53.การอบรมพระสงฆ์ตามแนวทางของพระศาสนจักร
มีสามขั้นตอนที่สำคัญคือ การอภิบาลกระแสเรียก การอบรมเบื้องต้นและการอบรมต่อเนื่อง ซึ่งทั้งสามขั้นตอนล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น
54.กระแสเรียกเกิดจากการทำงานร่วมกันของพระเจ้าผู้ทรงเรียก
ผู้สมัครตอบรับเสียงเรียก และพระศาสนจักรเป็นสื่อกลางโดยมีบทบาทหน้าที่ในการอภิบาลกระแสเรียก เนื่องจากผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงมีด้วยกันหลายฝ่าย พระศาสนจักรท้องถิ่นจึงต้องมีแผนทั้งในระยะสั้นระยะยาวเพื่อให้งานนี้บรรลุผล
55.พระศาสนจักรยังมีหน้าที่ร่วมก้าวเดินไปกับผู้สมัครเป็นพระสงฆ์
เพื่อช่วยหล่อเลี้ยงเขาให้เติบโต พิจารณาไตร่ตรอง และวินิจฉัยกระแสเรียกของตนได้ทั้งนี้เพื่อนำเฉพาะบุคคลที่ได้รับกระแสเรียก แท้จริงเท่านั้นไปสู่ชีวิตพระสงฆ์ ให้เขาได้รับการฝึกอบรมที่จำเป็นอย่างเพียงพอและเหมาะสม ให้เขาตอบสนองการเรียกของพระเจ้าได้อย่างอิสระ เปี่ยมด้วยความสำนึกว่าตนกำลังเข้าใกล้ชิดสนิทสัมพันธ์และมีส่วนร่วมในชีวิตของพระเยซูคริสตเจ้า และพันธกิจของพระองค์ที่จะช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นด้วยชีวิตของเขาทั้งชีวิต
56.เมื่อบวชเป็นพระสงฆ์แล้วยังมีเหตุผลทางเทววิทยาสนับสนุนให้มี การอบรมต่อเนื่อง ในชีวิตพระสงฆ์
57.อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จึงให้ความสำคัญแก่งานอภิบาลกระแสเรียก
การปรับกระบวนทัศน์การอบรมเบื้องต้น และการอบรมต่อเนื่องของพระสงฆ์ เพื่อให้พระสงฆ์ดำเนินชีวิตและปฏิบัติพันธกิจของพระคริสตเจ้าได้อย่างแข็งขันและบังเกิดผลในสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจึงต้อง
58.ก)กำหนดแผนงานอภิบาลกระแสเรียกผู้สมัครเป็นพระสงฆ์ให้ชัดเจน
และกำหนดผู้รับผิดชอบทั้งระดับอัครสังฆมณฑลและระดับวัด เพื่อให้งานอภิบาลกระแสเรียกเกิดผลได้เต็มที่
59.ข)ทบทวนการอบรมเบื้องต้นในทุกระดับ
ตามแนวทางของพระศาสนจักรโดยคำนึงถึงบริบทของสังคมและวัฒนธรรมสังคมและวัฒนธรรม เพื่อให้ผู้รับการอบรมบรรลุวุฒิภาวะในทุกมิติ พร้อมจะอุทิศชีวิตตามกระแสเรียกของตน
60.ค)พัฒนาระบบการองรมต่อเนื่องของพระสงฆ์ในทุกมิติ เช่นชีวิตจิต เทววิทยา การอภิบาล
การทำงาน ร่วมกีบฆราวาสและนักบวช การแพร่ธรรม จิตวิทยา สังคมวิทยา การศึกษา การบริหารวัดและองค์กรฯลฯ เพื่อให้พระสงฆ์เข้าใจเครื่องหมายของกาลเวลา เป้ฯผู้นำและเป็นมโนธรรมของสังคม ยืนยันคุณค่าพระวรสารได้ในกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำงานอภิบาลและประกาศพระวรสารเชิงรุกอย่างมีคุณภาพ
61.ทั้งนี้เพื่อให้พระสงฆ์ เป็นผู้อภิบาลดูแลฝูงแกะของพระคริสตเจ้า และ
เป็นผู้ประกาศข่าวดีแห่งความรอดพ้นให้คนทั่วไปเห็นบรรดาพระสงฆ์ มิใช่เป็นเพียงผูทำงานสังคมสงเคราะห์ หรือผู้บริหารสถาบันเท่านั้น แต่ในฐานะเป็นผู้มีจิตใจจดจ่อในมิติฝ่ายจิตซึ่งมาจากองค์พระจิตเจ้า ทั้งนี้เพื่อเป็นประจักษ์พยานทรงพลังแห่งพระวรสาร
|