สารของพระสังฆราช โยเซฟ ประธาน ศรีดารุณศีล
ประธานคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระสงฆ์และผู้ถวายตัว
โอกาสวันภาวนาเพื่อพระกระแสเรียกสากล ครั้งที่ 45
13 เมษายน 2008
วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา
..................................................................................................
พี่น้องชายหญิงที่รักในพระคริสตเจ้า
1. นับเป็นความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราจะทอดสายตาไปยังพระคริสตเจ้านายชุมพาบาลที่ดี ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา เมื่อเราฉลองวันแห่งการภาวนาเพื่อพระกระแสเรียกในโลก
อีกครั้งหนึ่งที่พระศาสนจักร มารดาของเราได้เชื้อเชิญเราให้วอนขอพระพรแห่งพระกระแสเรียกด้วยความนอบน้อมต่อคำสั่งของพระเยซูเจ้าที่ว่า จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด (มธ 9,38)
2. สารของสมเด็จพระสันตะปาปาในวันนี้เชิญชวนเราทุกคนให้ไตร่ตรองในหัวข้อ กระแสเรียกเพื่อการรับใช้พระศาสนจักร การประกาศข่าวดี อันที่จริง คริสตชนทุกคนได้รับการเรียกมาเพื่อรับใช้พระศาสนจักรและประกาศข่าวดี ด้วยการเป็นประจักษ์พยาน อย่างไรก็ดี มิติของการประกาศข่าวดี ก็มีความผูกพันอย่างแนบแน่นและเป็นพิเศษกับกระแสเรียกของการเป็นพระสงฆ์ (ข้อ1) ดั่งที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงในสารของพระองค์
3. ในปัจจุบันนี้ แม้แต่ในประเทศของเราเอง กระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์และนักบวชเริ่มได้รับความสนใจน้อยลง คริสตชนจำนวนมากและโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาคนหนุ่มสาวมักมีความสนใจมากกว่าในค่านิยมจอมปลอมของการมีชีวิตที่สะดวกสบายและลัทธิบริโภคนิยม ไม่สนใจพระเจ้าและพระอาณาจักรของพระองค์ อย่างไรก็ดี กระแสเรียกก็ยังคงเป็นของประทานจากความรักของพระเจ้าสำหรับบุคคลที่พระองค์ทรงเรียก และสำหรับพระศาสนจักรโดยส่วนรวมอยู่เสมอ
4. ผู้ที่ถูกเรียกมาก็ได้รับการเชิญชวนเหมือนกับบรรดาอัครสาวกให้มาอยู่กับพระเยซูเจ้า และเติบโตในแต่ละวันในความสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ (เทียบ มก. 3,14) ในเวลาเดียวกันพระเยซูเจ้าทรงเรียกพวกเขามา เพื่อจะส่งพวกเขาออกไปประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรให้กับพี่น้องชายหญิงทั้งหลาย (เทียบ มก. 3,15) พระสันตะปาปาเตือนเราว่า สิ่งที่เป็นพลังผลักดันให้กับบรรดาอัครสาวกก็คือความรักของพระคริสตเจ้า (ข้อ 4) คนที่มีประสบการณ์ความรักของพระเจ้าที่มีต่อเขาเท่านั้น จึงจะสามารถและพร้อมที่จะอุทิศตนทั้งครบให้กับพระองค์และการรับใช้เพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้าในกระแสเรียกของการเป็นพระสงฆ์และนักบวช
5. ในโอกาสนี้ ขอย้ำเตือนพวกท่านทุกคนถึงความสำคัญของการสร้างกลุ่มคริสตชนและทำให้เติบโตขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ในบรรยากาศของความเชื่อ ความรัก การภาวนา และการเป็นประจักษ์พยานของข่าวดี และในบริบทนี้เท่านั้นที่กระแสเรียกจึงจะเกิดขึ้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า ในผืนดินที่ให้ชีวิตจิตวิญญาณนี้เท่านั้น ซึ่งได้รับการเพาะอย่างดี ที่กระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์และผู้ถวายตนแด่พระเจ้าจึงจะสามารถเกิดผลดี (ข้อ 8)
