อนุกรม  ท่านร่วมเป็นพระฉายาลักษณ์ของพระคริสตเจ้า  (ฮบ. 5ล1-10: 9,11-28) องค์พระสงฆ์สูงสุดนิรันดร ท่านได้รับอภิเษกเพื่อประกาศพระวรสาร, เพื่อเป็นชุมพาบาลเลี้ยงดูสัตบุรุษ, และเพื่อประกอบคารวกิจต่อพระเป็นเจ้าในฐานะเป็นพระสงฆ์แท้แห่งพันธสัญญาใหม่. ท่านมีส่วนร่วมตามระดับชั้นของท่าน  ในพระภารกิจของพระคริสตเจ้า,  องค์คนกลางแต่ผู้เดียว (1 ทม. 2,5), ท่านประกาศพระวาจาของพระเป็นเจ้าแก่ทุก ๆ คน.  ท่านปฏิบัติหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์  เฉพาะอย่างยิ่งในภารกิจศักดิ์สิทธ์การสดุดีบูชา.  ในพิธีกรรมอันนี้ท่านสวมองค์พระคริสตเจ้า และประกาศอคาธัตถ์ของพระองค์, ท่านนำเอาคำภาวนาของสัตบุรุษมาร่วมกับบูชาขององค์พระประมุขของพวกเขา, ท่านบันดาลให้อุบัติขึ้นใหม่  และประยุกต์บูชาแต่อันเดียวของพันธสัญญาใหม่, กล่าวคือบูชาขององค์พระคริสตเจ้า  พระองค์นี้ได้ทรงถวายพระองค์ท่านเองเป็นบูชาอันนิรมลแด่พระบิดา  ครั้งเดียวสำหรับเรื่อยไป  (เทียบ ฮบ. 9,11-28)  ท่านต้องปฏิบัติดังนี้ในบูชามิสซาเรื่อยไป  จนกว่าจะถึงวันพระสวามีเจ้าเสด็จมา (เทียบ 1 คร. 11,2-5)  สำหรับสัตบุรุษที่เป็นทุกข์กลับใจและสำหรับคนป่วยไข้  พระสงฆ์ทำหน้าที่สูงส่งยิ่ง  คือ สมานไมตรีให้คืนดีและเป็นผู้ทุเลาบรรเทา,  ท่านนำเอาความต้องการของสัตบุรุษมาถวายแด่พระเป็นเจ้าพระบิดา  (เทียบ ฮบ. 5,1-4),  ตามอำนาจและขอบเขตที่ได้รับ,  พระสงฆ์ปฏิบัติภารกิจของพระคริสตเจ้า,  องค์ชุมพาบาล, และองค์พระประมุข  ต่อครอบครัวของพระเป็นเจ้า พระสงฆ์กระตุ้นเตือนให้มีภราดรภาพอันหนึ่งอันเดียวกัน, ท่านรวบรวมพวกเขา อาศัยพระคริสตเจ้าในพระจิตเจ้าให้เข้ามาเฝ้าพระบิดาเจ้า. เพื่ออยู่กับฝูงแกะ พระสงฆ์กราบนมัสการพระบิดาด้วยจิตใจอันสัตย์จริง  (เทียบ ยน. 4,24). ที่สุด พระสงฆ์ออกแรงทำการงานด้วยวาจาและคำพร่ำสอน  (เทียบ 1 ทม. 5,17), ท่านเชื่อสิ่งที่ท่านพบเห็นในการสอนและการรำพึงเรื่องพระบัญญัติของพระเป็นเจ้า,  ท่านสอนสิ่งที่ท่านเชื่อ และปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านสอน.

พระสงฆ์  คือ ผู้ทำงานร่วมที่มองเห็นการณ์ไกลของระดับชนชั้นพระสังฆราช,  เป็นผู้ช่วยเหลือและเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของพระสังฆราช, มีกระแสเรียกเพื่อรับใช้ประชากรของพระเป็นเจ้า.  พระสงฆ์พร้อมกับพระสังฆราช ร่วมกันจัดตั้งสภาสงฆ์ ซึ่งมีหน้าที่รับใช้หลายอย่างต่างกัน. ในชุมชนของบรรดาสัตบุรุษตามท้องที่ต่าง ๆ ,  พระสงฆ์ เพราะกลมเกลียวเดียวกันกับพระสังฆราชด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ และเพราะมีจิตใจอันสูงส่งจึงทำให้มองเห็นภาพของพระสังฆราช เหมือนกับว่าตัวท่านเองปรากฏอยู่ในชมรมนั้น ๆ ก็ว่าได้.  พระสงฆ์ตามหน้าที่ส่วนตน,  ท่านรับเอาภาระหน้าที่และความสลวนของพระสังฆราชมาใส่ใจตน  ทั้งปฏิบัติด้วยความเอาใจใส่ทุก ๆ วัน. ภายใต้อำนาจของพระสังฆราช   พระสงฆ์ยังเป็นผู้บันดาลความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นผู้ปกครองส่วนหนึ่งของแกะของพระสวามีเจ้า ตามที่ท่านได้รับมอบหมายให้ดูแล, ท่านทำให้พระศาสนจักรสากลปรากฏขึ้นเด่นชัดในถิ่นที่ท่านอยู่, ท่านช่วยเหลือแข็งขันในการสร้างพระวรกายทั้งครบของพระคริสตเจ้า (เทียบ อฟ. 4,12).  ท่านมุ่งมั่นอยู่เสมอต่อคุณประโยชน์ของลูก ๆ ของพระเป็นเจ้า, จึงพยายามออกแรงในด้านงานอภิบาลทั่วทั้งสังฆมณฑลของท่าน, กว่านั้นอีก  ของทั่วทั้งพระศาสนจักร (สากล) ทีเดียว  เพราะการมีส่วนในสังฆภาพและภาระหน้าที่ดังนี้,  พระสงฆ์ทั้งหลาย,  จงรับรู้และจงถือว่า พระสังฆราชเป็นบิดาแท้ ๆ ของตน  และจงเชื่อฟังท่านด้วยความเคารพนอบน้อม,  ส่วนบรรดาพระสังฆราชก็จงถือว่า พระสงฆ์ผู้ร่วมงานเป็นลูกของตนและเป็นสหาย  ให้เหมือนอย่างพระคริสตเจ้า, ทรงเรียกสานุศิษย์ของพระองค์  ไม่ใช่ว่าเป็นทาส แต่ทรงเรียกว่าเป็นสหาย (เทียบ ยน. 15,15). ฉะนั้น เพราะเหตุที่มีศักดิ์สิทธิการ - อนุกรม  และมีภาระหน้าที่อันเดียวกัน,  พระสงฆ์ทุก ๆ องค์,  ทั้งพระสงฆ์ประจำท้องถิ่น, ทั้งพระสงฆ์นักบวช, ทั้งหมดรวมกันเข้าอยู่ในองค์กร (กาย)  ของพระสังฆราช และต่างรับใช้เพื่อคุณประโยชน์ของทั่วทั้งศาสนจักรตามกระแสเรียกและพระหรรษทานของตน ๆ.

