Share |

“เราจงพิจารณาหาทางปลุกใจกันและกัน ให้มีความรักและประกอบกิจการดี” (ฮบ.10:24)

วันพุธรับเถ้า

-ข้อคิดจากพระคัมภีร์

 มธ 6:1-6 ; 16-18 “อย่าทำการพลีกรรมเพื่ออวดใคร”

-ข้อคิดจากสารมหาพรต

“เป็นเวลาเหมาะสมยิ่งที่เราจะหันมาฟื้นฟูการเดินทางในความเชื่อของเราทั้งในฐานะที่เป็นปัจเจกชนและในฐานะที่เป็นชุมชน โดยอาศัยพระวาจาและศีลศักดิ์สิทธิ์ การเดินทางนี้เป็นการเดินทาง ที่ต้องมีการสวดภาวนาและการแบ่งปันกัน การรักษาความเงียบ และการจำศีลอย่างพิเศษ”

-ข้อคิดจากเหตุการณ์ของโลก

ทุก ๆ ปีเรามีการมอบรางวัลต่าง ๆ มากมายทั้งในระดับโลก ระดับประเทศ ระดับชุมชน หรือแม้กระทั่งจุดที่เล็กที่สุดในสังคม รางวัลแห่งการทำความดี ไม่มีค่าเท่ากับความดีที่แต่ละคนทำ รางวัลที่สังคมโลกมอบให้บางครั้งถูกต้องยุติธรรม แต่หลายครั้งก็ฉ้อฉลมีเบื้องหลัง เป้าประสงค์ของการทำดีจึงไม่ได้อยู่ที่รางวัล แต่อยู่ที่ความดีนั้นที่ดำเนินต่อไปบนโลกใบนี้ ความดีแห่งวิถีมหาพรตก็มีลักษณะนี้เช่นเดียวกัน

-ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

เทศกาลมหาพรตเริ่มขึ้นแล้ว สารมหาพรตชี้ชัดถึงกิจกรรมที่ควรทำ สวด แบ่งปัน มีโอกาสเงียบมากขึ้น และจำศีลอย่างพิเศษ อาจเลือกเพียงข้อเดียวในแต่ละสัปดาห์ หรืออาจเลือกที่จะทบทวนทุกวันในการก้าวเดินในเทศกาลมหาพรตในปีนี้ ชีวิตคริสตชนคือการเดินทางไปสู่การเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์

-บทภาวนาสำหรับวันเริ่มต้นเทศกาลมหาพรต

ข้าแต่พระเจ้า “จงกลับใจและเชื่อพระวรสาร” “ท่านเป็นฝุ่นดินและจะกลับเป็นฝุ่นดิน” ถ้อยคำที่เตือนใจเราเมื่อเริ่มเทศกาลมหาพรต เราวิงวอนให้พระองค์นำทางเรา เราวิงวอนให้เราตระหนักว่าสัจธรรมคือความจริงที่เราต้องพบเจอ เป็นความจริงที่ว่า เราต้องกลับใจทุกวันและเชื่อในคำสั่งสอนของพระวรสาร เพื่อสักวันหนึ่งเราจะได้กลับไปยังบ้านแท้นิรันดร ที่ซึ่งพระองค์ประทับรออยู่ อาแมน

************************************************************************************************************

สัปดาห์ที่ 1

-ข้อคิดจากพระคัมภีร์

มก 1:12-15 “พระองค์เสด็จไปในถิ่นทุรกันดาร ซาตานมาผจญพระองค์”

-ข้อคิดจากสารมหาพรต “ตรงนี้ข้าพเจ้าใคร่ที่จะไตร่ตรองวรรคที่ 24 ซึ่งสอนไว้อย่างชัดเจน มีคุณค่าและเหมาะสมแก่กาลเวลา เกี่ยวกับ 3 มิติแห่งชีวิตคริสตชนด้วยกัน นั่นคือ ความห่วงใยผู้อื่น การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และความศักดิ์สิทธิ์ส่วนตัว”

