หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

3.การประเมินชื่อเสียงแห่งมรณสักขี (Fama Martyrii)

และความเห็นของบรรดาคริสตชน (Public Opinion)

ทางสมณกระทรวงได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มาก เพราะเป็นเครื่องหมายภายนอกประการหนึ่ง ที่จะให้ความมั่นใจต่อการตัดสินกรณีนี้มากขึ้น ดังนั้น ในปี ค.ศ. 1996 จึงได้จัดพิมพ์หนังสือประวัติสังเขปของคุณพ่อนิโคลาส 2 ครั้ง จำนวน 10,000 เล่ม เพื่อแจกจ่ายให้สัตบุรุษได้อ่าน โดยส่งไปตามวัดต่างๆ และสังฆมณฑลต่างๆ พร้อมทั้งแนบแบบฟอร์มเพื่อขอทราบความคิดเห็นจากสัตบุรุษไปด้วย

วันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1997 พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้ออกประกาศให้ทราบถึงการดำเนินงาน และขอให้สัตบุรุษได้ร่วมกันสวดภาวนาและแสดงความคิดเห็นส่งกลับไปยังคณะกรรมการดำเนินงาน สำหรับผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือโดยการสวดภาวนาวอนขอต่อพระเป็นเจ้าโดยผ่านทางคำเสนอวิงวอนของคุณพ่อนิโคลาส ก็ขอให้เขียนเล่าเรื่องราวส่งไปยังคณะกรรมการฯ

ระหว่างปี ค.ศ. 1995-1996 ได้มีการสำรวจความคิดเห็นจากสัตบุรุษทั่วไป ซึ่งมีผู้ลงชื่อสนับสนุนเป็นจำน วนประมาณ 11,500 คน จากวัดต่างๆ ในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ 34 วัด

ในสังฆมณฑลอื่นๆ 700 คน จากจำนวน 14 วัด และมีหลายคนได้เล่าให้ฟังถึงการสวดภาวนาขอคุณพ่อนิโคลาสและได้รับความช่วยเหลือ ได้มีจดหมายส่งไปยังคณะกรรมการฯ ทั้งที่เป็นการแสดงความคิดเห็น 470 ฉบับ เล่าถึงการสวดภาวนาและได้รับความช่วยเหลือ 292 ฉบับ ทั้งนี้เพื่อเป็นเอกสารประกอบส่วนหนึ่งที่ต้องรวบรวมสรุปส่ งไปยังคณะกรรมการที่กรุงโรม ในระหว่างนี้ได้มีการติดต่อประสานงานระหว่างกรุงเทพฯ กับคุณพ่อฟิตซ์แพทริก อย่างต่อเนื่องถึงความคืบหน้าและสิ่งที่ต้องทำเป็นระยะๆ

งานหลายๆ อย่างในเวลานี้ก็ต้องทำต่อไป เวลาเดียวกัน ผมก็ใช้เวลาช่วงนี้ในการศึกษาวิธีการและกฎระเบียบต่างๆ ของสมณกระทรวงเกี่ยวกับการดำเนินการเปิดศาล หรือกระบวนการพิจารณาระดับสังฆมณฑลอย่างละเอียด เอ าคู่มือมาอ่านอยู่หลายรอบก็พอเข้าใจ แต่ก็มีข้อสงสัยเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา บังเอิญในช่วงต้นเดือนตุลาคม ค.ศ. 1997 จะมีการเปิดศาลเพื่อพิจารณากรณีอัศจรรย์ของ แมร์ กาเมอแลง (M่re Gamelin) ที่ประเทศคานาดา ผมจะไม่พูดถึงท่านผู้นี้ เพราะจะทำให้ยาวเกินไป พระศาสนจักรคานาดาดำเนินงานเรื่องเกี่ยวกับกรณีต่างๆ ของการเป็นบุญราศีและนักบุญหลายกรณี คุณพ่อฟิตซ์แพทริกมีความเห็นว่า เราน่าจะไปสังเกตการณ์และศึกษาวิธีการพิจารณา เพร าะมีระเบียบกฎเกณฑ์อยู่มากมาย อีกทั้งเรายังไม่เคยมีประสบ- การณ์มาก่อน เมื่อครั้งดำเนินเรื่องกรณีบุญราศีทั้ง 7 ที่สองคอน ก็ยังใช้กฎหมายเก่าก่อนปี ค.ศ. 1983 อยู่ จึงไม่เหมือนกัน ในที่สุด คณะกรรมการฯ และผู้ใหญ่ก็อนุมัติให้ผมและคุณพ่อวิชา

