Share |

ประเด็นหลักในแผนอภิบาลที่สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทยได้ประกาศ ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ  เมื่อวันสมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ 15 สิงหาคม 2010 โดยให้ความสำคัญในการสร้างชุมชนคริสตชนพื้นฐาน ให้เป็นเครื่องหมายและเครื่องมือที่จะเป็นพยานยืนยันความเชื่อและการประกาศข่าวดีของพระคริสตเจ้า (RM.51)   ซึ่งต้องการความรัก  ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  ของศาสนบริกร ผู้อภิบาล ผู้ร่วมงานอภิบาล บรรดานักบวช สภาภิบาลวัด ผู้นำชุมชน และคริสตชนฆราวาสทุกคน

ในพันธกิจของพระศาสนจักรในประเทศไทยได้ดำเนินไปและเกิดผลตามที่พระอาจารย์เจ้าได้ทรงมอบหมายให้บรรดาศิษย์ว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา..........”( มธ.28:19 – 20 ) สำหรับพระศาสนจักรในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ  เมื่อปี 2005 ได้ประกาศกฤษฎีกาฯเรื่อง “ การฟื้นฟูชีวิตและพันธกิจของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ” โดยมีความมุ่งหวังว่า “ การประกาศข่าวดีแห่งความรอดพ้น เป็นเป้าหมายสูงสุดของพระศาสน-จักรแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ”   และ “ มุ่งฟื้นฟูชีวิตและพันธกิจของฆราวาส นักบวช และพระสงฆ์ เพื่อให้เป้าหมายนี้เด่นชัดและเป็นจริง”

ดังนั้นในฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยพันธกิจที่พระศาสนจักรได้รับมอบหมายจากพระคริสตเจ้า (LG.17 และ 20 ) คริสตชนทุกคนโดยผ่านทางศีลล้างบาป ได้มีส่วนในภารกิจหลัก 3 ประการ คือ การมีส่วนในพันธกิจของสงฆ์ กษัตริย์ และประกาศกแห่งศีลล้างบาป  ซึ่งคริสตชนได้รับส่วนในพันธกิจทั้ง 3 ประการนี้ เพื่อบันดาลความศักดิ์สิทธิ์ในสงฆ์แห่งศีลล้างบาป  เพื่อเป็นพยานยืนยันความเชื่อ ความไว้ใจและความรักในพระคริสตเจ้า ในฐานะกษัตริย์แห่งศีลล้างบาป  และเพื่อเป็นกระบอกเสียงประกาศข่าวดีแห่งความรอดและอาณาจักรของพระเจ้า ในฐานะประกาศกแห่งศีลล้างบาป  (AA 3 ; can.225.1 และ 759 )

เมื่อเป็นดังนี้คริสตชนทุกคนจึงมีเป้าหมายเดียวกันคือ สร้างเอกภาพด้วยการเป็นเครื่องหมายและเครื่องมือของพระศาสนจักรในโลกปัจจุบัน เป็นประจักษ์พยานด้วยความรักในพระคริสตเจ้าและในผู้อื่น ฝ่ายงานธรรมทูตอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จึงมีพันธกิจหลายประการอาทิเช่น ส่งเสริมและประสานความร่วมมือในงานแพร่ธรรมทั้งในระดับวัด เขตปกครองวัด องค์กรและหน่วยงาน 

ทั้งในระดับสังฆมณฑลและระดับชาติ ส่งเสริมและจัดอบรมฆราวาสในงานแพร่ธรรมทั้งในโรงเรียน (ยุวธรรมทูต) เยาวชน องค์กรฆราวาส ฯลฯ  ฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรและฆราวาสในงานศาสนสัมพันธ์ คริสตศาสนจักรสัมพันธ์ รวมถึงงานคำสอนสำหรับคริสตชนทั่วไป (RCIA) ภารกิจเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ซึ่งสอดคล้องกับสภาพระสังฆราชฯและกฤษฎีกาสมัชชาอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องการแรงสนับสนุนจากทุกส่วนของพระศาสนจักร ทั้งพระสงฆ์ นักบวชและคริสตชนฆราวาสทุกท่าน

ในโอกาสวันแพร่ธรรมสากล ประจำปี 2010 นี้ ผมในฐานะผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานธรรมทูต  อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ขอเชิญชวนพี่น้องทุกคน ได้ร่วมมือร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียวกับพระศาสนจักรคาทอลิกแห่งประเทศไทยแสดงออกให้เห็นจิตตารมณ์ความรัก  จิตตารมณ์ของธรรมทูต เพื่อให้พระเป็นเจ้าเป็นศูนย์รวมแห่งการแพร่ธรรม ส่งเสริมสนับสนุนการสร้างคุณธรรม ความดีให้แก่สังคมไทย ประเทศไทยของเราจะได้มีเอกภาพและสันติสุขที่แท้จริง  และเพื่อให้สอดคล้องกับหัวข้องานแพร่ธรรมปีนี้ที่ว่า “ ความเป็นหนึ่งเดียวของพระศาสนจักร คือ หลักในการแพร่ธรรม ”

หนึ่งเดียวกันในพระคริสตเจ้า
 

คุณพ่อสมเกียรติ      บุญอนันตบุตร
ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ขอขอบคุณแผนกธรรมทูตอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