-ข้อคิดจากเหตุการณ์ของโลก

ให้เราพยายามหลีกหนีไกลไปยังที่ที่สงบ หรือลึกลับที่สุด ความบาปก็ยังติดตามเราไปจนได้ เพราะการประจญไม่เลือกสถานที่ การประจญโจมที่ดวงใจของเรา เราพบเห็นการล้มสลายของระบบทุนนิยม ความฉาบฉวยของสังคมที่บางอย่างได้มาโดยง่ายดาย แต่ก็ทิ้งจากเราไปเพียงข้ามคืน ถ้าสายตาไม่เพ่งมองไปยังจุดหมายแท้จริง ก็จะไม่พบสัจธรรมของชีวิต

เพราะทุกสิ่งที่มารมาผจญพระเยซู คือ หัวใจหลักสำคัญที่มนุษย์ที่ยืนอยู่ฝ่ายข้างโลกเรียกร้อง ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง บารมี การยอมรับนับหน้าถือตา เราอยู่บนโลกแต่สามารถถนอมหัวใจไม่ให้สาละวนกับมันจนลืมพระเจ้า

-ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

ความห่วงใยผู้อื่น การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความศักดิ์สิทธิ์ส่วนตัว เป็น 3 มิติแห่งชีวิตคริสตชนที่สารมหาพรตพูดถึง ความศักดิ์สิทธิ์ส่วนตัวอาจจะเป็นจุดอ่อนที่สุดสำหรับชีวิตคริสตชนไทย เสียงระฆังพรหมถือสารที่หายไปในตอนเช้า ความรีบเร่งในมื้ออาหารเช้าและการเดินทางไปทำกิจกรรมในแต่ละวัน การจำศีลที่เพียงทำเป็นพิธี การร่วมมิสซาวันอาทิตย์หรือวันใดก็ตามในสัปดาห์โดยขาดการร่วมอย่างแท้จริง แต่เป็นการชมหรือฟังเท่านั้น ฯลฯ เทศกาลมหาพรตเปิดโอกาสให้เราได้ทบทวนสิ่งเหล่านี้

บทภาวนาสำหรับสัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต

ข้าแต่พระเป็นเจ้า ความศักดิ์สิทธิ์ของคริสตชนเรียกร้องให้เราได้ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ เช่นเดียวกัน กิจกรรมแห่งความรักเมตตาที่เริ่มจากหัวใจห่วงใย ใส่ใจเพื่อนพี่น้อง ทั้งนี้เพื่อพาทุกคนไปสู่เส้นทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ที่องค์พระเยซูคริสตเจ้าได้เดินนำและมอบแบบอย่างให้กับเราทุกคน อาแมน

*********************************************************************************************************************************

สัปดาห์ที่ 2

-ข้อคิดจากพระคัมภีร์

มก 9:1-9 “พระเยซูเจ้าทรงจำแลงพระกาย”

-ข้อคิดจากสารมหาพรต

“สังคมมนุษย์กำลังป่วยหนัก ต้นเหตุไม่ใช่เพราะขาดทรัพยากรธรรมชาติ หรือเพราะการควบคุมจากอภิสิทธิ์ชนไม่กี่คน แต่เป็นเพราะความสัมพันธ์ฉันพี่น้องอ่อนแอลง ทั้งระหว่างปัจเจกชน และระหว่างชาติ (ความก้าวหน้าของประชาชาติ 66)

-ข้อคิดจากเหตุการณ์ของโลก

ข่าวกูเกิ้ลคว้าแชมป์ 3 สมัย บริษัทดีเยี่ยมน่าทำงานที่สุด สิ่งที่ทำให้กูเกิ้ลขึ้นที่ 1 คือ รายได้ กำไรราคาหุ้น ค่าบริการค้นหา การจ้างงานและความรักที่พนักงานมีให้กับบริษัทและเพื่อนร่วมงาน ในท่ามกลางความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี บริษัทห้างร้าน ผู้คนยังโหยหาความรักอยู่ดี และนั่นคือความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับบุคคล

โลกในวันนี้อาจทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกัน จากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ความคิดถึงอาจไม่ต้องรอนาน การบริการอาจจะล้นระยะเวลา แต่แท้จริงแล้วเราอาจอยู่ห่างกันในความเห็นอกเห็นใจ ห่วงใยรักใคร่และสัมผัสแห่งมิตรไมตรี

-ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

เคยถามตัวเองไหมเวลาที่อ่านพระคัมภีร์มาถึงตอนพระเยซูเจ้าจำแลงพระกายว่าพระองค์ทำสิ่งนี้ทำไม เคยถามต่อไปอีกไหมว่าทำไมต้องเรียกอัครสาวก 3 องค์นี้ และเคยสงสัยไหมว่า อีก 2 ท่านที่ยืนข้างกายพระเยซูเจ้าทำไมต้องเป็นประกาศกเอลียาห์กับโมเสส ส่วนความขาวของอาภรณ์เสื้อฟ้า เสียงจากฟากฟ้าสวรรค์

มีคำถามมากมายกับเหตุการณ์นี้ แต่มีคำตอบเดียวคือ พระองค์รับมิตรภาพกับอัครสาวกเหล่านั้นแล้ว พระองค์อยากให้เขาทราบยิ่งทียิ่งชัดเจนว่าพระองค์เป็นใคร พระองค์ถ่ายทอดมิตรภาพนั้นสู่เราคริสตชนเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเราชัดเจนว่าพระองค์เป็นใคร เราจะได้นำชีวิตพระองค์ไปบอกกับโลก

บทภาวนาสำหรับสัปดาห์ที่ 2 ในเทศกาลมหาพรต

ข้าแต่พระเจ้า เป็นเหตุการณ์ที่ประหลาด แต่สร้างแรงบันดาลใจ เพราะต่อแต่นี้ ข้าพเจ้าจะไม่เฝ้าเพียรถามอีกต่อไปแล้ว ความเชื่อหลังจากเห็นพระองค์ตัวจริงเสียงจริง แถมพ่วงมาด้วยกับบรรดาประกาศก ไม่มีคำถามใด มีแต่การปฏิบัติต่อแต่นี้ เพื่อเผยแผ่ความรักของพระองค์ต่อทุกคน อาแมน

**********************************************************************************************************

สัปดาห์ที่ 3

-ข้อคิดจากพระคัมภีร์

ยน 2:13-25 “อย่าทำบ้านของเราให้เป็นตลาด”

-ข้อคิดจากสารมหาพรต

“ความดีคือทุกอย่างที่ให้ ปกป้องและส่งเสริมชีวิต ความเป็นพี่น้องกันและความเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นการรับผิดชอบต่อผู้อื่นจึงหมายถึงปรารถนาและกระทำเพื่อความดีของผู้อื่น โดยหวังว่าเขาเหล่านั้นจะเป็นผู้ที่ยอมรับคุณงามความดีและการเรียกร้องที่ทุกคนต้องทำความดี”

-ข้อคิดจากเหตุการณ์ของโลก

โลกของเราอุดมไปด้วยข้อมูล ข้อมูลจึงมีทั้งผู้ให้และผู้รับ ในเว็บไซต์ happiness.org ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพียงแต่ต้องการเผยแผ่ความคิดและคติเตือนใจดี ๆ เพื่อสร้างสุขให้กับโลกนี้ ได้เขียนไว้ว่า ก่อนพูดให้คิด (THINK) คิดว่าเป็นความจริงหรือไม่ (True) คิดว่าเป็นประโยชน์หรือไม่ (Helpful) คิดว่าสร้างแรงบันดาลใจหรือไม่ (Inspiring) คิดว่าจำเป็น(ต้องพูด)หรือไม่(Necessary) คิดว่าสิ่งที่จะพูดนั้น พูดด้วยความเมตตาหรือไม่(Kind) อย่าทำโลกใบนี้ให้มีแต่ข้อมูลเชิงลบ เราทำทุกสิ่งเพื่อส่งเสริมความดีงามแก่กัน

-ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

เหตุการณ์การทำลายข้าวของของผู้ที่มาขายของบริเวณรอบพระวิหาร หลายคนอาจจะมองว่าพระเยซูเจ้าลุแก่โทสะ ชายคนนี้เป็นใคร คำถามเหล่านี้ไม่สำคัญเท่า แล้วเราจะปล่อยให้ความผิดบาปและความชั่วเหล่านั้นดำเนินไปถึงเมื่อไหร่ คำถามนี้ไม่ใช่คำถามของโลกแต่เป็นคำถามถึงชีวิตเราแต่ละคนเช่นเดียวกัน เมื่อเราพิจารณาเห็นความบกพร่องแห่งชีวิตแล้วบางอย่างต้องใช้ยาแรง บางอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่หนทางที่ดีกว่านั้นคือ ไม่สร้างความผิดบาปใหม่ ใส่ใจกับคำพูดและการปฏิบัติต่อผู้คน

บทภาวนาสำหรับสัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต

ข้าแต่พระเจ้า ชีวิตที่เข้มข้นขึ้นของพระองค์จนมาถึงสัปดาห์นี้ จุดยืนที่ชัดเจน การตัดสินใจที่ไม่ขลาดกลัวต่ออิทธิพลใด ๆ ช่างเป็นแบบอย่างให้ลูกกล้าหาญในการเลือกความดีเป็นที่ตั้ง แต่กระทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ ทั้งนี้คงต้องอาศัยพละกำลังและการนำทางจากพระองค์ด้วยในทุก ๆ วันของชีวิต อาแมน

*************************************************************************************************************

สัปดาห์ที่ 4

-ข้อคิดจากพระคัมภีร์

ยน 3:14-21“ โมเสสยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น”

-ข้อคิดจากสารมหาพรต

“เราเข้าใจดี ผู้ที่สามารถมองข้ามตนเองและรู้สึกสงสารความทุกข์ยากของผู้อื่น การเข้าไปหาผู้อื่นแล้วเปิดใจให้กับความต้องการของพวกเขา สามารถเป็นโอกาสสำหรับความรอดและการที่จะได้รับพระพรจากพระเจ้า”

-ข้อคิดจากเหตุการณ์ของโลก

เด็กไทยกำลังจะได้รับการแจกแทบเล็ตเพื่อช่วยทางการเรียนรู้และยกระดับการศึกษา ในปีการศึกษา 2555 ซึ่งอยู่ในโครงการ One Tablet Pc Per Child โดยจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา หรือแทบเล็ต ในจำนวน 900,000 เครื่อง เพื่อแจกเด็กนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 ให้ครบทั้งหมด 860,000 คน โดยจะให้เด็กได้มีเทคโนโลยีใช้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ส่วนลักษณะการแจกจะเป็นการให้เด็กไปเลย

การให้ความสำคัญทางการศึกษาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ การศึกษาจึงสอนคนให้มีสติปัญญาเติบโต มีความคิดอ่านที่รอบคอบ แต่ในขณะเดียวกันคนเราก็ต้องเรียนรู้และเติบโตทางด้านจิตใจรวมทั้งจิตวิญญาณควบคู่ไปด้วยเช่นเดียวกัน เราจึงมองต่ำเพื่อเห็นประสบการณ์ที่ผ่านมา มองตรงไปข้างหน้าเพื่อก้าวต่อ และเงยหน้าให้สูงขึ้นเพื่อมองเห็นสิ่งที่อยู่สูงกว่าเรา คือพระเจ้านั่นเอง

-ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

มหาพรตสอนเราถึงเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต เก่ง ดี มีสุข อาจจะเป็นสโลแกนทางการศึกษาในช่วงระยะหนึ่ง แต่มหาพรตมาหาพระเป็นสโลแกนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไป จริง ๆ ไม่ใช่แค่มหาพรตเท่านั้น แต่เราต้องมาหาพระทุกวัน เมื่อมาหาพระแล้วจึงไม่เพียงเห็นตัวเองแต่เห็นผู้อื่น เห็นความทุกข์ยากลำบาก เห็นพระในตัวเพื่อนพี่น้อง
 

บทภาวนาสำหรับสัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต

ข้าแต่พระเจ้า บนความทุกข์ยากของข้าพเจ้ามีความทุกข์ยากของผู้อื่นเช่นกัน นอกจากข้าพเจ้าจะสามารถแบ่งเบาความทุกข์ร้อนเหล่านั้น ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเป็นสาเหตุแห่งความยากลำบากของเพื่อนพี่น้อง ขอให้พระองค์ทรงเป็นหลักชัยและความบรรเทาแห่งข้าพระองค์เสมอ เดชะพระคริสตเจ้า อาแมน