หิรัญญการ เดินทางไปประเทศคานาดาเพื่อศึกษาวิธีการพิจารณาวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1997 ได้มีการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานเพื่อเตรียมงานสำหรับวันเปิดศาล ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน โดยแต่งตั้งคณะกรรมาธิกา รด้านต่างๆ ขึ้นคือ ด้านประวัติศาสตร์, ด้านเทววิทยา, ด้านบุคลากรศาล และด้านการแปลเอกสาร เป็นต้น

วันที่ 13-23 มกราคม ค.ศ. 1998 พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธานกล่าวเปิดกระบวนการพิจารณากรณีการขอแต่งตั้ง คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง เป็นบุญราศี มีคุณพ่อวิชา หิรัญญการ ผู้อำนวยการหน่วยงานวินิจฉัยคดีของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ (ฝ่ายพระศาสน จักร) เป็นประธานการพิจารณา ได้ทำพิธีระดับท้องถิ่นขึ้น ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน นครปฐม

เพื่อพิจารณาการสอบพยานบุคคล และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตายของคุณพ่อนิโคลาส และสรุปเรื่องราวทั้งหมด ประทับตราต่อหน้าพยานและพี่น้องสัตบุรุษ และส่งมอบเอกสารให้แก่สมณกระทรวงว่าด้วยเรื่องนักบุญ โดยมีคุณพ่อเจมส์ เอ็ม ฟิตซ์แพทริก ผู้ดำเนินเรื่องที่กรุงโรม ซึ่งได้เดินทางมาร่วมในพิธีดังกล่าวเป็นผู้รับมอบ

ได้เชิญพยานบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณพ่อนิโคลาสมาสอบถาม เช่น คนที่เคยติดคุกพร้อมกับท่าน, คนที่เ คยทำงานร่วมกับท่านในช่วงสุดท้ายของชีวิต รวมทั้งญาติพี่น้องของคุณพ่อ พร้อมทั้งต้องแปลเอกสารเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษให้ทัน เพื่อจะได้ส่งมอบอย่างเป็นทางการในวันสุดท้ายตามที่กำหนดคือวันปิดกระบวนการพิจารณา

หลังจากทำพิธีส่งมอบเอกสารดังกล่าวแล้ว ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการทำงานในส่วนของพระศาสนจักรท้องถิ่นในประเทศไทย คณะกรรมการที่กรุงโรม หลังจากได้รับเรื่องแล้ว ได้ดำเนินเรื่องนี้ ซึ่งนับว่าเร็วมากเพียงประมาณ 21 เดือนกว่าๆ เท่านั้น

วันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1998 สมณกระทรวงออกกฤษฎีการับรองความถูกต้องของเอกสาร และกระบวนการพิจารณาที่กระทำขึ้น

ขั้นต่อไปที่สำคัญมากอีกขั้นหนึ่งได้แก่ การเขียนและส่ง "Positio" ซึ่งเป็นงานศึกษาชีวิตและวีรกรรมของคุณพ่อนิโคลาสเชิงวิชาการ การเขียนหนังสือเล่มนี้ต้องเขียนโดยใช้ระเบียบและวิธีการของสมณกระทรวง ทั้งนี้เพื่อมอ บงานเขียนนี้แก่บรรดาสมาชิกของคณะกรรมการตรวจสอบทางด้านเทววิทยาของสมณกระทรวง พวกเราได้เตรียมงานเขียนนี้นานพอสมควร และที่สุดก็เดินทางไปกรุงโรมเพื่อจัดพิมพ์และส่งมอบงานเขียนนี้แก่สมณกระทรวงเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1999

