11. ลักษณะศักดิ์สิทธิ์ อันจัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมสงฆ์
ออกฤทธิ์ประสิทธิ์กิจกรรมของตน ทั้งโดยอาศัยศักดิ์สิทธิการต่าง ๆ ทั้งโดยอาศัยฤทธิ์กุศล (หรือคุณธรรม) ต่าง ๆ ด้วย, สัตบุรุษโดยทางศักดิ์สิทธิการ - ล้างบาป เขาเข้ามาอยู่ในสังกัดพระศาสนจักร ; เขาได้รับประทับตราให้เข้าร่วมในคารวกิจของพระคริสตศาสนา, และเขาเกิดใหม่เป็นบุตรของพระเป็นเจ้า, เขาได้รับความเชื่อจากพระเป็นเจ้า, โดยผ่านทางพระศาสนจักร, เขาจึงมีหน้าที่ต้องแสดงความเชื่อนั้นให้ปรากฏต่อหน้ามวลมนุษย์. โดยทางศักดิ์สิทธิการแห่งพละกำลัง (22) เขากระชับสายสัมพันธ์กับพระศาสนจักรยิ่งขึ้น โดยที่เขาร่ำรวยขึ้นด้วยกำลังพิเศษของพระจิตเจ้า, เขาจึงมีหน้าที่เร่งรัดยิ่งขึ้น ในการแผ่ขยายและในการป้องกันความเชื่อด้วยวาจาและด้วยกิจการในฐานะเป็นพยานแท้ของพระคริสตเจ้า. เมื่อเขาเข้าไปร่วมมีส่วนในสดุดีบูชาอันเป็นบ่อเกิดและสุดยอดแห่งชีวิตคริสตังทั้งหมด, เขาก็ถวายแด่พระเป็นเจ้า, ซึ่งองค์พระเจ้าเป็นเครื่องบูชา ทั้งถวายตัวเขาเองร่วมกับสักการบูชาอันนั้นด้วย จึงเป็นอันว่าในการถวายและในการร่วมกับศักดิ์สิทธิการมหาสนิท, ทุก ๆ คนไม่ใช่อย่างคละ ๆ กันไป แต่ทุก ๆ คนต่างคนต่างบำเพ็ญส่วนของตนในพิธีกรรมอันนั้น อนึ่งเมื่อได้รับพระกายของพระคริสตเจ้าในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้แล้ว เขาก็แสดงออกให้ปรากฏชัดเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งเอกภาพแห่งประชากรของพระเป็นเจ้า เพราะว่าศักดิ์สิทธิการอันวิสุทธิ์อย่างยิ่งนี้ เป็นทั้งเครื่องหมายทั้งเครื่องผลิตเอกภาพนั้น เป็นที่อัศจรรย์ใจนักหนา.
ส่วนคนที่เข้าไปรับศักดิ์สิทธิการอภัยบาป (23)
เพราะพระเมตตากรุณาของพระเป็นเจ้า เขาก็ได้รับการยกบาปความผิดที่ได้กระทำต่อพระเป็นเจ้า และพร้อมกันนั้นเขาก็ได้รับการคืนดีกับพระศาสนจักรด้วย, เพราะว่าการทำบาปคือ การทำร้ายพระศาสนจักร ซึ่งท่านก็พยายามแผ่เมตตาจิต, ทำตนเป็นแบบอย่างและบำเพ็ญภาวนาให้เขากลับใจ. โดยอาศัยศักดิ์สิทธิการเจิมทาคนไข้ (24) และโดยคำภาวนาของคณะสงฆ์ พระศาสนจักรทั้งพระศาสนจักรก็เฝ้าฝากฝังคนไข้ไว้กับพระสวามีเจ้าผู้ทรงทนทุกข์และประกอบด้วยเกียรติมงคล ขอให้พระองค์ทรงทุเลาบรรเทาเขา และช่วยให้เขาได้รอด (เทียบ ยค. 5,14-16) กว่านั้นอีกท่านยังตักเตือนคนไข้ให้มอบตัวเขาไว้กับพระมหาทรมานและมรณกรรมของพระคริสตเจ้า (เทียบ รม. 8,17; คล. 1,24; ทม. 2,11-12; ปต. 4,13) เพื่อเป็นทางพลีส่วนบุญกุศลของตน ให้เป็นประโยชน์แก่ประชากรของพระเป็นเจ้า อนึ่งท่ามกลางบรรดาสัตบุรุษผู้ได้รับประทับตราของศักดิ์สิทธิการแห่งพระอนุกรม (25) เพื่อเลี้ยงดูพระศาสนจักรด้วยวาจา และพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า, เขาได้รับแต่งตั้งขึ้นในนามของพระ คริสตเจ้า. ที่สุดสามีภรรยาคริสตังด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิการแห่งการสมรส (26) ซึ่งเป็นเครื่องหมาย ทั้งมีส่วนร่วมในพระอคาธัตถ์เอกภาพและความรักอันผลิตผลระหว่างพระคริสตเจ้ากับพระศาสนจักร (เทียบ อฟ. 5,32) สามีภรรยาคริสตัง ในชีวิตสมรส เขาต่างช่วยเหลือกันและกัน, ช่วยกันในการสืบพันธุ์และอบรมเลี้ยงดูเชื้อชาติของตนไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์, ยิ่งกว่านั้นโดยฐานะการดำรงชีวิต และระเบียบประเพณีของเขา เขาก็ผลิตคุณประโยชน์เฉพาะของเขาขึ้นในประชากรของพระเป็นเจ้า (เทียบ 1 คร. 7,7). จากการสมรสก็เกิดมีครอบครัว, ในครอบครัวก็มีพลเมืองใหม่ของสังคมมนุษย์ พลเมืองใหม่นี้อาศัยพระหรรษทานของพระจิตเจ้า เขาจึงถูกตั้งขึ้นเป็นบุตรของพระเป็นเจ้า โดยทางศักดิ์สิทธิการล้างบาป, จึงเป็นทางธำรงประชากรของพระเป็นเจ้าให้คงอยู่ต่อไปในกระแสศตวรรษ ครอบครัวเป็นดังพระศาสนจักรภายในบ้านเรือน ฉะนั้นในครอบครัว บิดามารดาต้องเป็นคนแรกที่ประกาศสอนความเชื่อให้แก่ลูก ๆ ของตน ด้วยวาจาและด้วยแบบอย่าง, บิดามารดาจำต้องสนับสนุนกระแสเรียกเฉพาะของลูกแต่ละคน, เฉพาะอย่างยิ่งต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษต่อกระแสเรียกอันศักดิ์สิทธิ์.
สัตบุรุษของพระคริสตเจ้าทุกคน ประกอบอยู่ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ของความรอดมากมายก่ายกองถึงเพียงนี้แล้ว
ทุก ๆ คนไม่ว่าจะอยู่ในฐานะและชั้นวรรณะใด ๆ พระสวามีเจ้าก็ทรงเรียกร้องให้ต่างคนต่างเดินตามทางเฉพาะของตนไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์อันสมบูรณ์ อย่างที่พระบิดาเจ้าเองเป็นผู้ดีบริบูรณ์นั้นแล.
|