เดชะอำนาจการรับศักดิ์สิทธิการ - อนุกรมร่วมกัน  และเพราะต่างมีหน้าที่เหมือน ๆ กัน พระสงฆ์  ทุก ๆ องค์จึงมีความสัมพันธ์ต่อกันด้วยภราดรภาพอันลึกซึ้ง, ภราดรภาพนี้มักเผยออกมาให้ปรากฏเด่นชัดขึ้นมาเอง   ในการที่ท่านต่างช่วยเหลือกันและกัน   ทั้งทางด้านจิตใจและวัตถุ,    ทั้งทางด้านการอภิบาลสัตบุรุษและด้านส่วนตัว, ในการร่วมชุมนุมกัน, ในการมีชีวิตอยู่ร่วมกัน  ในการร่วมการงานกัน  และร่วมแผ่เมตตาจิตด้วยกัน.
ส่วนสัตบุรุษ เขาคือผู้ที่พระสงฆ์ได้ให้กำเนิดทางด้านวิญญาณขึ้นมา โดยทางศักดิ์สิทธิการ - ล้างบาป   และโดยการให้การอบรมสั่งสอน   (เทียบ 1 คร. 4,15; 1 ปต. 1,23),   ขอให้พระสงฆ์จงเห็นแก่พระคริสตเจ้า  เอาใจใส่ต่อสัตบุรุษ  ดุจดังท่านเป็นบิดาด้วยเถิด. ขอให้พระสงฆ์บำเพ็ญตน เป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะ  (1 ปต. 5,3) ขอให้ท่านปกครองและรับใช้กลุ่มสัตบุรุษในท้องถิ่นของท่าน จนกระทั่งกลุ่มดังกล่าวนี้  สมได้รับนามที่หมายถึง ประชากรของพระเป็นเจ้าประชากรเดียวและประชากรทั้งครบ.  นั่นคือพระศาสนจักรของพระเป็นเจ้า  (เทียบ 1 คร. 1,2; 2 คร. 1,1 และทั่ว ๆ ไป)  ขอให้พระสงฆ์จงระลึกว่า  ตัวท่านต้องประพฤติดีงาม เป็นกิจวัตรประจำวันอยู่เสมอ, ท่านต้องสลวนห่วงใยเป็นทางให้สัตบุรุษ, และผู้ไม่ใช่สัตบุรุษ,  ให้ประชากรคาทอลิกและผู้มิใช่คาทอลิก,  ท่านก็ต้องแสดงออกทำตัวเป็นพยานยืนยันแก่คนทุกคน เรื่องชีวิตอันแท้จริง (เรื่องความจริงและชีวิต) (56 ทวิ) และในฐานะเป็นชุมพาบาลที่ดี,  ท่านต้องตามหาเขา (เทียบ ลก. 15,4-7) คือ  บุคคลผู้ได้รับศักดิ์สิทธิการ - ล้างบาปเข้ามาอยู่ในพระศาสนจักรแล้ว แต่เขาห่างเหินไปจากการรับศักดิ์สิทธิการต่าง ๆ หรือที่ร้ายกว่าอีก  เขาได้ละทิ้งความเชื่อไปเสียเลย

สมัยของชาวเราทุกวันนี้ มนุษยชาติ  ยิ่งวันยิ่งรวมตัวกัน, มีเอกภาพด้านการเมือง,  เศรษฐกิจและทางสังคม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่บรรดาพระสงฆ์จะสนใจรวมตัวกันเข้าช่วยเหลือ  ภายใต้การนำของพระสังฆราชและของสมเด็จพระสันตะปาปา  ช่วยขจัดการแตกแยกในทุก ๆ วิถีทาง  ทั้งนี้ เพื่อนำมนุษยชาติทั้งสิ้น ให้เข้าสู่เอกภาพแห่งครอบครัวของพระเป็นเจ้า.