******************************************************************************************************************************

สัปดาห์ที่ 5

-ข้อคิดจากพระคัมภีร์

ยน 12:20-33 “ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงในดินและตายไป มันก็จะเป็นเพียงเมล็ดเดียวเท่านั้น”
 

-ข้อคิดจากสารมหาพรต

“ศิษย์ของพระคริสตเจ้าที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์โดยอาศัยศีลมหาสนิท ดำเนินชีวิตในความเป็นมิตรไมตรีจิต ซึ่งผูกมัดพวกเขาไว้ด้วยกัน ในฐานะที่เป็นอวัยวะแห่งกายเดียวกัน นี่หมายความว่าคนอื่นเป็นส่วนหนึ่งของข้าพเจ้า ซึ่งหมายความว่า ชีวิตของเราและความรอดของเขาเกี่ยวพันกับชีวิตและความรอดของข้าพเจ้าเองด้วย”

-ข้อคิดจากเหตุการณ์ของโลก

ซาแมนธาร์ สมิธ (Samantha Smith,1972-1985) เด็กหญิงสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ขวบ “ทูตสหรัฐที่อายุน้อยที่สุด” (America’s Youngest Ambassador ) และเป็นฮีโร่ของเด็กที่เรียกร้องสันติภาพในสมัยยุคสงครามเย็นระหว่างสหรัฐ และสหภาพโซเวียต ซึ่งเธอได้เขียนจดหมายถึงยูริ อังโดรปอฟ ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตตั้งคำถามว่าผู้นำโซเวียต กระหายสงครามหรือไม่ ถ้าไม่ เธอจะช่วยอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดสงครามขึ้น และทำไมสหภาพโซเวียตจึงอยากพิชิตโลก หรือสหรัฐ

“ในเมื่อพระเจ้าสร้างโลกให้เราอยู่ด้วยกันไม่ใช่ให้มาสู้กัน” ชื่อของซามาธาร์ได้กลายเป็นทูตและสื่อเยาวชนที่ทำงานสร้างสัมพันธ์เพื่อสันติภาพแห่งยุคคนที่ทำความดี เสี่ยง และยอมรับกับผลที่จะเกิดขึ้น อาจมีทั้งดีและร้ายแต่คนเหล่านั้นก็ยอมเพื่อให้ความดีงาม แต่เบ่งบานและเจริญเติบโตสืบไป

-ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

เคยสงสัยไหมว่า การทำความดีเราถึงขนาดต้องยอมเสียชีวิตของเราเลยหรือ? บางทีแบบอย่างของพระเยซูคริสตเจ้าก็ชัดเจนที่สุด พระมหาทรมานและการสิ้นพระชนม์สอนเราถึงสิ่งนี้ มรดกแห่งความรักยังตกทอดสืบมาในบูชามิสซาและในศีลมหาสนิท เรายังระลึกถึงพระองค์ในเหตุการณ์เหล่านั้น

เคยสงสัยไหมว่า เราเป็นใครพระองค์จึงต้องรักและเมตตาต่อเราเพียงนี้? คำตอบไม่ใช่เพียงแต่รู้ชัด แต่คงเป็นการปฏิบัติชีวิตในแบบพระเยซูเจ้า แม้เป็นได้เพียงเสี้ยวเศษแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย มหาพรตย้ำกับเราถึงการทรมาน ความตาย แต่มีเป้าหมายและจุดประสงค์ชัดเจน

บทภาวนาสำหรับสัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต

ข้าแต่พระเจ้า เทศกาลมหาพรตมาถึงช่วงเข้มข้นที่สุดแล้ว เส้นทางแห่งการภาวนา พลีกรรม ชดเชยใช้โทษบาป เพื่อร่วมรำพึงไปกับพระมหาทรมานขององค์พระเยซูเจ้า ช่างเป็นโอกาสที่ดีและเหมาะสมสำหรับชีวิตของเราที่ดำเนินไป เพราะพระองค์ทรงทำให้เห็นว่า ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวกว่า การที่เราไม่ได้เดินอยู่ในเส้นทางของพระองค์ อาแมน

********************************************************************************************************************************

อาทิตย์ใบลาน

-ข้อคิดจากพระคัมภีร์

 มก 15:1-39  “พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า”

