หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

คำกล่าวของคุณพ่อเจมส์ ฟิตซ์แพทริก (โอ.เอม.ไอ.)

ผู้ดำเนินเรื่องกรณีคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง เป็นบุญราศี

ในพิธีปิดกระบวนการพิจารณาของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ. 1998

ที่ บ้านผู้หว่าน สามพราน นครปฐม

พระศาสนจักรยุคต้นๆ ได้ให้คำตักเตือนแก่อัครสาวกว่าดังนี้:

"ข้าพเจ้ากำชับท่านต่อพระพักตร์พระเจ้าและพระเยซูคริสต์ ผู้จะทรงพิพากษาคนเป็นและคนตาย โดยอ้างถึงการที่พระองค์จะเสด็จมาปรากฏ และแผ่นดินของพระเจ้าว่า ให้ประกาศพระวจนะให้ขะมักเขม้นที่จะทำการทั้งในขณะที่มีโอกาสและไม่มีโอกาส ให้ชักชวนด้วยเหตุผล เตือนสติ และตักเตือนให้อดทนอยู่เสมอในการสั่งสอน" (2 ทิโมธี 4:1-2)

ด้วยคำพูดเหล่านี้ของนักบุญเปาโลที่สั่งสอนทิโมธีสานุศิษย์ของท่าน และคำสั่งเหล่านี้ได้ดังก้องอยู๋ในหัวใจของพระสงฆ์ทุกองค์ตลอดมาจนถึงพระศาสนจักรในปัจจุบันนี้

ในเวลา 10 วันที่ผ่านมานี้ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้พิจารณาอย่างเป็นทางการ เพื่อตรวจสอบกรณีแวดล้อมต่งๆ เกี่ยวกับการตายของลูกชายคนหนึ่งคือ คุณพ่อเบเนดิกโต บุญเกิด กฤษบำรุง หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ คุณพ่อนิโคลาส คำพูดของนักบุญเปาโลได้รับการตอบรับแล้วโดยพระสงฆ์ของประเทศไทยองค์นี้ คุณพ่อนิโคลาสได้ประกาศข่าวดี แม้เมื่อไม่ได้รับการต้อนรับ และท่านได้ทำการสั่งสอนด้วยความพากเพียรและเอาใจใส่เสมอมา ท่านได้เทศน์สอนพระวาจาของพระเป็นเจ้าในเขตแพร่ธรรมทางภาคเหนือ ท่านยังคงทำการเทศน์สอนต่อไปแม้จะถูกคุมขังอยู่ในคุก จริงๆ แล้ว การตายอย่างเงียบๆ อย่างต้อยต่ำของท่านในคุกเป็นการประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้าอย่างกึกก้อง

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของพระศาสนจักรเกี่ยวกับแบบอย่างอันดีเลิศนั้น หลังจากพระเยซูคริสต์และบรรดาอัครสาวก นักบุญองค์แรกๆ ก็คือมรณสักขี พวกท่านเหล่านั้นคือเสาหลักของการก่อตั้งพระศาสนจักรท้องถิ่นในทุกวิถีทาง ท่านเหล่านี้คือบุคคลผู้มีความเชื่ออย่างลึกซึ้งในความรักของพระเป็นเจ้า จนกระทั่งไม่มีการทดลอง, ไม่มีการถูกจองจำ, ไม่มีความทุกข์ทรมาน ไม่มีแม้กระทั่งความตาย ที่สามารถแยกความรักของพระเป็นเจ้าออกจากพวกเขาได้ คำว่า "มรณสักขี" หมายถึง "พยาน" และศตวรรษแล้วศตวรรษเล่าที่ผ่านมา เราได้เห็นชายและหญิง, พระสงฆ์ และฆราวาส ซึ่งได้เป็นพยานถึงพระพระเยซูคริสต์ด้วยชีวิต และเป็นพยานจนถึงที่สุดด้วยการตายอย่างชื่นชมยินดี