6. ขอเชิญชวน คริสตชนทุกกลุ่ม ทุกครอบครัว ให้ใส่ใจและรับผิดชอบ เอาใจใส่สนับสนุนกระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์และผู้ถวายตนแด่พระเจ้า อาศัยการเจริญชีวิต คริสตชนอย่างครบครัน อย่าลืมว่าทุกคนมีบทบาทสำคัญในการเตรียมหนทางเพื่อการเรียกของพระเจ้า และในการทำให้เสียงเรียกนั้นดังก้องในโลกที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการได้ยินเสียงเรียกของพระเจ้า อีกประการหนึ่ง คุณภาพชีวิตของคริสตชนก็เป็นเครื่องบ่งบอกถึงคุณภาพของกระแสเรียกด้วยเช่นกัน พระศาสนจักรยังมีความต้องการกระแสเรียกที่ดีและมีคุณภาพอีกมากเพื่อการรับใช้ประชากรของพระเจ้าและของโลก
7. ขอให้ผู้ที่เป็นบิดามารดาคริสตชนทุกคนรับรู้ว่าเป็นหน้าที่ของพวกท่านด้วยที่จะช่วยให้ลูกๆ ของพวกท่านได้ค้นพบและตอบรับกระแสเรียกของพวกเขา โดยไม่ต้องบังคับหรือขัดขวางการเรียกของพระเจ้า ถ้าพวกท่านหวังว่าคนหนุ่มสาวจะเลือกเอาพระเป็นเจ้าเป็นอันดับแรกในชีวิตของพวกเขาแม้ในท่ามกลางสังคมที่ชินชาต่อคุณค่าแบบคริสตชน ท่านจะต้องแสดงให้พวกเขาเห็นว่าการให้พระเป็นเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิตเป็นสิ่งที่ประเสริฐกว่า ให้เราพิจารณาดูว่าพวกเราจำนวนมากเท่าใดที่ได้รับความเชื่อที่มาจากประจักษ์พยานชีวิตของบิดามารดาของเรา
8. ในวันนี้ที่เราภาวนาเพื่อพระกระแสเรียก เราวอนขอพระเจ้าได้โปรดประทานคนงานให้มาเก็บเกี่ยวในสวนองุ่นของพระองค์ ให้เราอุทิศตนเองเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการตัดสินใจของบรรดาหนุ่มสาวเพื่อติดตามพระคริสตเจ้าในชีวิตพระสงฆ์และชีวิตของการเป็นผู้ถวายตนแด่พระเจ้า ให้เราได้สนับสนุนผู้ที่มีความพร้อมในการติดตามพระเยซูเจ้าและเจริญรอยตามบรรดาอัครสาวก อาศัยความช่วยเหลือของพวกท่าน พวกเขาจะได้เจริญชีวิตอย่างซื่อสัตย์ต่อกระแสเรียกของพวกเขาตลอดไป ชีวิตของพวกเขาจะเป็นการรณรงค์กระแสเรียกที่มีพลังมากที่สุด ชีวิตของพวกเขาจะกลายเป็นคำเชิญชวนและแบบอย่างสำหรับอีกหลายๆ คนที่จะเดินตาม มีพระสงฆ์และนักบวชมากมายเพียงใดที่มีชีวิตที่ดึงดูดใจคนในกระแสเรียกนี้อาศัยประจักษ์พยานที่เป็นแบบอย่างของการเป็นพระสงฆ์และนักบวชที่อุทิศตนซึ่งเราสามารถจะพบได้ในชีวิตของพวกเขา
9. ขอพระแม่มารีอา มารดาแห่งกระแสเรียก เสนอวิงวอนต่อพระบุตรของพระแม่เพื่อเรา พระแม่เป็นผู้ที่สามารถเสียสละและมอบความใฝ่ฝันในชีวิตทั้งหมดของพระนางแด่พระเจ้าซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดจะจินตนาการได้ คือการเป็นมารดาของพระเจ้า ได้ช่วยให้คนหนุ่มสาวทั้งหลายมีความพร้อมที่จะเสียสละตนเองเพื่อพระคริสตเจ้าและเพื่อรับใช้พระศาสนจักรในการประกาศข่าวดี
ขอพระเจ้าโปรดอวยพระพรแด่ทุกท่าน
(พระสังฆราช โยเซฟ ประธาน ศรีดารุณศีล)
ประธานคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระสงฆ์และผู้ถวายตัว
ข้อมูล : สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
