บทที่  3 การฟื้นฟูชีวิตพระสงฆ์

22“พระสงฆ์คือภาพลักษณ์ของพระเยซูคริสตเจ้าอาศัยศีลบวช ในฐานะผู้นำและผู้อภิบาลพระศาสนจักรในความหมายใหม่และความหมายเฉพาะเจาะจงแต่เพียงหนึ่งเดียว คือเป็น  “ผู้รับใช้  การรับใช้ของพระเยซูเจ้า ปรากฏเป็นจริงสูงสุดเมื่อสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ซึ่งเป็นการอุทิศพระองค์อย่างสมบูรณ์ด้วยความเชื่อฟังและความรัก  อำนาจของพระเยซูคริสตเจ้าในฐานะผู้นำ โดยแท้จริงเป็นเรื่องเดียวกับการรับใช้ของพระองค์ เหตุผลและแรงจูงใจภายในที่หล่อเลี้ยงและนำทางชีวิตของพระสงฆ์ คือจิตตารมณ์ความรักของพระเยซูเจ้าในฐานะของผู้อภิบาล  ซึ่งหมายถึงการอุทิศตนอย่างสมบูรณ์เพื่อพระศาสนจักร ด้วยเหตุนี้  พระสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ต้องเป็นผู้นำที่รับใช้ อุทิศตนอย่างสมบูรณ์ในการประกาศพระคริสตเจ้า โดยตระหนักถึงจิตตารมณ์ความรักของผู้อภิบาล  ตามแบบอย่างพระคริสตเจ้า ดังนั้นพระสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจึงต้อง

23.ก)ตอบสนองกระแสเรียก โดยมีส่วนร่วมในสังฆภาพของพระคริสตเจ้าในความเป็นสงฆ์  ประกาศกและกษัตริย์ในฐานะศาสนบริกรเพื่อประกาศพระคริสตเจ้และนำประชากรของพระเจ้าไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์

24.ข)มีจิตตารมณ์ความรักของผู้อภิบาล  โดยกลับใจอย่างต่อเนื่อง เจริญชีวิตอย่างซื่อสัตย์ต่อการภาวนาไตร่ตรองพระวาจา ประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างศักดิ์สิทธิ์ และเทศน์สอนอย่างมีคุณค่า เป็นผู้นำด้านความเชื่อและมีชีวิตจิตแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน

25.ค)เป็นผู้นำในการช่วยฟื้นฟูชีวิตและเสริมสร้างฆราวาสครอบครัว  และชุมชนให้เข้มแข็ง เติบโตในความเชื่อ  และเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้า

26.อนึ่ง อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จะกำหนดรูปแบบชีวิตพระสงฆ์ให้เรียบง่าย  สมถะ  รักและรับใช้ตามแบบพระคริสตเจ้าผู้อภิบาลที่ดี เป็นหนึ่งเดียวกับประชากรของพระเจ้า ให้เกียรติและเคารพศักดิ์ศรีของทุกคน  และแสวงหาวิธีการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างชีวิตพระสงฆ์ให้ปฏิบัติงานในฐานะผู้อภิบาลและผู้ประกาศข่าวดีได้เต็มศักยภาพ