วาติกันแถลงยืนยันว่า พระนามของ “สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส” มาจาก “ฟรานซิส อัสซีซี” ไม่ใช่ ฟรานซิส เซเวียร์ (นอกจากนี้ มีการยืนยันว่า การเรียกพระนามที่ถูกต้องคือ “สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส” ... ไม่ต้องมี "ที่ 1")

ฟรานซิส (อัสซีซี) – วาติกันแถลงยืนยันว่า พระนามของ “สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส” มาจาก “ฟรานซิส อัสซีซี” ไม่ใช่ ฟรานซิส เซเวียร์ (นอกจากนี้ มีการยืนยันว่า การเรียกพระนามที่ถูกต้องคือ “สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส” ... ไม่ต้องมี "ที่ 1")

นอกจากนี้ ความประทับใจล่าสุดที่มีต่อพระสันตะปาปาองค์ใหม่ก็คือหลังจากปรากฏพระองค์ต่อหน้าสัตบุรุษและจะกลับไปหอพักซางตา มาร์ธา พระสันตะปาปาฟรานซิสปฏิเสธจะนั่งรถประจำตำแหน่งพระสันตะปาปา แต่เลือกจะนั่ง “รถบัส” กลับไปพร้อมกับคณะพระคาร์ดินัล ... นอกจากนี้ สมัยเป็นพระคาร์ดินัล ท่านปฏิเสธการมีรถประจำตำแหน่งเช่นกัน โดยเลือกขึ้นรถเมล์ไปทำงาน, เลือกห้องนอนที่เล็กที่สุด และไม่มีแม่ครัว แต่เลือกจะทำอาหารเอง

พระคาร์ดินัลจอร์จ มารีโอ แบร์กอยีโอ ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ฝูงชน ที่มาชุมนุมหน้าวิหารนักบุญเปโตร เมื่อได้รับการเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา ก่อนได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาท่านเป็นผู้ที่ต่อสู้เพื่อคนจนมาตลอดเวลา ขณะที่เป็นอัครสังฆราช ท่านได้เจริญชีวิตอย่างสมถะ และปฏิเสธสิทธิ์พิเศษต่างๆ ท่านเป็นคนที่มีใจเมตตากรุณา สุภาพ และเจริญชีวิตอย่างเรียบง่าย ท่านไม่ต้องการมีรถยนต์ส่วนตัว แต่ได้นั่งรถบัสไปทำงานทุกวัน ท่านไม่มีแม่ครัว แต่ทำอาหารรับประทานเอง พระองค์เป็นสังฆราชองค์แรกที่มาจากคณะเยซูอิต ที่ได้รับการก่อตั้งโดยนักบุญอิกญาซีโอ ในศตวรรษที่ 16 พระคาร์ดินัล เอ็ดวาร์ด อีแกน พระอัครสังฆราชกิติคุณแห่งอัครสังฆมณฑลนิวยอร์ดได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพระสันตะปาปาองค์ใหม่ว่า “พระองค์เป็นผู้ที่ยืนข้างความถูกต้องและยุติธรรม” และได้เสริมว่า “พระองค์เป็นผู้ที่มีใจเมตตากรุณาต่อคนยากจน”

ในช่วงที่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ เมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว พระสันตะปาปาฟรังซิส ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลจอร์จ มารีโอ แบร์กอยีโอ ได้ประกาศตัวเป็นผู้ต่อสุ้เพื่อคนยากจน และปกป้องความอยุติธรรม ท่านได้กล่าวว่า “พวกเรามีชีวิตอยู่ในส่วนที่เลื่อมล้ำที่สุดในโลก ที่มีแต่ความยากจนที่ข้นแค้นที่สุด”

ในปี 2007ท่านได้บอกกับบรรดาพระสังฆราชแห่งลาตินอเมริกาว่า “การแบ่งปันทรัพยากรที่อยุติธรรม ทำให้เกิดบาปทางด้านสังคม ที่ได้ตะโกนร้องขึ้นไปบนสวรรค์ และทำให้ชีวิตของเพื่อนพี่น้องไม่สามารถจะมีชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี” พระสันตะปาปาองค์ใหม่ มีนโยบายอนุรักษ์นิยม ต่อต้านการทำแท้ง และการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ท่านได้เคยต่อสู้กับประธานาธิบดีว่า การยอมรับเกย์ว่าเป็นสิ่งถูกกฏหมายเป็นรูปแบบหนึ่งของการแบ่งแยกต่อพวกเด็กๆ ในปี 2010 ประเทศอาร์เจนตินา เป็นประเทศแรกในลาตินอเมริกา ที่ได้ประกาศกฎหมายรับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ท่านได้ประกาศว่ากฎหมายที่ประกาศออกมา เป็น”แผนการที่ทำลายแผนการของพระเป็นเจ้า”

ต่อมาท่านได้ถูกส่งตัวไปสอนวิชาเคมี ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ทางตอนเหนือของประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเปรียบเหมือนการถูกเนรเทศนั่นเอง ต่อมาพระอัครสังฆราชแห่งบูโนสไอเรส ได้เรียกท่านให้มารับตำแหน่งพระสังฆราชผู้ช่วย นักข่าวNBCได้กล่าวว่า “ท่านเป็นคนเข้มแข็ง ที่สามารถทนต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ท่านเคยถูกสมาชิกคณะเยซูอิตวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเป็นเวลาติดต่อกันหลายปี “ท่านเรียนจบปริญญาทางด้านเคมี และได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์ ในเดือนธันวาคม 1969 และได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอัครสังฆราชแห่งบูโนสไอเรสในปี 1998 ก่อนที่จะเข้าที่ประชุมลับเพื่อเลือกตั้งพระสันตะปาปา ท่านได้พูดว่า “มันเป็นความจริง เมื่อท่านออกไปบนถนน อย่างที่ทั้งชายและหญิงได้ปฏิบัติกัน ท่านอาจจะประสบกับอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามถ้าพระศาสนจักรปิดตัวเอง ไม่ยอมสมาคมกับใคร พระศาสนจักรจะเป็นพระศาสนจักรที่ร่วงโรย เหมือนคนชรา และถ้าต้องเลือกระหว่างพระศาสนจักรที่ต้องเสี่ยงภัย เพราะออกไปบนถนน และอาจจะประสบกับอุบัติเหตุ กับพระศาสนจักรที่อมโรค เพราะมัวแต่ปิดตัวเอง ข้าพเจ้าขอเลือกพระศาสนจักรประเภทแรกมากกว่า”

แปลโดย : คุณพ่อ ชวลิต กิจเจริญ