จากนี้ไปเราก็ได้แต่ภาวนาและรอคอยการพิจารณาตัดสินจากสมณกระทรวง

วันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1999 เป็นวันที่เรารอคอยด้วยความตื่นเต้น เพราะเป็นวันที่บรรดานักเทววิทยาของส มณกระทรวงว่าด้วยเรื่องนักบุญลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า มรณกรรมของคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง เป็นมรณสักขี และเวลาประมาณ 17.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ในวันเดียวกัน ก็ได้รับโทรสารจากกรุงโรมแจ้งว่า บรรดานักเทววิทยาของสมณกระทรวงว่าด้วยเรื่องนักบุญได้พิจารณาด้วยมติเป็นเอกฉันท์ว่า การมรณภาพของคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง เป็นการมรณภาพโดยมีสาเหตุมาจากความเชื่อแบบมรณสักขี (Martyr) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้ก ารเป็นบุญราศีของคุณพ่อนิโคลาสมีความเป็นไปได้มาก นั่นก็หมายความว่ากรณีนี้หมดข้อสงสัยโดยสิ้นเชิง จะรอคอยก็แต่การประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น คุณพ่อฟิตซ์แพรทริกก็กระซิบมาด้วยว่า ปกติจะมีการอ่านกฤษฎีกาเกี่ยวกับบุญราศีและนักบุญประมาณก่อนวันพระคริสตสมภพ ผมก็เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะถึงวันพระคริสตสมภพสักที วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1999 ก็มีการอ่านกฤษฎีกาจริงๆ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบชื่อของคุณพ่อนิโคลาสเลย ทำเอาผมผิดหวังอยู่มิใช่น้อย

วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1999 พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้ประกาศเรื่องนี้ให้คณะสงฆ์ได้ทราบอย่างเป็นทางการ ในโอกาสฟื้นฟูจิตใจ ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน นครปฐม และขอให้สัตบุรุษช่วยกันสวดภาวนาต่อไป เพื่อให้การดำเนินการประกาศเป็นบุญราศีได้เรียบร้อย

วันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1999 คุณพ่อจำเนียร กิจเจริญ ได้นัดประชุมคณะกรรมการฯ

ณ สำนักมิสซัง เนื่องจากคุณพ่อฟิตซ์แพทริกเดินทางผ่านมาที่กรุงเทพฯ และเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อรายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินงานของคณะกรรมการที่กรุงโรม หลังจากที่ได้ตัดสินว่ากรณีของคุณพ่อนิโคลาสเป็นการตายอย่างมรณสักขี

คุณพ่อฟิตซ์แพทริกได้แนะนำให้ทราบถึงเรื่องที่จะต้องมีการประกาศในกฤษฎีกา (Decree) โดยสมเด็จพระสันตะปาปา จึงจะถือว่าถูกต้อง ซึ่งคาดว่าจะเป็นประมาณต้นปี ค.ศ. 2000 และจะมีการฉลองหรือการสถาปนาตา มที่ได้กำหนดไว้ตามปฏิทินปีศักดิ์สิทธิ์ที่กรุงโรม วันที่ 5 มีนาคม, วันที่ 29 กันยายน และวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 พร้อมทั้งได้แนะนำสิ่งที่ต้อง

เตรียมล่วงหน้าเพื่อความเรียบร้อย ถ้ามีการประกาศขึ้น เช่น การเปิดหลุมศพซึ่งสามารถกระทำได้แล้ว แต่ก่อนที่จะดำเนินการขณะที่ดำเนินเรื่อง มีกฎว่าห้ามแตะต้องหรือเปลี่ยนปลงใดๆ ทั้งสิ้น

มิฉะนั้น จะทำให้การดำเนินเรื่องเป็นโมฆะ ให้พิมพ์ประวัติสั้นๆ ของคุณพ่อนิโคลาสเพื่อนำไปจัดพิมพ์ในหนังสือพิธีกรรมที่จะใช้ในพิธีวันสถาปนาที่กรุงโรม รวมทั้งจัดทำรูปขนาดใหญ่ของคุณพ่อนิโคลาสเพื่อใช้ในวันพิธีด้วย

ทำให้คณะกรรมการของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เริ่มพิจารณากันถึงสิ่งที่ต้องเตรียมล่วงหน้า โดยเฉพาะเกี่ยวกับกรณีการเปิดหลุมศพของคุณพ่อ ซึ่งต้องมีคณะกรรมการที่ประกอบด้วยนายแพทย์ 3 นาย ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกั บโครงกระดูก ลักษณะของโลงศพที่จะใช้บรรจุ และสถานที่ตั้งชั่วคราวและถาวร เหล่านี้เป็นต้น จัดพิมพ์หนังสือพิธีกรรมที่จะใช้ที่กรุงโรม รูปขนาดใหญ่ที่จะใช้