-ข้อคิดจากสารมหาพรต

“ปลุกใจกันและกันให้มีความรักและประกอบกิจการดี เดินทางไปด้วยกันในความศักดิ์สิทธิ์”

-ข้อคิดจากเหตุการณ์ของโลก

“สุดยอดนักสร้างแรงบันดาลใจ “ นิค วูจิซิค (Nick Vujicic หรือ Nicholas James Vujicic, 1982) เด็กชายชาวออสเตรเลีย ผู้พิการแขนขาที่ถูกปฏิเสธจากโรงเรียน แต่ด้วยโชคดีที่รัฐบาลผ่านกฎหมายรับเด็กพิการเข้าเรียน เขาจึงเป็นคนแรกของเด็กที่ได้เข้าโรงเรียนในระบบ แต่กลับประสบปัญหาการเรียนและถูกเพื่อนล้อ แต่ด้วยพลังของครอบครัวที่ช่วยเหลือให้เขาได้ฟื้นฟูจิตใจ ทำให้ตอนที่เขาอยู่เกรด 7 ได้เข้าไปเป็นสภานักเรียนและทำงานด้านรณรงค์และจัดหาทุนท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีภาวะบกพร่องทางร่างกายและความพิการต่าง ๆ

จนอายุ 17 ปี ได้ก่อตั้งอค์กรเอกชน Life Without Limbs เพื่อสร้างแรงบันดาลใจการต่อสู้ชีวิตและการตระหนักเห็นคุณค่าของตนเอง และได้รับการเสนอชื่อรับรางวัลเด็กหนุ่มแห่งปีของออสเตรเลียเมื่อปี 2005 ปัจจุบันนิคได้ขึ้นชื่อ สุดยอดนักสร้างแรงบันดาลใจเรื่องราวชีวิตของพระเยซูเจ้า สร้างแรงบันดาลใจอะไรกับชีวิตคริสตชนของเรา?

- ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

ฉากชีวิตในช่วงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ถ้าเป็นบทละครคงดูมีสีสัน เราได้ฟังบทพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้ากันปีละ 2 ครั้งในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ และในวันอาทิตย์ใบลาน หลายคนคงจดจำมันได้ดีตั้งแต่ต้นยันจบ  ถ้อยคำ  ศัพท์ และภาษาอาจถูกปรับเปลี่ยนไปบ้างตามยุคสมัย เราอาจจะยืนฟังเฉย ๆ ร่วมอ่านไปด้วย ทั้งในใจและออกเสียง แต่สิ่งที่สำคัญคือเราควรอ่านชีวิต

เมื่อเราอ่านชีวิตของพระเยซูเจ้าในช่วงมหาทรมาน  และอ่านชีวิตของเราในช่วงใดก็ตาม ชื่อคริสตชนของเราคงชัดเจนมากขึ้น ว่าเราต้องดำเนินชีวิตเช่นไร ความดีที่เราแต่ละคนทำ เป็นการปลุกใจกันและกันและผู้คนให้หันมาเห็นความสำคัและพบว่า ความดียังมีอยู่บนโลกใบนี้ และร่วมกันสร้างหนทางไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต

-บทภาวนาสำหรับอาทิตย์ใบลาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกรำพึงเสมอ ๆ ถึงบรรยากาศแห่งพระมหาทรมานของพระองค์ มันเริ่มด้วยเสียงเซ็งแซ่ของความชื่นชม กิ่งปาล์ม และการมารอรับเสด็จพระองค์ด้วยความตื่นเต้นยินดี แต่เพียงไม่นาน เรื่องราวกลับเปลี่ยนแปลงรวดเร็วราวกับเป็นด้านตรงข้าม เสียงชื่นชมเปลี่ยนเป็นเสียงขับไล่และคาดคั้นจะเอาโทษให้ถึงตาย แต่เสียงของพระองค์กลับนิ่งเฉย สงบ เหมือนทุกครั้ง ในความเงียบพระองค์ปลุกให้พวกเราตื่นขึ้น จากจิตใจที่เย็นชา เข้าสู่การเดินหน้าของชีวิตที่มีศรัทธาร้อนรนอาแมน