คุณพ่อนิโคลาสเป็นเหมือนห่วงๆ หนึ่งของโซ่ทองของบรรดาพยาน ท่านไม่ได้จากพระศาสนจักรไทยไปเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1944 ความตายของท่านไม่ได้เป็นการสิ้นสุด แต่มันเป็นการเริ่มต้น ความกระตือรือร้นต่อพระเป็นเจ้าและวิธีการอันยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงสามารถทำให้ท่านดำรงชีวิตอยู่ได้ การตายของท่านเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ และเป็นพยานต่อความจริงอันลึกซึ้งภายในตัวคุณพ่อ ความตายทำให้ท่านมีชีวิตอย่างมีเกียรติจนถึงทุกวันนี้ ท่านไม่ถูกจำกัดด้วยเวลาหรือระยะทาง ท่านไม่ถูกหน่วงเหนี่ยวโดยการขู่เข็ญหรือการเบียดเบียน แท้จริงแล้ว คุณพ่อมีชีวิตอยู่ในทุกวันนี้มากกว่าที่เคยมีชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1944 ข้าพเจ้าแน่ใจว่าคุณพ่ออยู่กับพวกเราในทุกวันนี้ในเคหาสน์ของท่าน

การพิจารณาของสังฆมณฑลในหลายๆ วันที่ผ่านมานี้ ได้ทำการรวบรวมประวัติ, เอกสารต่างๆ และการสอบพยานเกี่ยวกับคุณพ่อนิโคลาส ทั้งหมดเหล่านี้สอดคล้องต้องกันอย่างลงตัวในภาพอันน่าพิศวงของคุณพ่อ คือภาพแห่งศรัทธา, ความกระตือรือร้น และความกล้าหาญ สิ่งต่างๆ นี้เป็นการเสริมความจริงให้โดดเด่นยิ่งขึ้น, เป็นมรดกอันทรงเกียรติ และมรดกนี้เป็นของพระศาสนจักรในประเทศตั้งแต่เริ่มต้นจนบังเกิดผล และถูกประทับตราไว้ในประศาสนจักรแห่งประเทศไทยนี้

เฉพาะอย่างยิ่ง มรดกนี้เป็นของพวกท่านโดยเฉพาะ คือบรรดาพระสงฆ์ของพระศาสนจักรนี้ พวกท่าน (บรรดาพระสงฆ์) คือทายาทของคุณพ่อนิโคลาสที่สืบทอดมา คือเพื่อนในสังฆภาพของคุณพ่อ พวกท่านคือผลของการเติบโตและการสืบทอดของคุณพ่อ พวกเราต้องไม่เศร้าโศกกับศพที่คุกบางขวาง พวกเราต้องฉลองความทรงจำที่มีชีวิตชีวา ความทรงจำที่เบ่งบานด้วยความเชื่อ ความทรงจำที่เผาผลาญด้วยความกระตือรือร้น ความทรงจำที่ทำให้เข้มแข็งด้วยความกล้าหาญ ความทรงจำไม่ใช่บางสิ่งบางอย่างในอดีต แต่เป็นความจริงในปัจจุบัน และคุณพ่อคือความทรงจำเหล่านั้น พวกท่านไม่ใช่เพียงเก็บความทรงจำของคุณพ่อไว้ แต่ตัวพวกท่านเองคือความทรงจำของคุณพ่อด้วย ช่างเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่! ช่างเป็นสิทธิพิเศษ! พวกท่านมีบุญอย่างทวีคูณ

ถ้าคุณพ่อนิโคลาสยังมีชีวิตอยู๋ในปัจจุบันนี้ ท่านมีชีวิตอยู่ในตัวพวกท่าน วิธีการตายของคุณพ่อ บางที ไม่ใช่เพื่อพวกท่าน แต่เหตุผลของความตายต้องอยู่ในตัวพวกท่านแต่ละคน ความเชื่อของคุณพ่อจะต้องมีชีวิตอยู่ในตัวพวกท่าน ความกระตือรือร้นของคุณพ่อจะต้องมีชีวิตอยู่ในตัวพวกท่าน ความกล้าหาญของคุณพ่อจะต้องมีชีวิตอยู่ในตัวพวกท่าน พวกท่านต้องไม่ปล่อยให้คุณพ่อต้องตายอีก นี่คือความรับผิดชอบ นี่คือสิทธิพิเศษของพวกท่าน คุณพ่อทั้งหลายขอให้รับผิดชอบในสิทธิพิเศษของพวกท่าน สัตบุรุษในประเทศนี้ในปัจจุบันต้องการพระสงฆ์ที่เหมือนกับคุณพ่อนิโคลาส ขอให้รับผิดชอบในสิทธิพิเศษของพวกท่าน พระศาสนจักรในประเทศไทยปัจจุบันนี้ต้องการพระสงฆ์ที่เหมือนกับคุณพ่อนิโคลาส ขอให้รับผิดชอบในสิทธิพิเศษของพวกท่าน การเผยแพร่พระวรสารของพระเยซูคริสตเจ้าปัจจุบันนี้ ต้องการพระสงฆ์ที่เหมือนกับคุณพ่อนิโคลาส ขอให้รับผิดชอบในสิทธิพิเศษของพวกท่านนี้

