14. ชีวิตนักบวชแสดงออกซึ่งความรักของพระเจ้าในโลก โดยเป็นประจักษ์พยาน
โดยเฉพาะถึงพันธกิจแห่งความรอดพ้น ที่พระเยซูเจ้าทรงทำให้เป็นจริง โดยทรงอุทิศถวายพระองค์แด่พระบิดาเจ้าอย่างสมบูรณ์... แสวงหาพระเจ้า ดำเนินชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกันฉันท์พี่น้อง และรับใช้ผู้อื่น กิจกรรมทั้งสามนี้เป็นลักษณะพิเศษของชีวิตนักบวชซึ่งจะเป็นสักขีพยานแบบคริสตชนให้แก่ประชาชนชาวเอเชียได้ในปัจจุบัน
ขอให้บรรดานักบวชมีความเคารพต่อพระพรพิเศษของคณะ ในขณะเดียวกันเขาก็ควรเข้ามามีส่วนอย่างใกล้ชิดกับแผนงานอภิบาลของสังฆมณฑลที่เขาทำงานอยู่
15.ด้วยเหตุนี้
นักบวชในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จึงต้องมีชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระคริสตเจ้า เป็นพยานและประกาศพระคริสตเจ้า ตามจิตตารมณ์และพระพรพิเศษของคณะ และร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรท้องถิ่น โดยตระหนักถึงการเป็นส่วนหนึ่งของพระกายทิพย์ ของพระคริสตเจ้า ดังนั้นอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจึงเรียกร้องให้
16.ก)นักบวชตอบสอนกระแสเรียก ดำเนินชีวิตตามแบบพระคริสตเจ้า
เพื่อเอกลักษณ์ของพระองค์ปรากฏให้เพื่อนมนุษย์เห็นและสัมผัสได้ ถวายตนอย่างแท้จริง กล้าท้าทายค่านิยมของโลกปัจจุบัน และแสดงหนทางนำไปหาพระคริสตเจ้า
17.ข)นักบวชเสริมสร้างชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระคริสตเจ้า อาศัยพระวาจา ศีลศักดิ์สิทธิ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิธีบูชาขอบพระคุณ รำพึงภาวนา ปฏิบัติธรรมวินัย ดำเนินชีวิตเรียบง่าย ยึดจิตตารมณ์ของคณะ และมีมนุษย์สัมพันธ์ดีกับผู้อื่น รวมทั้งสร้างสมดุลระหว่างชีวิตภาวนา การงาน และชีวิตหมู่คณะ
18.ค)คณะนักบวชปรับกระบวนทัศน์การอบรมเบื้องต้นและการอบรมต่อเนื่องของบรรดาสมาชิก ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลรวมทั้งเตรียมผู้ให้การอบรมอย่างมีคุณภาพ
19.ง)นักบวชตระหนักว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของพระกายทิพย์
เป็นหนึ่งเดียวกัน ในระดับคณะ ระดับวัด และระดับสังฆมณฑล ร่วมมือและประสานงานกันอย่างเป็นระบบมากขึ้น ปฏิบัติพันธกิจของพรคริสตเจ้า ตามลักษณะเฉพาะของจิตตารมณ์และพระพรพิเศษของคณะ
20.อนึ่งนักบวชยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยฟื้นฟุชีวิตและเสริมสร้างฆราวาส ครอบครัวและชุมชนให้เข้มแข็ง เติบโตในความเชื่อ และเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้า
21.ขอให้บรรดานักบวชยอมรับบทบาทสำคัญยิ่งของตน
ไม่หวั่นไหวที่จะอุทิศตน ติดตามเป็นพยาน และประกาศพระคริสตเจ้า ร่วมกับพระศาสนจักรท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้าให้เป็นจริงมากยิ่งขึ้นในบริบทแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
|