**********************************************************************************************************************************

อาทิตย์สมโภชปัสกา

-ข้อคิดจากพระคัมภีร์

ยน 20:1-9  “เขาเห็นและมีความเชื่อ”

-ข้อคิดจากสารมหาพรต

“ในโลกที่เรียกร้องคริสตชนให้ฟื้นฟูการเป็นประจักษ์พยานแห่งความรักและความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ขอให้เราทุกคนรู้สึกว่า เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องรักซึ่งกันและกัน รับใช้กันและกระทำกิจการดี” (เทียบ ฮบ 6:10)

-ข้อคิดจากเหตุการณ์ของโลก

ความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับโลกใบนี้คืออะไร การหาวิธีป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นเมื่อใด บนโลกใบนี้ไม่มีใครทราบและฟันธงลงไปได้อย่างชัดเจน หรือการแก้ปัญหาปากท้อง ความยากจน ความเป็นอยู่ของผู้คน หรือการให้ได้มาซึ่งสิทธิมนุษยชน สำหรับคนที่ถูกละเมิด สำหรับบางประเทศที่ผู้หญิงเป็นเหมือน ประชากรคนละระดับ ปัญหาการเงิน เศรษฐกิจ ปัญหาคอรัปชั่น

ปัญหาอาชญากร การค้ามนุษย์ การค้าขายยาเสพติด ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ คนอพยพ โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่ในวงการแพทย์ยังไม่สามารถหาวิธีเยียวยาหรือรักษาได้ ฯลฯ ความจำเป็นเร่งด่วน สำหรับการดำเนินชีวิตของคริสตชนบนโลกใบนี้คืออะไร คำตอบก็คือ การเป็นประจักษ์พยานชีวิต

-ข้อคิดในการดำเนินชีวิต

ถ้าอัครสาวกบางคนไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าจะกลับคืนชีพ ตามคำที่พระองค์ได้ทรงกล่าวไว้ พวกเขาคงไม่มาแต่เช้าตรู่ของวันนี้ พวกเขาไม่ได้เห็นพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์เสด็จกลับคืนชีพแล้ว พวกเขาเห็นความว่างเปล่า แต่พวกเขาเชื่อ ไม่ได้เชื่อความว่างเปล่า แต่เชื่อว่า คูหาที่ว่างเปล่านั้นคือสิ่งที่บอกว่า พระองค์เสด็จกลับคืนชีพ

ความเชื่ออันเป็นชีวิตที่บรรดาอัครสาวกมี แม้ต้องยืนยันมันด้วยความตาย ได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับพระศาสนจักรจวบจนปัจจุบัน แม้ในสังคมไทยคริสตชนเป็นเพียงชนกลุ่มเล็ก ๆ แต่ถ้าเราทุกคนรักซึ่งกันและกัน ปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม การสิ้นพระชนม์ กลับคืนชีพ เส้นทางสู่ความศักดิ์สิทธิ์ในช่วงมหาพรต ในแต่ละปี ก็ไม่สูญเปล่า

-บทภาวนาสำหรับวันสมโภชปัสกา

ข้าแต่พระเจ้า ความชื่นชมยินดีของข้าพเจ้านั้นยังเต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจ การติดตามเส้นทางแห่งมหาพรต เพื่อก้าวสู่ปัสกา เป็นช่วงเวลาและโอกาสทองของชีวิตที่เราต้องคว้าไว้ เป็นโอกาสแห่งการพัฒนาชีวิตคริสตชน เป็นโอกาสแห่งการปลุกใจและเตือนความเชื่อของกันและกัน จากพระวาจา จากศีลศักดิ์สิทธิ์

จากข้อคิด และจากชีวิตของพวกเราอันเป็นประจักษ์พยานแห่งความดีงามต่อกัน และพร้อมส่งทอดความรักที่งดงามดุจเดียวกันนี้ จากองค์พระเยซูคริสตเจ้า สู่โลกของเรา อัลเลลูยา อัลเลลูยา จงชื่นชมยินดี ที่องค์พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงชนะบาปและความตาย คืนสิทธิ์แห่งการเป็นบุตรของพระเจ้าเพื่อเราทุกคน อาแมน