ครบปีที่ 5 แห่งสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
สาสน์ของเอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย

   องค์สมเด็จพระสันตะปาปา ผู้สืบตำแหน่งนักบุญเปโตร ได้ทรงเฉลิมฉลองปีที่ 5 แห่งสมณสมัยของพระองค์ เมื่อวันที่ 19 เมษายน ค.ศ.2010 ในพันธกิจการรับใช้และดำรงรักษาไว้ซึ่งพระศาสนจักนที่สถาปนาโดยพระคริสตเจ้าดังที่ทรงมีพระประสงค์และบัญชาให้เป็นเช่นนั้น พระคาร์ดินัลโยเซฟ รัตซิงเกอร์ สมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงพระสัจธรรม ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2005 และทรงเลือกใช้พระนามว่า เบเนดิกต์ที่ 16 เพื่อเจริญรอยตามประเพณีและจิตตารมณ์ของเบเนดิกติ

สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ได้รับการนำจากองค์พระจิตเจ้า ในการส่งเสริมนานาชาติด้วยพระสมณสาสน์ 3 ฉบับ คือ พระเจ้าทรงเป็นความรัก (2005) รอดพ้นด้วยความหวัง (2007) และล่าสุด ความรักในความจริง (2009) พระเจ้าทรงเป็นความรัก เริ่มต้นด้วย “พระเจ้าทรงเป็นความรักและผู้ใดดำรงอยู่ในความรัก ย่อมดำรงอยู่ในพระเจ้าและพระเจ้าดำรงอยู่ในเขา” (1ยน 4:16) คำกล่าวนี้บอกถึงความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งระหว่างความรักของพระเจ้ากับความเป็นจริงของความรักแบบมนุษย์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า “รักของพระเจ้าและรักของเพื่อนพี่น้อง” รอดพ้นด้วยความหวัง เปิดตัวด้วยคำว่า “เราได้รอดพ้นเพียงในความหวัง” (รม 8:24) อาศัยฤทธิ์กุศลแห่งความหวัง

เป็นความหวังอันล้ำค่าที่จะนำเราไปสู่จุดหมายของการไถ่ให้รอด ความรักในความจริง พระสมณสาสน์ฉบับล่าสุดของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 สอนเราว่า ความรักเป็นแรงขับพิเศษที่นำประชาชนให้มองถึงความเด็ดเดี่ยวและยึดมั่นด้วยใจยินดีในความยุติธรรมอีกทั้งยังกล่าวได้ว่าการแบ่งปันให้เป็นทุกสิ่ง เพราะทุกสิ่งมาจากความรักของพระเจ้า ทุกสิ่งบ่งบอกด้วยรักและถูกนำกลับไปสู่รัก ความรักจึงเป็นพระพรอันประเสริฐสำหรับมนุษยชาติ เป็นพระสัญญญาของพระองค์และเป็นความหวังของเรา

ในโอกาสแห่งความชื่นชมยินดีของการฉลองครบรอบสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ที่เราระลึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่านเป็นพิเศษ ชวนให้เราถวายความปรารถนาดีฉันบุตรและแสดงความยินดีแด่พระองค์ท่านให้เราวอนขอต่อพระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพโปรดทรงอำนวยพระพรแด่สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ผู้เป็นที่เคารพรักของชาวเรา

ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณอย่างสูงต่อ คณะพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวชและเหล่าประชาสัตบุรุษอันเป็นเพื่อนที่รักในประเทศไทย ในช่วงท้ายของปีที่ 7 ที่ได้อยู่ในพันธกิจการรับใช้ในประเทศที่น่ารักนี้ ประเทศที่มีความงดงาม มีศาสนา และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งแต่ที่ได้มาถึงข้าพเจ้ามีความหลงใหลและได้สัมผัสกับความสุภาพอ่อนหวาน รอยยิ้มที่จริงใจและการต้อนรับฉันมิตรของชาวไทย

ขอขอบคุณพระเป็นเจ้าสำหรับพระพรที่ได้รับตลอดระยะเวลาแห่งการรับใช้พันธกิจในประเทศไทยนี้ พันธกิจต่อไป คือ อินเดีย ข้าพเจ้าจะเดินทางไปพร้อมกับประสบการณ์และมิตรภาพที่ประเทศไทยมอบให้ และจะได้นำเอาความทรงจำที่เปี่ยมด้วยความสุขอันล้นเหลือในช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่มิอาจลืมเลือนได้ในชีวิตข้าพเจ้า ณ ประเทศอันยิ่งใหญ่นี้ คือ ประเทศไทย ไปกับข้าพเจ้าด้วย

ชาวไทยและพระศาสนจักรคาทอลิกไทยจะอยู่ในหัวใจและคำภาวนาของข้าพเจ้าตลอดไป ขอพระเป็นเจ้าประทานพร ขอบคุณครับ
 

ระอัครสังฆราชซัลวาตอเร เปนนักคีโอ
เอกอัครสมณทูตวาติกัน

(คุณพ่อพิพัฒน์ รุ่งเรืองกนกกุล ถอดความ)

ขอขอบคุณ หนังสืออุดมสาร