34.การประกาศข่าวดีจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริงไม่ได้
หากคริสตชนมิได้ดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยาน รูปแบบแรกของการเป็นประจักษ์พยาน คือชีวิตธรรมทูตของครอบครัวคริสตชนและกลุ่มพระศาสนจักร
35. วัด มิได้หมายถึงสถาบัน หรือเขตพื้นที่ หรืออาคารบ้านเรือนเท่านั้น แต่วัดเป็นครอบครัวของพระเจ้า มีจิตวิญญาณเดียวกัน
ชุมชนวัดเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัวคริสตชน มีจิตตารมณ์ความเป็นพี่น้องและไมตรีจิตต่อกัน
36.พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6
ตรัสว่า เราเชื่อว่าวิถีชีวิตดั้งเดิมที่มีคุณค่าของชุมชนวัดยังจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับปัจจุบันนี้ โดยตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญยิ่งของชุมชนคริสตชนซึ่งเป็นพระศาสนจักรระดับวัด อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จึงมุ่งมั่นให้ชุมชนคริสตชนเข้มแข็ง โดยมีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลาง อาศัยพระวาจา ศีลศักดิ์สิทธิ์ การภาวนา ทั้งนี้ด้วยความร่วมมือของสภาอภิบาลและองค์กรต่างๆ เพื่อสร้าง กลุ่มคริสตชนย่อย ดังนั้นจึงต้อง
37.ก)การปรับกระบวนทัศน์กาปลูกฝัง
ถ่ายทอดและอบรมความเชื่อ โดยเน้นพระคัมภีร์ พิธีกรรมและการสอนคำสอน ให้ทุกระดับชีวิต ในครอบครัว ในวัด และในสถานศึกษา
38.ข)ขอให้พระวาจาเป็นศูนย์กลางการดำเนินชีวิตคริสตชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ จำเป็นต้องเน้นการอ่านและการไตร่ตรองพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งส่วนตังและเป็นกลุ่ม รวมทั้งการแบ่งปันประสบการณ์พระวาจาที่ได้นำไปปฏิบัติแล้ว
39.ค)ให้พิธีบูชาขอบพระคุณวันอาทิตย์เป็นชีวิตของชุมชน โดยทุกคนมีส่วนร่วมอย่างมีชีวิตชีวา และมีความหมาย
40.ง)ใช้กระบวนการรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน เป็นกระบวนการในการเตรียมผู้สมัครเข้าเป็นคริสตชน
41.จ)ขยายงานอภิบาลเชิงรุกไปยังผู้ที่ห่างเหินจากการปฏิบัติศาสนกิจ และคริสตชนชายขอบ
42.ฉ) เสริมสร้างและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้รับการอบรมและพัฒนาเพื่อจะได้ตอบสอนงกระแสเรียกของตน และเติบโตเป็นคริสตชนอย่างมีคุณภาพ
รวมทั้งให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนที่อยู่นอกสถานศึกษาคาทอลิกทุกระดับการศึกษา
43.ช) จัดโครงสร้างและการบริหารจัดการภายในวัดให้เป็นระบบที่ชัดเจน
เพื่อเอื้ออำนวยให้งานประกาศข่าวดีเกิดผล โดยให้ฆราวาส นักบวช พระสงฆ์ และองค์กรต่างๆ มีส่วนร่วมด้วยเต็มที่
44.อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เรียกร้องให้สมาชิกทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง
มุ่งสร้างชุมชนคริสตชนให้เข้มแข็งโดยมีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อพี่น้องในสังคมปัจจุบันจะได้รับรู้ข่าวดีของพระองค์ด้วยประจักษ์พยานชีวิตของสมาชิกในหมู่ชุมชนคริสตชน
|