วันงาน ตลอดจนการจัดเตรียมที่ใส่พระธาตุ รูปที่จะพิมพ์ ของที่ระลึก ฯลฯ นับว่าการประชุมครั้งนี้ ทำให้เห็นถึงความน่าจะเป็นไปได้มีค่อนข้างมาก ความฝันใกล้เป็นความจริง

วันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2000 พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้อนุมัติให้เปิดหลุมศพของคุณพ่อนิโคลาส ภายในสุสาน อุโมงค์ใต้พระแท่นอาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก เวลาประมาณ 9.00 น. พระคาร์ดินัลได้ประกอบวจนพิธีกรรม ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการตามกฎหมายพระศาสนจักร ฝ่ายพระศาสนจักร ฝ่ายนายแพทย์ ได้แก่ นายแพทย์บุญสม

มาร์ติน, นายแพทย์ฤทธิไกร อัครสกุล และนายแพทย์ธานินทร์ สันธนะวนิช เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับกระดูก เจ้าหน้ าที่จากบริษัทมรดกโลก เจ้าหน้าที่บริษัทสันติพิทักษ์ และบริษัท ช. นนทชัย พระสงฆ์ นักบวช และฆราวาสจำนวนหนึ่งที่มีความเคารพรักต่อคุณพ่อ บางคนก็อยากมาสวดขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อ เสร็จแล้วนำกระดูกของคุณพ่อบรรจุไว้ในโลง และย้ายขึ้นมาไว้ภายในอาสนวิหารอัสสัมชัญ ทางด้านซ้ายมือ เพื่อสะดวกสำหรับคนที่จะมาสวดภาวนา และกระดูกบางส่วนที่จะบรรจุเป็นพระธาตุถวายแด่สมเด็จพระสันตะปาปา และสมณกระทรวงว่าด้วยเรื่องนักบุญ การดำเนินงานนี้ได้มีการบันทึกเป็นวิดีโอและภาพถ่ายตลอดทุกขั้นตอน

ประมาณกลางเดือนมกราคม ค.ศ. 2000 ก็มีข่าวมาจากกรุงโรมว่าจะมีการอ่านกฤษฎีกาประกาศให้คุณพ่อนิโคลาสเป็นบุญราศี การอ่านนี้จะทำเฉพาะพระพักตร์สมเด็จพระสันะตะปาปาในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2000 คุณพ่อฟิตซ์แพทริกก็ส่งข่าวมาอีกว่า น่าจะมีใครสักคนไปร่วมฟังการอ่านกฤษฎีกาในครั้งนี้ด้วย คณะกรรมการของเราก็เห็นด้วย จึงตกลงให้คุณพ่อทวีศักดิ์ กิจเจริญ เป็นผู้แทนเดินทางไปร่วมฟังการอ่านกฤษฎีกาในครั้งนี้

วันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2000 สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ประกาศในกฤษฎีกา ให้คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง เป็นบุญราศี โดยพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้มอบหมายให้คุณพ่อทวีศักดิ์ กิจเจริญ กรรมการผู้หนึ่งซึ่งดำเนินงานกรณีคุณพ่อนิโคลาส เดินทางไปฟังและติดตามการประกาศครั้งนี้ที่กรุงโรมด้วย สมเด็จพระสันตะปาปาทรงประกาศเมื่อเวลา 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) และทันทีที่ทราบผลคุณพ่อทวีศักดิ์ก็ได้โทรศัพท์ก ลับมายังประเทศไทย เพื่อเรียนให้พระคาร์ดินัลได้ทราบ และพระคุณเจ้าได้ประกาศให้คณะสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

ได้ทราบในเย็นวันที่ 27 มกราคม เวลาประมาณ 20.00 น. เศษ (เวลาในประเทศไทย) วันเดียวกัน ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน นครปฐม

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000 พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เชิญประชุมกรณีพิเศษ

คณะกรรมการที่ปรึกษา สมาชิกสภาสงฆ์ คณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการดำเนินงานกรณีคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง เพื่อเตรียมงานทั่วๆ ไป โดยเฉพาะสำหรับการสถาปนาที่

กรุงโรมวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2000 ได้กำหนดให้ใช้ชื่อว่า "บุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุงพระสงฆ์และมรณสักขี"