ข้าพเจ้ายินดีที่อัครสังฆมณฑลของพวกท่านได้นำเสนอกรณีคุณพ่อนิโคลาสนี้ต่อพระศาสนจักรในฐานะพยานแห่งความเชื่อ แบบอย่างสำหรับทุกคน ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชูในความเอาใจใส่ด้วยความรับผิดชอบสำหรับกรณีนี้อย่างกระตือรือร้น และมอบความไว้วางใจแก่ข้าพเจ้าให้ทำหน้าที่ผู้ดำเนินเรื่อง ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อวิชา หิรัญญการ ผู้พิพากษา และสมาชิกคนอื่นๆ ของศาล สำหรับงานหนักชิ้นนี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดีและกรุณาทำให้สำเร็จเป็นด้วยดี ข้าพเจ้ารู้สึกเลื่อมใสและชื่นชมเป็นพิเศษสำหรับความมานะพยายามอย่างต่อเนื่องของคุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์ ในความเอาใจใส่สำหรับกรณีนี้ ในการตั้งใจทำการรวบรวมหลักฐานเอกสาร และทำให้กระบวนการพิจารณาบังเกิดผลสำเร็จ พวกเราทั้งหลายเป็นหนี้บุญคุณคุณพ่อที่ต้องขอบคุณ บางครั้งเราเรียกสั้นๆ ว่า "เล็ก" แต่ที่ถูกน่าจะเป็น "เล็กพริกขี้หนู" หรือน่าจะเป็น "จิ๋วแต่แจ๋ว"

ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ผลการพิจารณาของศาลชิ้นนี้จะถูกส่งไปยังที่กรุงโรม ก่อนที่คำตัดสินที่ชัดเจนจะประกาศออกมา ขณะที่พวกเรากำลังรอคอย พวกท่านต้องสวดภาวนาสำหรับกรณีนี้เป็นพิเศษ จงทำเหมือนเป็นหน้าที่ จงทำด้วยความยินดี และจงรับผิดชอบในสิทธิพิเศษนี้ด้วยเมื่อนักบุญเปาโลเขียนจดหมายถึงทีโมธี เกี่ยวกับเรื่องความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้า ในคำพูดต่างๆ นั้น ข้าพเจ้าขอยกเอาคำพูดซึ่งนักบุญเปาโลได้กล่าวว่า:

"เพราะว่าข้าพเจ้ากำลังจะตกเป็นเครื่องบูชาอยู่แล้ว ถึงเวลาที่ข้าพเจ้าจะจากไป ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้แข่งขันจนถึงที่สุด ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว" (2 ทิโมธี 4:6-7)

สิ่งที่เป็นภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ของคุณพ่อนิโคลาสคือ เป็นคนไทยแท้ เป็นพระสงฆ์ที่อุทิศตนเอง เป็นพี่ชายของพวกท่านในองค์พระเยซูคริสต์ และนักบุญเปาโลได้ลงท้ายว่า:

"...ข้าพเจ้าได้สู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้แข่งขันจนถึงที่สุด ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว ต่อแต่นี้ไป มงกุฎแห่งความชอบธรรมก็จะเป็นของข้าพเจ้า ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิพากษาอันชอบธรรมจะทรงประทานเป็นรางวัลแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และมิใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะทรงประทานแก่คนทั้งปวงที่ยินดีในการเสด็จมาของพระองค์"(2 ทิโมธี 4:1-2)

คำพูดเหล่านั้นพบได้จากการปฎิบัติหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมของคุณพ่อนิโคลาส คุณพ่อได้รับมงกุฎแห่งความชอบธรรมของท่านแล้ว ข้าพเจ้าสวดภาวนาขอให้พระหรรษทานจากพระเป็นเจ้าหลั่งไหลมายังพวกเราแต่ละคนที่นี่วันนี้ ด้วยแบบอย่างและคำอ้อนวอนของคุณพ่อนิโคลาสของพวกท่าน "คนไทย" พระสงฆ์และมรณสักขี.

(แปลและเรียบเรียงจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ)